‘สุทธวรรณ’ โฆษกก้าวไกล ทวงถาม ‘กรมศิลปากร’ เร่งตามหา ‘อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ’ หากยังเฉยเข้าข่ายผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ กังขา ลานคอนกรีต กทม. ใน ‘สนามหลวง’ ขออนุญาตแล้วหรือไม่ ถ้าไม่คือผิดมาแต่แรก เผยอัตลักษณ์บ่งชี้โบราณสถานคือสนามหญ้า การปัก ‘หมุดคณะราษฎร 2’ จึงไม่ใช่การทำผิดกฎหมาย สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรคก้าวไกล และ ส.ส. เขต 3 จังหวัดนครปฐม ให้ความเห็นต่อกรณีที่ตัวแทนจากกรมศิลปากรเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ต่อผู้ชุมนุมที่ปักหมุดคณะราษฎรที่ 2 บริเวณลานปูนที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา
“อยากตั้งคำถามว่า สนามหลวงหรือทุ่งพระเมรุ ตอนที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในปี พ.ศ. 2520 อัตลักษณ์ ที่ระบุในเวลานั้นคือ ลานสนามหญ้า การที่ กทม. มาปรับปรุงเป็นลานคอนกรีตได้ขออนุญาตจากกรมศิลปากรหรือไม่ และกรมศิลปากรได้เข้ามากำกับการเทปูน ทำลานคอนกรีตหรือเปล่า
เรื่องนี้ควรเปิดเผยรายละเอียดการขออนุญาต และรายงานการตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่า กทม. ไม่ได้กระทำผิด พ.ร.บ.โบราณสถาน เสียเอง แต่ถ้า กทม. ไม่ได้ขออนุญาต นั่นก็แสดงว่า ลานคอนกรีตที่สนามหลวง ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่แรก แล้วจะมาเอาผิดคนที่เจาะพื้นปูน ที่ไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.โบราณสถานได้อย่างไร”
สุทธวรรณ ยังกล่าวถึงอีกประเด็นหนึ่งโดยเปรียบเทียบว่า ปัจจุบันมีโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้วหลายแห่ง ถูกทำลายและสูญหาย กรมศิลปากรต้องชี้แจงให้สาธารณชนทราบด้วย
อย่างเช่น อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ที่เคยอยู่บริเวณหลักสี่ ซึ่งอนุสาวรีย์นี้ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานชัดเจน การปล่อยให้ใครมารื้อถอนไป และหายไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ เป็นการทำผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน และอนุสาวรีย์นี้ ก็มีความหมาย และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของชาติ
“เรื่องนี้เงียบมานานมาก ทางกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมต้องมีคำตอบว่า มีความคืบหน้าไปอย่างไร ใครเป็นผู้กระทำ และอนุสาวรีย์ที่มีขนาดใหญ่ขนาดนั้น หายไปได้อย่างไร หากกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมไม่ทำอะไรเลย ก็อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้” สุทธวรรณ กล่าว