ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุให้นายกรัฐมนตรี นำงบประมาณปี 64 ของกระทรวงกลาโหมสำหรับซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ไปกู้วิกฤติเศรษฐกิจว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงชัดเจนถึงเหตุผลความจำเป็นไปแล้ว และมีการตรวจสอบกับสำนักงบประมาณทุกอย่างยังคงเป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ทุกประการ โดยเป็นงบฯผูกพันข้ามปีสำหรับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการผลิต และการแบ่งชำระ
ขณะนี้ ประเทศมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนอาวุธยุทธโธปกรณ์ให้มีความเพียงพอ เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการสนับสนุนงบให้มีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ ทำให้ปัจจุบันมีอาวุธยุทโธปกรณ์เก่าประมาณร้อยละ 80 และเพื่อทดแทนไม่ให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง ขณะเดียวกันที่ผ่านมา ภารกิจป้องกันตามชายแดนต้องใช้กำลังพลจำนวนหลายหมื่นคนในการดูแลพื้นที่ ทำให้การแก้ปัญหาชายแดนสามารถยุติได้ระดับหนึ่งจากภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ
โฆษกรัฐบาลระบุด้วยว่า ต้องขอขอบคุณฝ่ายค้านที่แสดงความเป็นห่วงถึงการใช้งบประมาณของปี 64 ในครั้งนี้ แต่ขอให้มีความเข้าใจ และห่วงใยถึงลูกหลานที่เป็นทหาร จำเป็นจะต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียด้วย
ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจได้ว่านายกรัฐมนตรีจะดูแลการดำเนินการทุกอย่างอย่างดีที่สุด และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด สำหรับในส่วนของงบประมาณที่นำมาให้ความช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูประเทศ นั้นอยู่ในงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว