“ไชยชนก” สรุป 6 นโยบาย ภท.แนะวางรากฐานระยะยาว พร้อมเผชิญความท้าทายเคียงบ่าเคียงไหล่รัฐบาล

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 นายไชยชนก ชิดชอบ สส.จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้อภิปรายนโยบาย สรุปของพรรคภูมิใจไทย โดยมุ่งเน้นมี พ.ร.บ. ควบคุมกัญชา ให้ความสําคัญในการปฏิวัติการศึกษา พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ค้าน entertainment complex แต่ต้องไม่มีกาสิโน ต้องปฏิวัติการศึกษา ผลักดันภาษีบ้านเกิด

นายไชยชนก กล่าวว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสําคัญเห็นถึงประโยชน์ในการที่ไม่นํากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เห็นถึงวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดในการนํา พ.ร.บ. มาควบคุมพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ชนิดนี้ ทางพรรคภูมิใจไทยสัญญาว่าจะขับเคลื่อนผลักดันอย่างระมัดระวังเพื่อให้พืชเศรษฐกิจนี้สามารถสร้างประโยชน์ในเชิงทางการแพทย์ทางเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพเพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทยตามความพร้อมความเข้าใจของสังคมไทย

ความท้าทายของระบบโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไม่ทันกาลเวลา ระบบการศึกษาไทย ระบบที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถ้าย้อนไปในวันที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์เจตนาที่ถูกสร้าง และถูกใช้งานขึ้นมาเป็นการกระจายองค์ความรู้ และยกระดับความรู้พื้นฐานของพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างทั่วถึงแต่ในวันนี้กาลเวลาเปลี่ยนไปแล้วครับบริบทต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

พรรคภูมิใจไทยจึงเห็นความสําคัญในการที่จะต้องปฏิวัติการศึกษา คําว่าปฏิวัติการศึกษา นอกจากการยกระดับการเรียนการสอน การสร้างระบบการศึกษาทางเลือกที่ฟรีจริงทั่วถึง และเท่าเทียมที่ทางกระทรวงศึกษา นําโดยท่านรัฐมนตรีพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ ทางพรรคภูมิใจไทยอยากเห็นระบบการศึกษาทั้งทางหลัก และทางเลือก ไม่โดนตีกรอบ อยากจะเห็นระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น และสนับสนุนเส้นทางการเรียนรู้ตามโอกาสตามความสามารถ และตามสถานการณ์ชีวิตของพี่น้องประชาชน

ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะเร็วหรือช้า ไม่ว่าต้นทุนชีวิตจะมากหรือน้อย สุดท้ายแล้วอยากเห็นระบบเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เรียนอย่างถ้วนหน้าพรรคภูมิใจไทยอยากเห็นระบบการศึกษาทางเลือกที่สามารถเพิ่มจุดประเมินหรือข้อชี้วัดศักยภาพของผู้เรียนอย่างละเอียดมากขึ้นเมื่อนํามาใช้ควบคู่กับใบประกาศนียบัตร นั่นก็คือระบบ Skill Certificate (การรับรองมาตรฐานวิชาชีพ)

พรรคภูมิใจไทย เห็นถึงโอกาสที่สามารถลดภาระ และแบ่งเบาเรื่องของหนี้สินครัวเรือนตามสถิติมากกว่า 40% ของหนี้สินครัวเรือนมาจากทุนการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสำหรับลูกหลานหรือสําหรับตัวเองหรือพี่น้อง พรรคภูมิใจไทยนั้นวิธีการแบ่งเบาภาระเรื่องหนี้สินมีมากกว่าแค่เรื่องของทางเศรษฐกิจ ความท้าทายของ over centralization system เป็นเรื่องของการกระจายอํานาจ

พรรคภูมิใจไทยอยากจะเห็นการกระจายอํานาจที่เหมาะสมในนโยบายรัฐบาล อีกทั้ง อยากที่จะเห็นพี่น้องประชาชนชาวไทยมีสิทธิ์ที่จะกําหนด และเลือกสัดส่วนของภาษี ที่สละแรง สละเหงื่อเพื่อหาเงินมาเพื่อที่จะระบุว่าจะนำภาษีไปลงที่ไหน อาจจะเป็นบ้านเกิดของเขา อาจจะเป็นบ้านเกิดพ่อตา แม่ยาย หรือแม้กระทั่งอาจจะเป็นแค่พื้นที่สักพื้นที่หนึ่งที่เขารู้สึกมีความผูกพัน และอยากจะพัฒนา เหตุผลที่เห็นความสําคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะว่าพรรคภูมิใจไทยเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะปลูกฝังจิตสํานึกความเป็นเจ้าของประเทศและพื้นที่นั้นๆ เพื่อนําไปสู่ความสามัคคี และจิตสํานึกที่อยากจะร่วมกันพัฒนาบ้านเกิด

” สำหรับผมมาจากประสบการณ์ส่วนตัว บุรีรัมย์ในวันนี้ กว่าจะมาเป็นบุรีรัมย์ได้เพราะว่าคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เหตุผลที่บุรีรัมย์ภายใน 20 ปีที่ผ่านมา พัฒนามาถึงจุดนี้ได้เป็นเพราะคนบุรีรัมย์มีความภาคภูมิใจ และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ มีส่วนร่วมในการพัฒนา มีความสามัคคีที่จะต้อนรับเป็นเจ้าบ้านที่ดีต่อแขกบ้านแขกเมือง เราถึงมาเป็นบุรีรัมย์ในวันนี้ ที่จะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ได้ แล้วถ้าเกิดว่าบุรีรัมย์จังหวัดที่จนอันดับ 3 ของประเทศไทยเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผมเชื่อว่าไม่มีที่ไหนในประเทศไทยที่ทําไม่ได้ครับ”

นายไชยชนก กล่าวอีกว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยเล็งเห็นเป็นโอกาสที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงเพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทยคือ โอกาสในการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ เป็นโอกาสที่จะสามารถให้พี่น้องประชาชนหารายได้จากค่าไฟ รวมไปถึงลดค่าใช้จ่ายไปด้วย นอกเหนือจากนั้นเป็นโอกาสที่จะทําตามนโยบายรัฐบาล นโยบายโลก และ Sustainable Development Goals : SDGs ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของโลกรวมไปถึงยุทธศาสตร์ชาติที่เรามีความตั้งใจ และพูดกันมาหลายรัฐบาลที่จะพยายามให้ประเทศเรากลายเป็น Carbon Neutral ความเป็นกลางทางคาร์บอน คือเป้าหมายหลัก และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทําไมพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ให้ความสําคัญกับ พลังงานสะอาด (Clean Energy) เขาไม่มี incentive แรงจูงใจใดๆ เลย อย่างที่ว่าทําไมไม่ สามารถที่จะขายไฟฟ้าคืนให้กับทางรัฐได้ เรื่องนี้ก็จะนําไปสู่ความท้าทายต่อไป นั่นก็คือความท้าทายของการกระจายโอกาสสู่พี่น้องประชาชนจากทุนผูกขาด

และยังเชื่อว่าเป็นประเด็นที่จะอยู่ในหลายๆ บริบทในการบริหารของประเทศไทย แต่ประเด็นที่จะขออนุญาตนํามาพูดถึงในวันนี้คงต้องเป็น hot topic นั่นคือ entertainment complex โดยขออนุญาตยืนยันจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ค้าน entertainment complex แต่ต้องเป็น entertainment complex ที่ไม่มีกาสิโน และต้องเป็น entertainment complex กระจายโอกาสสู่พี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างเท่าเทียมเพื่อส่งผลกระทบในการกระตุ้นการท่องเที่ยว และช่วยในการจัดระเบียบสังคมอย่างแท้จริง แต่ถ้าหากรัฐบาลชุดนี้มีความตั้งใจที่จะผลักดันเรื่องของการพนัน หรือธุรกิจใต้ดินเรื่องใดก็ตาม พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมที่จะสนับสนุน ภายใต้ผลประโยชน์ส่วนรวมต้องมาก่อน และผลประโยชน์ส่วนมากต้องตกเป็นของประเทศ เป็นของรัฐหรือพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริงไม่ใช่เป็นการยก หรือขายสัมปทานให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือต่างประเทศก็ตาม และต้องมีการกระจายโอกาสอย่างเท่าเทียมพร้อมกับมีวิธีการควบคุมอย่างเหมาะสม

การที่พรรคภูมิใจไทยบอกว่า รัฐเป็นเจ้าของ หมายถึง เจ้าของของผลประโยชน์ และเหตุผลที่รัฐควรที่จะต้องเป็นเจ้าของของผลประโยชน์เพื่อที่ว่าเราสามารถที่จะบริหารจัดเก็บ และเปลี่ยนแปลงมาเป็นงบประมาณเพื่อบริหารเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านของการบริหารต้องมีการประกวดราคาจ้างบริหารโดยแบ่งเปอร์เซ็นต์จากกําไร หากบริหารแล้วขาดทุน ผู้รับจ้างก็จะไม่ได้รับค่าจ้าง ต้องมองถึงการลดความเสี่ยงสําหรับทางรัฐ และมองถึงการเพิ่มประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และแน่นอนในหัวของพรรคภูมิใจไทยไม่เคยมีภาพที่จะมีเจ้าหน้าที่รัฐมานั่งแจกไพ่ หรือมานั่งปั่นไฮโล มันคือการเป็นเจ้าของของสิทธิ์เรื่องของการบริหารมันต้องเป็นหน้าที่ของมืออาชีพ นายไชยชนก กล่าว

นายไชยชนก กล่าวเพิ่มอีกว่า หลายนโยบายที่ได้พูดไปในวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วหน้าที่จะต้องใช้เวลาบางเรื่องอาจจะเสร็จภายในสมัยนี้ บางเรื่องอาจจะต้องใช้เวลา 2สมัย หรืออาจจะ 3 สมัย ตนได้ยินท่านนายกรัฐมนตรีขึ้นมาชี้แจงขอความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกในห้องนี้ให้อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ เพราะวันนี้พวกเราเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ อยากให้เราเป็นนักการเมืองตัวอย่าง และต้นแบบเพื่อเป็นความหวังให้กับพี่น้องประชาชน คําพูดเรื่องของการเป็น Gen ใหม่ สะกิดใจผม อาจจะในคนละมิติกับที่ท่านนายกได้มีเจตนา แต่สําหรับผม รู้สึกว่ามันถึงเวลาที่เราจะวางแผนระยะยาวอย่างจริงจัง เลิกคิดแค่ว่าในสมัยนี้เราทําอะไรได้ไม่ว่าใครจะมาสานต่อ เราควรจะวางระบบรากฐานที่สามรถทําให้เราพัฒนาประเทศในระยะยาวอย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบการศึกษาที่เราได้เริ่ม และขับเคลื่อนอยู่ในตอนนี้ อาจจะไม่เสร็จ แต่มันเป็นสิ่งที่จําเป็นต้องทําแล้วว่าไม่ว่าใครจะมาสานต่อ เราควรจะมีโครงสร้างที่พร้อม ที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้เพื่อให้เขาทํางานได้ต่อ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการขายไฟฟ้า หรือ GREEN ENERGY ในวันนี้ที่อาจจะกลายเป็นคาร์บอนดิจิทัล การขายคาร์บอนเครดิตในอนาคต แม้ว่าจะเป็นเรื่องของการกระจายอํานาจไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ควรจะมองในระยะยาว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ที่จะสร้างฟาวเดชั่น และขับเคลื่อนทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้พูดไปในการอภิปรายในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ในการดําเนินงานของรัฐบาลชุดนี้ ตราบใดที่ทุกๆ นโยบายที่รัฐบาลชุดนี้อยากที่จะขับเคลื่อน เห็นได้อย่างชัดเจน เช่น

1.ผลประโยชน์ส่วนมากเป็นของรัฐหรือเป็นของประเทศ หรือเป็นของพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างชัดเจน

2.โอกาสถูกกระจายถูกพี่น้องประชาชนอย่างเท่าเทียม และทั่วถึง 3 มีวิธีการควบคุม และบริหารความเสี่ยง และผลกระทบทางสังคม อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นนโยบายอะไร พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ของท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดนี้อย่างสุดความสามารถ นายไชยชนก เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวในที่สุด

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
นายกฯ ส่งเสริมการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2566 (Thai Coffee Excellent 2023) คัดสรรสุดยอดเมล็ดกาแฟ Arabica และ Robusta ชิงถ้วยพระราชทาน กรมสมเด็จพระเทพฯ
นายกฯ ส่งเสริมการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2566 (Thai Coffee Excellent 2023) คัดสรรสุดยอดเมล็ดกาแฟ Arabica และ Robusta...
Read More
0 replies on ““ไชยชนก” สรุป 6 นโยบาย ภท.แนะวางรากฐานระยะยาว พร้อมเผชิญความท้าทายเคียงบ่าเคียงไหล่รัฐบาล”