เอาโจรไปปราบโจร #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับ…

วานนี้ (๒๗ ตุลาคม) นายกฯ อนุทิน ประกาศข้ามประเทศจากมาเลเซีย ว่าไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมแก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์

ก็…สแกมเมอร์ นั่นแหละครับ

จะเป็นการร่วมมือกันในระดับนานาชาติ

“…ผมได้เจอประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พูดคุยวิธีการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ได้มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่รับข้อสั่งการก็จะนำไปดำเนินการ…”

แต่ก็ยังมีประเด็นที่ข้องใจกันอยู่ ตรงที่รัฐบาลตั้ง “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการหลอกลวงทางออนไลน์

เพราะข้อเท็จจริง “ธรรมนัส” มีความเทาประมาณหนึ่ง แต่รัฐบาลกลับตั้งให้ดูแลปัญหาค้ามนุษย์ และสแกมเมอร์ ซึ่งมีความเทาทั้งสิ้น

ก็ไม่ทราบคิดอะไรกันอยู่

แต่ก็มีคนเฉลย พร้อมหลักการและเหตุผล ฟังดูแล้ว ถูกก็ไม่เชิง ผิดก็ไม่ใช่

“ชาดา ไทยเศรษฐ์” ประธานวิปรัฐบาล บอกกับนักข่าวว่า…

“…ก็ทำไม ถ้าคุณเข้าใจแบบนั้น ทำไมคุณไม่เข้าใจว่าเอาโจรไปปราบโจรดีไหมล่ะ ขอให้คุณธรรมนัสรู้เรื่องจริงเถอะ ผมว่าเขาก็ต้องทำได้

อันนี้อยู่ที่ตัวท่าน อย่าเพิ่งไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร ผมก็ไม่ทราบ บอกตรงๆ ผมเสพข่าวน้อยมาก เสพเฉพาะเรื่องสำคัญ เพราะกลัวเข้าไปอยู่ในกระแสลมปั่นป่วน แล้ววิธีคิดของเราจะเสียไป ผิดไป…”

เอาโจรไปปราบโจร!

ความจริงแล้ว “ชาดา” ก็มีความเทา

เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเทาจริง ฉะนั้น “ชาดา” จึงเข้าใจแนวคิดแก้ปัญหาแบบนี้ดี

แต่ชาวบ้านชาวช่องจะเข้าใจเช่นนั้นด้วยหรือเปล่า

การใช้โจรจับโจร มีตัวอย่างให้เห็นเยอะครับ โดยเฉพาะยุค “ไอ้เสือ” ครองเมือง

มีตัวอย่างในงานวิจัยเรื่อง ภูมิปัญญาการปราบปรามของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดย วีระ แสงเพชร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ๒๑ โครงการย่อยเรื่องโครงสร้างและพลวัตวัฒนธรรมภาคใต้กับการพัฒนา ตามโครงการเมธีวิจัยอาวุโส ของศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย

ตอนหนึ่งมีการกล่าวถึง “มาตรการใช้โจรปราบโจร” เป็นเหตุการณ์เมื่อร่วม ๑๐๐ ปีที่แล้ว ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง

การเกิดชุมโจรบ้านดอนทราย อำเภอทะเลน้อย (ปัจจุบันคืออำเภอควนขนุน) จังหวัดพัทลุง ในช่วงที่ “ขุนสถลสถานพิทักษ์” เป็นนายอำเภอ บรรดาโจรน้อยโจรใหญ่ทั้งที่มีจรรยานักเลงและไม่มีจรรยานักเลง จากหลายสารทิศได้หลบหนีภัยการปราบปรามมาอาศัยเป็นสมุนของขุนโจร “รุ่ง ดอนทราย”

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามได้ใช้วิธีโจรปราบโจร ทำให้โจรบางคนเกิดความเคียดแค้นความทรยศของเพื่อน ถึงกับให้สถาปนาตนเองเป็นขุนโจร ที่เหี้ยมโหดยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า

เช่น “คล้าย แพรกหา” เป็นสมาชิกชุมโจรบ้านดอนทราย ซึ่งหลบหนีคดีฆ่าคน (ฟันคนฉุดน้องภรรยา) มาพึ่ง “รุ่ง ดอนทราย” ต่อมาได้รับการทาบทามติดสินบนจากทางราชการว่าจะไม่เอาผิดถ้าสามารถจับเป็นหรือจับตายเพื่อนโจรได้

ดังนั้น “คล้าย แพรกหา” จึงวางแผนฆ่า “ยก คอกควาย” หรือ “ยกหมูก” (จมูกโต) หัวเกลอผู้ร่วมสาบาน ร่วมอาชีพโจร โดยที่ในชั้นต้น “คล้าย แพรกหา” ไม่กล้าพอที่จะลงมือด้วยตนเองจึงยืมมือ “แก้ว ปรางหมู่” โจรมือใหม่ให้ลงมือแทน โดยวางแผนฆ่ากันที่เชิงบันไดบ้านของ “คล้าย แพรกหา” เอง

ขณะที่ทำทีเป็นตามมาส่งเพื่อนโดยเรียกให้เหลียวหลังมาแล้วให้ “แก้ว ปรางหมู่” กระโดดเข้าฟันด้วยพร้าลืมงอจากข้างหลัง แล้ว “คล้าย แพรกหา” กระโดดเข้าแทงด้วยมีดปลายเชียงจน “ยก คอกควาย” ตาย ต่อจากนั้น “คล้าย แพรกหา” ได้ไปยิง “ยก ตากแดด” ตายที่บ้านห้วยชรี เพื่อนเกลอซึ่งเป็นโจรกลุ่มเดียวกันตายไปอีกคน

สิ่งที่ “คล้าย แพรกหา” ได้คืนมาจากการฆ่าเพื่อนโจรร่วมก๊ก คือ ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านแพรกหาและต่อมาก็ได้เป็นกำนันตำบลพนมวงศ์

โจรที่รับหน้าที่ปราบโจรในกลุ่มเดียวกันอีกคนหนึ่ง คือ “ชู ฟันทอง” (น้องชายของขุนโจรกลับหาย) ซึ่งหนีคดีลักเล็กขโมยน้อยมาอยู่ในชุมโจร “รุ่ง ดอนทราย” แบบหนีร้อนมาพึ่งเย็น และเป็นผู้ที่ “ดำ ตาไฟ” เคยช่วยเหลือมากเป็นพิเศษจนทำให้ “ดำ ตาไฟ” วางใจเพราะถือว่าเคยมีคุณเก่า

“ชู ฟันทอง” ได้วางแผนฆ่า “ดำ ตาไฟ” โดยตั้งวงดื่มกะแช่กันที่ชายป่า หนองไอ้จอด (เขาย่า) โดยมี “ฤทธิ์ วังเข้” เป็นผู้ร่วมวงด้วย

เมื่อ “ชู ฟันทอง” มอมจน “ดำ ตาไฟ” เมาเต็มที่แล้ว ขณะที่ “ดำ ตาไฟ” กำลังยกกะลากะแช่ดื่มอย่างมีความสุข “ชู ฟันทอง” ก็ใช้พร้าลืมงอฟันตรงแสกหน้าจนตายคาวงน้ำตาลเมา

ส่วน “ฤทธิ์ วังเข้” ต้องรีบหนีเข้าป่าเพื่อเอาตัวรอด ผลตอบแทนที่ “ชู ฟันทอง” ได้รับจากทำหน้าที่โจรปราบโจรคือ ต่อมา “ชู ฟันทอง” ได้มีฐานะเป็นลูกมือของพระอธิการนุ้ย สหสฺสเตโช เจ้าอาวาสวัดกุฏ (วัดสุวรรณวิชัย) ในขณะนั้น และต่อมาได้เป็น “พรานดง” ของ พ.ต.ท.พระวิชัย ประชาบาล (บุญโกยเอโกมล) ผู้บัญชาการปราบชุมโจรบ้านดอนทราย มีหน้าที่ช่วยเหลือตำรวจในการตามจับกุมตัวและสืบหาข่าวสาร

การที่โจรหันไปรับทำหน้าที่ปราบโจร โดยทิ้งจรรยานักเลง ซ้ำร้ายยังใช้ “พร้าลืมงอ” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มเป็นอาวุธ ยิ่งทำให้บรรดาโจรคุมแค้นเจ้าหน้าที่และระแวงกันเองมากขึ้น

จนในที่สุดก็ปราบกันเองรุนแรงยิ่งขึ้น

ขุนโจรมือปราบโจรคนสำคัญ คือ “คลิ้ง หลาม่วง” ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดของ “รุ่ง ดอนทราย” เอง ซึ่งขณะนั้นเป็นกำนันคนใหม่ของตำบลดอนทราย แทนกำนันสี สงคราม ที่ถูกฆ่าตาย

“คลิ้ง หลาม่วง” ได้นำข่าวที่ “รุ่ง ดอนทราย” จะออกปล้นไปแอบรายงาน “ขุนสถลสถานพิทักษ์” นายอำเภอพนางตุง นายอำเภอจึงได้นำตำรวจไปแอบซุ่มยิง “รุ่ง ดอนทราย” ที่ช่องอ้ายหมี

เมื่อ “รุ่ง ดอนทราย” รู้ว่าญาติผู้นี้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จึงฆ่า “คลิ้ง หลาม่วง” ตายหลังจากนั้นเพียง ๓ วัน

ส่วน “นายซ้ำ” น้องชายของ “คลิ้ง หลาม่วง” ต้องหนีไปอาศัยอย่างถาวรอยู่ที่สถานีตำรวจพนางตุง

ต่อมาเมื่อ “รุ่ง ดอนทราย” ล้มป่วยอาการปางตาย ต้องการจะไปพักรักษาตัวที่บ้านเดิม ลูกน้องจึงช่วยพยุงพากลับบ้านดอนทรายตามที่ “รุ่ง ดอนทราย” ต้องการ บังเอิญ นางหนูชิดลูกสาวกำนันคลิ้ง หลาม่วง ได้เห็นเหตุการณ์ จึงไปเล่าให้นายซ้ำผู้เป็นอาฟังที่สถานีตำรวจ

ขุนสถลสถานพิทักษ์จึงนำกำลังตำรวจพร้อมอาวุธ (ปืนพระรามหก) ไปล้อมยิง โดยมีนายซ้ำน้องชายของ

กำนันคลิ้งและ “ยก ยางแค” เป็นผู้นำทาง

ในที่สุด “รุ่ง ดอนทราย” ถูกยิงตายในคืนนั้น อันนี้เป็นเหตุให้ “ดำหัวแพร” คั่งแค้นหนัก ประกาศล้างแค้นให้ “รุ่ง ดอนทราย” และเป็นหัวหน้าโจรสืบต่อจาก “รุ่ง ดอนทราย”

การใช้โจรปราบโจร ในยุคที่บรรดาขุนโจรต้องพึ่งพิงหัวเกลอที่เป็นโจรและยุคที่ขุนโจรยึดมั่นในความเป็นนักเลง ในทัศนะของฝ่ายปราบปรามอาจเห็นเป็น “กลอุบาย”

แต่ในฝ่ายกลุ่มโจรถือเป็น “เภทุบาย”

แทนที่จะเป็นการ “ดับไฟ” จึงกลายเป็นการ “โหมไฟ” ทำให้พฤติกรรมของโจรอุกอาจยิ่งขึ้น ไม่มีชาวบ้านคนใดติดต่อกับเจ้าหน้าที่เลย เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าไปติดตาม พวกคนร้ายกล้าถึงขนาดท้าต่อสู้เจ้าหน้าที่

กล่าวกันว่า “ดำหัวแพร” สามารถควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนสมัยนั้นชาวบ้านเรียกกันว่า “สมัยโจรกินเมือง”

ครับ…ใช้โจรจับโจร ถ้าได้ผล ก็ทลายรังโจรได้

แต่ถ้าไม่ได้ผล “โจรกินเมือง” ครับ.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลยึดมั่นคำสัตย์ปฏิญาณทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เคารพกระบวนการรัฐสภา พร้อมทำงานเพื่อคนไทยทั้ง 66 ล้านคน
9 กันยายน 2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาญัตติเปิดอภิปราย...
Read More
0 replies on “เอาโจรไปปราบโจร #ผักกาดหอม”