เป็นที่น่าจับตา กับผลการเลือกตั้งซ่อม 2 สนาม ที่เป็นสนามทดสอบความพร้อม 2 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ต้นปีหน้า 2569 หรือ อีก ราว 120 วัน
สนามทดสอบสำคัญทั้ง 2 สนาม ในภาคอีสาน คือจังหวัดศรีสะเกษ เขตภัยสงคราม ที่มีกระแส คลิปสะเทือนแผ่นดิน “อังเคิล” ติดตาตรึงใจไปชั่วลูกชั่วหลาน
และในภาคตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี แม้กระแส “อังเคิล” ไม่แรงเท่าในพื้นที่ชายแดนไทย กัมพูชา แต่ด้วยความเป็น เขตทหาร ผลการเลือกตั้งจึงมีความหมาย
ชัยชนะของ “ครูอี๊ฟ – จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล” สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย
ตอกย้ำในชัยชนะของ “น้องดรีม-วิสุดา วิเชียรศิลป์” ทายาทของ “ศักดา วิเชียรศิลป์”
เป็นการสะท้อนภาพทางการเมือง ระหว่าง พรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
สะท้อนความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งประกาศ “ยกเครื่องพรรค-ยกเครื่องประเทศ” ที่สุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ ในตำแหน่ง ผอ.การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ประกาศ เป้าหมาย เก้าอี้ สส.ครั้งหน้า 200 ที่นั่ง ว่าจะเป็นเพียงการเคาะชามข้าว หรือใส่หมดแมกซ์ ของจริง
ถ้า ผอ. เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ตั้งใจจริงกับ 200 ที่นั่ง ท่ามกลางกระแสตกต่ำ ต้อง “กล้า”ใส่หมดแมกซ์ เพื่อ ผลเลือกตั้งซ่อม กาญจนบุรี ไม่พลาด เป็นเรียกขวัญกำลังใจ
ต่างจากพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล สามารถกวาดชัยชนะทั้ง2 สนามเลือกตั้ง เป็นการตอกย้ำ ว่าเป็นพรรคการเมืองขาขึ้น ประชาชนให้การยอมรับ โดยเฉพาะ การทำงาน รวดเร็วฉับไว ในมาตรการช่วยเหลือประชาชน
แม้จะมีเวลาเพียง 120 วัน แต่เร่งรัดงานแก้ปัญหาทั้ง ภัยเศรษฐกิจ (คนละครึ่งพลัส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ภัยความมั่นคง (เงินช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบการสู้รบชายแดน) ภัยธรรมชาติ (เยียวยาประชาชนได้รับผละกะทบอย่างเร่งด่วน) และ ภัยสังคม (ตั้งกรรมการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์)
ชัยชนะ 2สนามเลือกตั้ง สนามทดสอบ ก่อนการเลือกตั้งสนามใหญ่ จึงเป็นการทดสอบความพร้อมครั้งสำคัญ ต้องยอมรับว่า การที่พรรคภูมิใจไทย ชนะพรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 เขต แสดงให้เห็นความตกต่ำของเพื่อไทย สวนทางกับ พรรคภูมิใจไทย ที่มีคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้น ในยามนี้.
