สันต์ สะตอแมน
แต่ก่อนแต่ไร..
เชื่อกันว่าการจะเป็น “ปลัดอำเภอ” จะต้องขยันหมั่นท่องตำรา-อ่านหนังสือ กินข้าวกล่องอยู่หอรอสอบแข่งขันกับคนนับพัน สอบตกก็วนใหม่ มุ่งมั่นตั้งใจต้องเอาให้ได้!
แต่ยุคนี้ดูเหมือนความเชื่อ-กฎเหล็กนั้นได้ถูกทำให้กลายเป็น “กฎเหล็กไหล” ที่ละลายได้ง่ายๆ ถ้ามีสิ่งหนึ่งติดตัวที่เรียกว่า.. “ยอดวิว”!
ผู้กองแคท อาทิติยา ที่ก่อนนี้ผมก็พอจะเห็นหน้าเห็นตาอยู่บ้างในฐานะ “นักร้องลูกทุ่งสาว” ที่ซึ่งก็ไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย
แต่..เผลอแพล็บก็เห็นเธอสวมเครื่องแบบเป็น “ผู้กองยอดรัก” เอ๊ย “ผู้กองแคท” อวดความเท่-สง่างามอยู่ในติ๊กต๊อก มีคนติดตามเป็นหมื่นเป็นแสนอย่างน่าประหลาดใจ!
และยิ่งประหลาดใจ จนคิดว่าน่าจะเอาเป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจนที่สุด จากผู้กองไวรัลใน TikTok ทำไมถึงได้ขยับกลายเป็น “ปลัดอำเภอ” ในเวลาแค่ไม่กี่อึดใจ..
เรียกว่า เร็วพอๆ กับการเลื่อนคลิปสั้นในหน้าฟีด จนอดที่จะตั้งคำถามไม่ได้..นี่คือการปฏิรูประบบราชการ หรือการปฏิรูปอัลกอริทึมกันแน่?
แน่นอน แฟนคลับ-คนรัก-คนเชียร์ก็ยินดีกันไป และมองว่า “ดีแล้ว ราชการควรมีคนรุ่นใหม่ มีคาแรกเตอร์สดใส” จะได้ช่วยให้ชาวบ้านไม่รู้สึกอึดอัดยามติดต่องานราชการ
ในขณะที่คนอีกกลุ่มกลับขมวดคิ้วแรงๆ เพราะสิ่งที่เห็นมันสะท้อนว่าในระบบนี้ การสอบ การฝึก การทำงานหนักหลายปี อาจสู้ความดัง-มียอดวิวบนโซเชียลไม่ได้!
คำถามคือ ตำแหน่งปลัดอำเภอถูกออกแบบมาเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ หรือเพื่อดูยอดฟอลโลเวอร์ในโลกออนไลน์กันแน่?
ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็คงต้องรีบตั้ง “กรมการไวรัล” เพิ่มขึ้นมาคู่กับกระทรวงมหาดไทยไปเลย จะได้ตรงตามบทบาท..พูดจริงใจ เปล่าแดกดัน!
ซึ่งความจริงก็โหดร้ายกว่านั้น เพราะการเลื่อนตำแหน่ง-ขยับขั้นเร็วเกินไปแบบนี้ อาจกลายเป็น “ดาบสองคม” ก็เป็นได้
หมายความ..ถ้าทำงานจริง เจอปัญหาจริง และพิสูจน์ได้จริง ก็คงเงียบเสียงวิพากษ์วิวิจารณ์ แต่จะดังด้วยเสียงชื่นชมเยินยอ
แต่หากเป็นเพียง “ปลัด PR” หรือ “ปลัดโชว์” สุดท้ายกระแสก็จะหันกลับมาทิ่มแทงตัวเธอ และจะยิ่งหนัก-แรงกว่าตอนดัง!
นี่..ไม่ได้อิจฉาความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของ “ปลัดแคท” เพียงแต่ไม่อยากให้ความเข้มข้น-ความขลังของการเป็น “ปลัดอำเภอ” ถูกมอง-หยัน..
ปั้น “ยอดวิว” ให้สูงก็สวมเครื่องแบบได้แระ!
เอ้า..แล้วนั่นเธอต้องการอะไรหรือ? ผมหมายถึงคุณภัสรนันท์ อัษฎมงคล หรือ “เบียร์ เดอะวอยซ์” ที่วันก่อนคุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้ตัดสินใจถอนฟ้องโดยให้เหตุผล..
ไม่อยากเห็นเด็กไปอยู่ใต้ถุนศาลที่มีลูกกรง!
แต่วานนี้หนูเบียร์กลับโพสต์.. “ความจริงและความยุติธรรม ไม่ได้ต้องการความเมตตา ขอบคุณค่ะ” แถมยังเมนต์ใต้โพสต์ด้วยว่า..
“พูดว่ามีมูลแน่นอนได้ไง ในเมื่อถอนก่อน???”
ก็..เป็นเสียอย่างนี้ ผู้ใหญ่อุตส่าห์มีเมตตาไม่คิดจะเอาเรื่องเอาความ หวังจะให้เลิกแล้วต่อกัน แต่เด็กกลับทำปากเก่งเยาะหยันเย้ยแบบไม่น่ารักเอาเลย
แล้วนี่ คุณหนุ่มจะเอาอย่างไรต่อ จะฟ้องใหม่หรือจะหนักแน่นในเจตนาเดิมก็เห็นจะต้องตามดูตามฟังกันไป แต่ความคิดเห็นผม เมื่อเธอไม่ได้ต้องการความเมตตา
คุณหนุ่มก็ต้องปล่อยให้ความจริงและความยุติธรรมได้เดินหน้าต่อไป ผมไม่ได้หมายจะยุ แต่เมื่อหนูเบียร์ต้องการจะค้าความดีกว่ากินขี้หมา ก็จัดไปอย่าได้ขัดใจเธอ
เว้นเสียแต่ คุณหนุ่มจะกล้าๆ กลัวๆ เกรงจะสู้คดีความไม่ได้อย่างที่หนูเบียร์ยั่วยุ ถ้างั้นก็ต้องตั้งสติทบทวนให้ถ้วนถี่
ขืนโหนกระแสไปตามเด็กยั่ว ทั้งที่คำฟ้องไม่มีมูล ก็อาจจะเสียท่าเสียหน้าเสียฟอร์มเอาได้ แต่ถ้ามั่นใจ..
ต้องให้เด็กไปยืนใต้ถุนศาลซะให้เข็ด!.
