เมื่อทนายท้าดื่มเยี่ยว #สันต์สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

ฟุตบอลมีรุกและรับ!

“ทนายตั้ม” คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็เช่นกัน เห็นเปิด “เกมรุก (ฆาต)” ใครต่อใครด้วยพละกำลังฮึกเหิมหวังขยี้ให้แหลกลาญอยู่แหม็บๆ..

เผลอแผล็บ ตอนนี้ถอยร่นลงมาเป็น “ฝ่ายตั้งรับ” เสียแล้ว เมื่อนักธุรกิจสาวอดีตลูกความเข้าแจ้งความว่า “ทนายตั้ม” ฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน หลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์ม “หวยออนไลน์”!

แต่..จะว่า “ตั้งรับ” เสียทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะเห็นจากที่ไปออก “โหนกระแส” ให้คุณหนุ่ม กรรชัย ถามประเด็นใช้ของแบรนด์เนม ดูร่ำรวยเกินกว่าอาชีพทนายทั่วไป

ทนายตั้มก็ได้เฉลย.. “เงินเหล่านี้ได้มาจากลูกความคนหนึ่งที่เป็นมหาเศรษฐีที่อยู่ในต่างประเทศ เขาทำธุรกิจหลายอย่างในประเทศไทย

และจ้างให้ผมช่วยดูแลทำธุระต่างๆ ในเมืองไทยแทนเขา ที่เห็นว่าผมไปเมืองนอก ผมไปกับลูกความ รายได้ต่างๆ ที่ได้มา ได้มาจากมหาเศรษฐีคนนี้เป็นส่วนใหญ่

เขาซัพพอร์ตแทบทุกอย่าง เคยได้เงินจากเขามาถึง 2 ล้านยูโร (ประมาณ 70 ล้านบาท) ที่เขาให้มาเพื่อจะเอาเงินเหล่านี้เข้ามาในไทย

โดยผมก็หาวิธี ทำโปรเจกต์อะไรต่างๆ เพื่อรับเงินจากเขาเข้ามา โดยไม่เสียภาษี 40 เปอร์เซ็นต์” แล้ว

ทนายตั้มยังได้โพสต์ (หลังสื่อกระพือข่าว).. “พี่..ลงข่าวว่าผมฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน พนันกันไหมใครหน้าแหก ดื่มเยี่ยว 71 แก้ว”

กับอีกโพสต์.. “ดวงผมมันเป็นอย่างนี้แหละครับ ทุบมาเลย ยิ่งทุบยิ่งมันส์”

เนี่ย..แสดงว่ายังพร้อมจะกลับมาเปิดเกมรุกต่อ อย่างงี้กองเชียร์ (อย่างผม) ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่อยากให้มั่นใจถึงกับประกาศท้าสุ่มสี่สุ่มห้า “ดื่มเยี่ยว 71 แก้ว” เลย..

ทนายน่ะ ก็ใช่ว่าจะชนะทุกคดีไป เกิดพลาดท่าเสียที..เยี่ยวนะ ไม่ใช่เบียร์ จะดื่มยังไงไหว ไม่เอาๆ ใครจะหน้าแหก-หน้ายับ ก็พนันกันเบาๆ..

เอาแค่ซดไซยาไนด์ เอ๊ยไม่ใช่ ดื่ม “ชาชัก” สักแก้วสองแก้วพอมั้ง?

เอ้า..แล้วนั่นก็กลัวจะตกเทรนด์หรือไง คุณต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนตร์คนดัง จึงได้โพสต์..

“กูเคยเป็นผู้เสียหายจากธุรกิจขายตรงมาก่อนนะ หลายปีมาแล้ว แต่ไม่ใช่ The Icon นะ ตอนนั้นเป็น Unicity เพื่อนคณะที่ศิลปากรมาชวนไปร่วมโปรเจกต์

ตอนนั้นมันบอกว่านี่ไม่ใช่ขายตรง นี่คือการสร้างโปรเจกต์ มึงมาสร้างโปรเจกต์ร่วมกันกับกู แล้วมึงจะเป็นอิสระทางการเงิน ทางความคิด

มึงจะทำหนังอะไรก็ได้ที่มึงอยากทำ มึงจะขับรถคันไหนก็ได้ ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ มึงไม่ต้องขายของ มึงแค่หาคนมาขายแทนมึง…..เอ๊ะ ไอ่สัxเดี๋ยวนะ!

เชี่ย! นี่มันเหมือนกันกับ The Icon เป๊ะเลยครับ! กูตัดรำคาญด้วยการยอมซื้อสินค้าในราคาต่ำสุดกับเพื่อนคือ 25,000 แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่รับสายเพื่อนคนนั้นอีกเลย

Unicity ทำให้กูเสียเงินไป 25,000 พร้อมกับเสียเพื่อนไปอีกหนึ่งคนตลอดชีวิต!

จำไปจนตายเลยสัx! ถามเพื่อนที่คณะว่าเพื่อนที่ทิ้งความสามารถทางศิลปะแล้วไปขายตรงเพราะความโลภนั้นชีวิตเป็นไง?

เพื่อนทุกคนส่ายหน้าด้วยความสงสารและสมเพช ไอ่สัxเป็นศิลปินมึงจะมาทำเป็นเห็นแก่เงินไม่ได้ มึงมีความสามารถมากกว่านั้น!

ประสบการณ์นี้คือเหตุให้ The Icon ไม่ได้แดกคนแบบผมครับ! แต่ตกใจมากที่ธุรกิจนี้มันยังคงมีอยู่

แม่xเอ้ย ถ้าไม่มี Unicity กูคงเสีย 250,000 ค่าตัดความรำคาญ อย่างไม่มีทางเลี่ยง สัXเอ้ย!”

เออ..ไหนๆ พูดถึงผู้กำกับภาพยนตร์แล้ว ก็ขออนุญาตส่งท้ายนิด วันที่ 31 ตุลา. “สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย” จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนที่ 9..อย่าลืมไปใช้สิทธิ-ใช้เสียงกันล่ะ!

ผมน่ะไม่ได้เชียร์ใครเป็นพิเศษ แต่ถ้าคุณต้อม ยุทธเลิศ ลงสมัคร..

เชียร์ขาดใจ!.

Written By
More from pp
นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส.?-ผักกาดหอม
ผักกาดหอม เริ่มตีเกราะเคาะกะลา นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. ดูเหมือนจะเป็นการปลุกสถานการณ์ทางการเมืองก่อนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ มาใช้ประโยชน์กับการเลือกตั้งครั้งนี้ สาเหตุคงมาจาก พรรคเพื่อไทย ไม่เสนอชื่อ “อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา” อยู่ในบัญชีของผู้สมัคร...
Read More
0 replies on “เมื่อทนายท้าดื่มเยี่ยว #สันต์สะตอแมน”