ว่าด้วย “รัฐบาลส่วนเกิน” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

จะต้องลงไปให้มันเกะกะในพื้นที่ทำมั้ย?

นายกฯ น่ะ!

ทำให้ข้าราชการเขาต้องเสียเวลางานมารับหน้าไปเปล่าๆ ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรงอกเงยขึ้นมาเลย

แถมยังจุ้นจ้านหน้างาน ไปสั่งแบบไม่เป็นประสา ให้ฝ่ายไทยไปประสานฝ่ายเขมร “เปิด-ปิด” ด่าน ให้ตรงเวลากัน

เราต้องไปประสานทำไม?

ก็เราเปิด ๘.๐๐ น. ปิด ๑๕.๐๐ น. ตามมาตรการของเรา

ทางฝั่งเขมรก็ “เปิด-ปิด” ให้เป็นเวลาเดียวกับไทย มันก็สิ้นเรื่อง

แต่ทีนี้ ฝั่งเขมรทำดัดจริต

แทนที่จะเปิด-ปิดให้ตรงเวลาตามไทย กลับยักเยื้องไปเปิดตอน ๙.๐๐ น. ปิด ๑๖.๐๐ น.ทำให้มันเหลื่อมเวลากัน ๑ ชั่วโมงไปเอง

แล้วนายกฯ จะให้ไปประสานแบบไหน ไปกราบตีนเขมรถาม. “ท่านต้องการให้ไทยเปิด-ปิดเวลาไหนขอรับ?”

ถ้าเขมรบอก เขาจะเปิด ๙.๐๐ น. ปิด ๑๖.๐๐ น.เราก็ต้องเปลี่ยนเป็น เปิด ๙.๐๐ น. ปิด ๑๖.๐๐ น.ตามฝั่งเขมรงั้นหรือ?

ต้องชม “พล.ท.บุญสิน พาดกลาง” แม่ทัพภาคที่ ๒ ท่านมีความอดทนสูง จึงตอบแบบถนอมเกียรติ-ให้หน้านายกฯ ว่า

“หน่วยงานความมั่นคงจะลองประสานกับกองทัพฝ่ายกัมพูชาดู” พร้อมให้ความเห็นเสริมว่า

“อาจมีนัยยะบางอย่าง เหมือนมีลักษณะของการเมืองเล็กน้อย เพื่อชิงความได้เปรียบ

หลังจากนี้ ฝ่ายความมั่นคง ผู้ว่าฯ ในพื้นที่ จะมีการหารือกันต่อไป”

นี่…ที่ช่องจอม สุรินทร์มีด่านถาวรด่านเดียวคือ “ด่านช่องจอม” แต่ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งควรสนใจเป็นพิเศษ และนำไปบอกพ่อ

ที่สุรินทร์มี “ช่องทางธรรมชาติ” ลอดจากไทยเข้าเขมรได้ถึง ๕๔ แห่งแน่ะ!

การที่เขมรยักเยื้องเวลา “เปิด-ปิดด่าน” ไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร ด้วยวิสัยสำนึกพื้นฐาน ก็ต้องรู้ว่า มันเป็นอีโก้ทางการเมืองของเขา

ดังนั้น มันเป็นสัญญะทางชั้นเชิงเขา เราจะต้องไปสน-ไปประสานให้เขมรมันนึกว่า “เราไปง้อ” มันทำไม?

“หน้างาน” ไม่ได้นี้ดนายกฯ เลย พูดตรงๆ น่ารำคาญซะด้วยซ้ำ

ขนาดไปประจี๋-ประจ๋อ เป็นนายกฯ มาเยี่ยม มาทักทายทหารฝ่ายปฎิบัติการภาคสนาม กลับไม่มีใครสน จนเจ้าตัวต้องออกลูกตลกแก้หน้า

“ทำไมทุกคนดูเงียบกันจัง”!?

ก็เงียบซี เพราะปัญหาไทย-เขมรครั้งนี้ บทบาทนายกฯ “ไม่มีราคาเลย” ไงล่ะ!

คุยจัง คำนึงก็ “ติดต่อพูดคุยกับนายกฯ ฮุนมาเน็ต ฮุนเซนตลอด”

ถ้าคุยกันตลอดและคุยกันรู้เรื่อง เขมรพ่อ-เขมรลูก จะกร่างกับไทยจนเกินตัวอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มั้ยล่ะ?

ดูข่าวช่อง 7 สี เมื่อวาน (๑๑ มิ.ย.) หรือเปล่า นักข่าวเขาไปสอบถามความรู้สึกชาวบ้านเกี่ยวกับการลงพื้นที่ของนายกฯ

“นางดรุณี” แม่ค้าไก่ย่าง บอกรู้สึกอุ่นใจขึ้นระดับหนึ่ง นายกฯ ลงมาดูความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่

“นางสาวปริตตา” แม่ค้าลอตเตอรี่ บอกว่าไม่ดีใจที่นายกฯ มาลงพื้นที่ เพราะรู้สึกว่า “เราพึ่งพาเขาไม่ได้เลย”

ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง เขาไม่เคยมาดูแลเราเลย ที่อยากขอบคุณ อยาก “ขอบคุณทหาร” ที่อยู่แนวชายแดนมากกว่า ที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจ ในยามบ้านเมืองระส่ำระสายแบบนี้

“ฉันไม่หวาดกลัวเหมือนตอนปี ๒๕๕๔ เพราะคิดว่า ฝั่งกัมพูชา เขาพึ่งพาเราหลายอย่าง แต่ก็ไม่อยากให้มีการปะทะ

แต่หากจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อรักษาดินแดน ก็ยอมรับได้”

๑๔ มิ.ย.ที่จะประชุม JBC อย่าไปหวังว่าจะตกลงอะไรกันได้ เขมรสองพ่อลูก เขามองข้ามช็อตทวิภาคี ฟุ้งซ่านไปถึง “ศาลโลก” โน่นแล้ว

นายฮุน มาเนต ไปเดินสาย กอดแข้ง-กอดขา “ลูกพี่เก่า” อยู่ที่ฝรั่งเศสโน่น ตอนนี้

ดูท่าเขามั่นใจมาก ว่า “ฟ้องฝ่ายเดียว” แล้วจะชนะ เหมือนที่ชนะคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อปี ๒๕๐๕

ขณะที่เขมรเขามีแต้มเล่นกวนโอ๊ยได้เรื่อยๆ แต่ทางฝั่งไทย มองหน้านายกฯ รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายกฎหมาย

พูดได้คำเดียว “ใจเหี่ยวยันหำ”!

เขมรมีธงชัดเจนว่า เขาไม่ต้องการสันติ แต่ต้องการ “มีเรื่อง” กับไทย ฉะนั้น ไม่ต้องไปหวังความตกลงใดๆ จากการเจรจาไม่ว่าระดับ JBC หรือ GBC, RBC

ไทยจะใช้บท “ผู้แสวงหาสันติ” ไปตั้งรับ “อันธพาล” มีแต่ทางเสียรังวัดวันยังค่ำ

กับเขมร ต้องโยนให้กองทัพเขาไปเล่น ส่วนรัฐบาลคอยบริการอยู่ข้างหลัง อย่าสะเออะรู้ดีและออกหน้าไปเล่นเอง

“ทหารเขมร” มันแพ้ทาง “ทหารไทย” เชื่อผมเหอะ ปล่อยให้ทหารเขารับมือ แล้วทุกอย่างจะดีเอง

ฮุนมาเน็ต ทำเป็นเก๋า อาศัยที่เขมรเป็นทาสยุโรปเก่า ก็เดินสายหาแนวร่วม ป้อนข้อมูลเท็จ กะถล่มไทยในศาลโลก

แล้วย้อนดูรัฐบาลเพื่อไทย มีปัญญาคิดอ่านอะไรมั้ย?

ตรงกันข้าม กองทัพที่เห็นนิ่งๆ เขาทนไม่ได้ ที่พ่อลูกจะเอาไทยไปถวายเขมร ออกมาแอ็กชั่นวันเดียว เขมรถอยกรูดชนิดนุ่งกางเกงไม่ทัน

ขณะที่แนวหน้าปฎิบัติการ ทางแนวหลัง กองทัพสั่ง “พลโท กำชัย วงศ์ศรี” เจ้ากรมข่าวทหารบก

เชิญ ๕๐ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำไทยและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกไทยประจำต่างประเทศ

เข้ารับฟัง ชี้แจง เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้

และสถานการณ์เฉพาะกรณี “ชายแดนไทย – กัมพูชา” พร้อมภาพถ่ายเขตแดนพื้นที่ทางอากาศและการรุกล้ำเข้ามาในแดนไทยของทหารเขมร ที่กองบัญชาการกองทัพบก

นี่เขาเรียกว่า “ทหารมืออาชีพ” ขณะที่ฮุนเซนส่งลูกชายไปหาแนวร่วม ฝ่ายไทยป้อนข้อมูลข่าวสารบนข้อเท็จจริงให้ตัวแทนแต่ละประเทศได้เข้าใจความจริงของเรื่องราวไปเรียบร้อยแล้ว!

“รัฐบาลมือสมัครหากิน” ดูตัวอย่างไว้ ว่าการเป็นผู้นำบริหารประเทศนั้น ยามบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ก็นั่งหัวโต๊ะอ่านไอแพดได้

แต่ยามบ้านเมืองมีปัญหา คนเป็นนายกฯต้องแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้นำบริหารที่มีกึ๋น ไม่ใช่มีแต่ขี้กับไส้ แล้วยังอวดฉลาดแบบโง่ๆ

การรบ “แพ้-ชนะ” นอกจากอยู่ที่คนแล้ว ยังอยู่ที่ข้อมูล

จากกรณี “ช่องบก” ของไทย แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายรัฐบาล “ไม่กระดิกหู” เลย ด้านข้อมูล

รัฐมนตรีกลาโหมจึงแถลงเต็มปาก-เต็มคำ ด้วยคำที่ทำให้ไทยเสียพื้นที่ทันที โดยเขมรไม่ต้องออกแรงด้วยคำว่า “โนแมนแลนด์”!

ดีว่านักข่าวไปจี้ถามนายกฯ จนเป็นเรื่อง-เป็นราว ทหารเห็นท่าขืนปล่อยให้รัฐบาลรับมือเขมร เราจะเสียพื้นที่ ๒๐๐ ตารางเมตรให้เขมรเพราะคำว่า “โนแมนแลนด์” ไปจริงๆ

จึงมี “คำสั่งกองทัพบก” (เฉพาะ) ที่ 806/2568 ตอนหนึ่งว่า

“……..กองทัพบกต้องใช้มาตรการเข้มข้นในการผลักดันผู้รุกรานให้พ้นไปเสียจากราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะที่บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ ผลประโยชน์ของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดนที่ไม่อาจยอมรับได้”

เจอ “กำปั้นเหล็ก” หุ้มกำมะหยี่ของกองทัพเข้าเท่านั้นแหละ เขมรขอเจรจา กลบคูเลต ถอยกรูด มาทางไหน กลับไปทางนั้นในบัดดล!

ฉะนั้น ที่เขมรสองพ่อลูก กระเหี้ยนกระหือรือ จะนำปราสาทตาเมืองธม-ตาเมือนโต๊ด-ปราสาทตาควาย และพื้นที่ช่องบก ไปฟ้องศาลโลกว่าเป็นของเขา นั้น

อยากฟ้อง-ฟ้องไป ส่วนไทยเรา “ไม่รับอำนาจศาลโลก” มานานแล้ว มีประเด็นว่า สมมติศาลโลกตัดสินฝ่ายเดียว ให้เขมรชนะ

แล้วเราจะทำไง?

ยอมยกให้เขมรหรือ…มะเหงกแน่ะ…ยอม!

ก็มีทางเดียว เขมรขืนมาทึกทักเอา เป็นได้เจอลูกปืนแน่ ไอ้ที่ฮุนเซนบอกจะเหมือนฉนวนกาซานั้น ไม่มีทางเหมือนหรอก

เพราะถ้ารบกันจริงๆ ……

ไทยจะได้ฉวยจังหวะเอา เสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ เกาะกง ปราสาทพระวิหาร กลับคืนมาให้หมด!

เอ้า…คุยเท่านี้พอ

วันนี้ รอดูผลโหวตที่ประชุม ๗๐ กรรมการแพทยสภาดีกว่า  ว่าจะยืนยันตามมติเดิมของแพทยสภา คือ “ลงโทษ ๓ แพทย์”

หรือจะเห็นด้วยกับการยับยั้งมติแพทยสภาของนายสมศักดิ์ “สภานายกพิเศษ”?

ผลโหวตจาก ๗๐ กรรมการแพทยสภาวันนี้ จะมีผลบวกและลบไปถึงคดี “คุกทิพย์” ของทักษิณบ้าง

ซึ่งพรุ่งนี้ (๑๓ มิ.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง

นัดพร้อมโจทก์-จำเลย

รวมทั้ง ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร  อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ

ให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาลว่า

การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ “บังคับโทษจำคุก” แก่นายทักษิณ นั้น

“เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร?”

แต่ “ทั้งหลาย-ทั้งปวง” จะยังไม่มีผลสรุปในวันนี้ ตามสิทธิการิยะท่านว่า กรกฎา.คาบเกี่ยวสิงหา จะมีผลออกมา “ทั้งพ่อ-ทั้งลูก”

จะ “สัมภเวสี” หรือไม่ เห็นใครต่อใคร พยักหน้าหงึกๆ!

เปลว สีเงิน

๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ

 

Written By
More from plew
จารย์ทราม-ศิษย์ซวย – เปลว สีเงิน
 เปลว สีเงิน แล้ว “ทักษิณ” ก็มา….! ผ่านคลิปวิดีโอกับหมู่คณะขี้ข้าเก่าๆ สอนวิธีทำแบบไหนคนไทยถึงจะไม่จน ความจริงไม่ต้องสอน “โกงมาแบ่งกัน” ง่ายๆ แค่นั้น ทำให้เห็นมาแล้ว...
Read More
0 replies on “ว่าด้วย “รัฐบาลส่วนเกิน” #เปลวสีเงิน”