นายกฯ แพรอโพย #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เป็นไงครับ…การเมืองสไตล์เขมร

หางเริ่มโผล่

วานนี้ (๙ มิถุนายน) “ฮุน เซน” โชว์ความพลิ้ว…

“…ทหารกัมพูชาและไทยตกลงร่วมกัน ปรับกำลังพล เพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียดที่อาจลุกลาม…”

“…การปรับกำลังทหารไม่ใช่การถอนทหารออกจากดินแดนของตนเอง แต่ยังคงอยู่ภายในดินแดนของตนเอง เปรียบเหมือนการนอนบนเตียง ที่เรายกศีรษะขึ้นเพื่อเปลี่ยนท่านอน ไม่ใช่การลุกออกจากเตียง…”

“…ดินแดนยังคงเป็นของเรา…”

เรื่องของเรื่องคือ “ฮุน เซน” มิได้สื่อสารกับคนไทย

แต่เป็นการสื่อสารกับชาวกัมพูชา

ฉะนั้นจึงฟังดูทะแม่งๆ

ฝ่ายไทยใช้คำว่าถอน

แต่ “ฮุน เซน” บอกว่าปรับกำลัง แค่เปลี่ยนท่านอน แต่ยังนอนอยู่ที่เดิม

ถ้าเป็นแบบนี้ก่อนถอน ทหารไทยต้องดูให้มั่นใจว่า ทหารเขมร ถอนกำลังจากจุดปะทะที่ช่องบก สามเหลี่ยมมรกตจริงหรือเปล่า

ฝั่งเขมรให้การเมืองชี้นำทหาร

แต่ฝั่งไทยการเมืองแอบหลังทหาร

ไม่รู้ว่าลับลวงพราง หรือสับขาหลอกให้เขมรตายใจ

นี่มองในแง่บวกกับรัฐบาลไทยนะครับ

แต่ข้อเท็จจริงดูเหมือน “แพทองธาร ชินวัตร” อดีตนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เลย

ยกเว้นเรื่อง พ่อเป็นเพื่อนพ่อนายกฯ กัมพูชา

ลูกพี่ลูกน้อง เป็นสะใภ้ บิ๊กนักการเมืองกัมพูชา

นอกนั้น ไม่พูดไม่ตอบ

เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว

วานนี้ นักข่าวถามที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นใจและคลายความกังวลได้แล้วจริงๆ ใช่หรือไม่

เงียบกริบ!

ไม่เป็นไร…นักข่าวถามหยอดว่า ผลการเจรจาราบรื่น เป็นเพราะนายกฯ ได้พูดคุยกับผู้นำกัมพูชาแล้วใช่หรือไม่ และจะพูดอะไรหรือขอบคุณทหารหรือไม่

ภาพที่เห็นคือ นายกฯ แพไร้โพย ยิ้ม

แต่ไม่ตอบคำถาม

ขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาลไปทันที

นี่คือบรรยากาศขณะที่ ทางเขมร โชว์ลีลาการเมืองลูกทุ่ง แต่ทางผู้นำไทย ใบ้รับประทาน

มันยากขนาดนั้นเลยหรือครับกับการตอบคำถามเรื่องที่ประชาชนทั้งประเทศอยากรับรู้ความเคลื่อนไหว และต้องการให้นายกฯ พูดอะไรออกมาบ้าง

กลายเป็นว่าทหารต้องออกมาให้ความเห็นรายวัน

โพสต์ของ “ผู้พันเบิร์ด” พล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ทำเอา “ฮุน เซน” ต้องรีบกลับไปเขียนแผนที่ใหม่เลยครับ

“…แค่ใช้ ๑/๒ แสนก็ไม่แม่นแล้ว

เขมรยึดถือแผนที่ ๑ ต่อ ๒๐๐,๐๐๐ ไทยใช้แผนที่ ๑ ต่อ ๕๐,๐๐๐ (L 7018) อธิบายง่ายๆ ว่า ถ้าขีดเส้น 1 เส้นลงไปในแผนที่ ๑ ต่อ ๒๐๐,๐๐๐ จะมีความกว้าง ๒๐๐ เมตร

ส่วนใน ๑ ต่อ ๕๐,๐๐๐ จะมีความกว้าง ๕๐ เมตร ซึ่งต่างกันถึง ๔ เท่า เหมือนเขมรเอาเมจิกหัวใหญ่ทู่ ส่วนไทยใช้เมจิกหัวเล็กแหลม ขีดเส้นบนแผนที่

หัวใหญ่ทู่จะกินดินแดนของอีกฝ่ายไปโดยอัตโนมัติ เกิดความคลาดเคลื่อนสูงกว่าไทยแน่นอน คาดเดาต่อไปว่า

๑.เขมรน่าจะทำแผนที่ ๑ ต่อ ๕๐,๐๐๐ ไม่ได้ เพราะการทำจะต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่า แต่อาจมีใช้จากการสนับสนุนจากต่างประเทศ

๒.และถ้าใช้แผนที่ ๑/๒๐๐,๐๐๐ การยิงอาวุธระยะไกล ไม่แม่นแน่นอนครับ

อธิบายด้วยภาพชัดเจน ว่าช่องบกที่ปะทะ อยู่ในไทยครับ ดูแผนที่ด้านล่างได้…”

ไม่แปลกหรอกครับ รัฐบาลกัมพูชา มักมาพร้อมกับความคลุมเครืออยู่เสมอ หากชัดเจนเมื่อไหร่ ฝ่ายตรงข้ามเห็นหมดว่าไส้มีกี่ขด

การใช้แผนที่ของกัมพูชามีปัญหามากจริงๆ ครับ

เพราะฝรั่งเศสขี้ราดไว้ในอดีต เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ไทยเสียเขาพระวิหาร

แผนที่อัปยศที่ว่าทำขึ้นโดย พันเอกแบร์นาร์ด ในกองทัพฝรั่งเศส กับ ร้อยเอกอุ่ม นายทหารในกองทัพกัมพูชา

เป็นการลากเส้นเขตแดนประเทศตามอำเภอใจ

ไม่คำนึงถึงสันปันน้ำซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตที่แท้จริงตามอนุสัญญา ค.ศ. ๑๙๐๔ และสนธิสัญญาและพิธีสาร ค.ศ. ๑๙๐๗

เป็นแผนที่ ๑ ต่อ ๒ แสน ซึ่งคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงอย่างมาก

วันนี้ กัมพูชาจะเอาแผนที่อัปยศมาใช้อีก

แต่ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเราไม่ไปศาลโลก

ยกเว้นรัฐบาลไทยอยากจะวัดดวง โดยการชี้นำของ “เสือกทุกเรื่อง” แต่คงได้วัดกับคนไทยก่อน

ครับ… “ฮุน เซน” ขี่หลังเสือแล้ว จะไปบอกว่ามันเมื่อยขอลงไปพักสักแป๊บ พูดแบบนั้นไม่ได้ครับ ถูกเสือกินแน่

จึงออกมาในลักษณะขอเปลี่ยนท่านั่งหน่อย คนกัมพูชาก็คงจะเชื่อผู้นำตามนั้น แต่ข้อเท็จจริงคือ ถอยออกจากจุดปะทะทั้ง ๒ ฝ่าย

แต่ก็ไม่จบง่ายๆ หรอกครับ เพราะปั่นกระแสออกมารุนแรงซะขนาดนี้ จู่ๆ มาจูบปากกับไทย มันก็ดูกระไรอยู่ คงเล่นการเมืองลูกทุ่งเขมรต่อไป

ฉะนั้น ผู้นำไทยก็ควรจะพูดกับประชาชนให้รู้เรื่อง อย่าปล่อยให้มีการปั่นกระแสไปถึงขั้น ให้ทำสงคราม

อย่าไปทำเลยครับ เวลานี้พี่น้องชาวเขมรจำนวนมากแทบไม่มีจะกินแล้ว เขาลำบากเพราะระบอบ ฮุน เซน มากพอแล้ว อย่าไปซ้ำเติมอีกเลย

แค่ปิดด่านก็เหมือนถูกลงโทษหนัก!

อีกอย่างการไปรบกับเขมร คงไม่ได้อะไรขึ้นมา

เสียงบประมาณ เสียคนไปโดยใช่เหตุ

เอาเป็นว่า ไม่มีทางหรอกครับที่ ทหารเขมรจะเข้ามายึดปราสาททั้งหลายแหล่ที่อยู่ในฝั่งไทย

ทหารไทยไม่ยอมแน่นอน

เป็นห่วงแต่ฝ่ายการเมืองนี่แหละ ไม่รู้กำลังคิดจะสร้างเรื่องอะไรหรือเปล่า

ย้ำนะครับ รัฐบาลไทยมีหน้าที่แค่ทำความเข้าใจในข้อเท็จจริงทั้งมวลกับประชาชนคนไทยให้เกิดความกระจ่างเท่านั้นเอง

ไม่ใช่นักข่าวถาม เอาแต่ยิ้ม

“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เคยบอกว่า

“…ผมมานั่งคิดว่าทำไมเราถึงยิ้ม ก็เพราะคนไทยไม่มีจุดยืนเรื่องอะไรเลย เมื่อโดนถามเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตอบไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือยิ้ม คนไทยเป็นคนที่ไม่มีจุดยืน…”

วันนี้ยอมรับครับว่าเห็นด้วยกับ “ธนาธร”

คำพูดนี้เหมาะกับ “นายกฯ แพรอโพย” จริงๆ.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
DITTO รุกถือหุ้น NETBAY 24.90% ต่อยอดธุรกิจ DATA ครบวงจร
บอร์ดไฟเขียว DITTO เข้าถือหุ้น NETBAY 24.90% มูลค่าเกือบ 850 ล้านบาท “ฐกร” ย้ำเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและยังส่งให้ DITTO เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจ...
Read More
0 replies on “นายกฯ แพรอโพย #ผักกาดหอม”