ผักกาดหอม
เริ่มถอดแล้วครับ…
สถาบันไหนในประเทศไทยที่เคยให้รางวัล “อังเคิลฮุนเซน” มีเสียงเรียกร้องให้ถอด ให้เรียกคืน ให้หมด เนื่องจากบุคคลคนนี้ ไม่ควรได้รับเกียรติเพราะ เป็นผู้ก่ออาชญากรรมสงคราม เป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน
แม้กระทั่งเด็ก ผู้หญิง คนชรา ล้วนถูกฆ่าโดยคำสั่งของ “ฮุน เซน”
อำมหิตแบบนี้ไม่ควรให้ความเคารพใดๆ ทั้งสิ้น
ก็ยังแปลกใจครับว่าคบหากับ “ทักษิณ” มาได้อย่างไรตั้งหลายสิบปี
หรือเคมีของทั้งคู่ตรงกัน
ต้องยกนิ้วให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงครับ เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ไปเรียบร้อย พร้อมออกแถลงการณ์ ได้เด็ดดวงจริงๆ
…การประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ ๙/๒๕๖๘ วาระที่ ๕.๑ เรื่อง ข้อเสนอเพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของสมเด็จ ฮุนเซน
โดยที่ประชุมได้อภิปรายและพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว มีมติให้เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ของสมเด็จ ฮุนเซน ด้วยเหตุผลดังนี้
ตามที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ ๖/๒๕๔๔ วันจันทร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๔ วาระที่ ๕.๑ ได้มีมติอนุมัติปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ให้แด่ สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในขณะนั้น โดยส่วนหนึ่งของคำประกาศเกียรติคุณได้ระบุว่า
“สมเด็จ ฮุนเซนได้เสริมสร้างและส่งเสริมความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพ และความร่วมมืออย่างดี ความสัมพันธ์โดยเฉพาะระหว่างกัมพูชากับไทย เป็นไปอย่างมีมิตรภาพและภราดรภาพ ฯลฯ”
บัดนี้ ปรากฏว่า สมเด็จ ฮุนเซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา สมาชิกรัฐสภากัมพูชา เสนาธิการทหารกองทัพกัมพูชา และพลเอกอาวุโสด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพกัมพูชา ได้แสดงพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับคำประกาศเกียรติคุณดังกล่าว
โดยมีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐไทยอย่างชัดแจ้ง มีการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการใช้กำลังอาวุธอย่างรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมต่อประชาชนชาวไทย เป็นเหตุให้ทหารและพลเรือนไทยต้องบาดเจ็บล้มตาย บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเสียหายอย่างประเมินค่ามิได้
รวมตลอดทั้งสมเด็จ ฮุนเซน ส่งเสริมให้มีการรุกล้ำอำนาจอธิปไตยของไทย ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันตามแนวพรมแดนของทั้งสองประเทศดังที่ทราบโดยทั่วกัน พฤติกรรมที่กล่าวมานี้สวนทางกับคำประกาศเกียรติคุณที่สมเด็จ ฮุนเซน เคยได้รับการยกย่องเชิดชูจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ดังนั้น หากปล่อยให้สมเด็จ ฮุนเซน ถือครองสิทธิในปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ดังกล่าวต่อไปย่อมทำให้สังคมไทยเกิดความเข้าใจผิดในเจตนารมณ์ของการมอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ที่ได้เคยดำเนินการมาแล้ว
เมื่อพฤติกรรมของผู้ได้รับมอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เปลี่ยนแปลงไป คำประกาศเกียรติคุณดังกล่าวย่อมสมควรจักต้องถูกลบล้างไปด้วย ซึ่งการลบล้างคำประกาศเกียรติคุณดังกล่าว ดำเนินการได้ด้วยหนทางเดียวเท่านั้น คือ การเพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่ได้เคยมอบให้แด่สมเด็จ ฮุนเซน
กอปรกับข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยการให้ปริญญากิตติมศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๕ ระบุว่า “ผู้ที่สมควรได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิสมควรแก่ปริญญานั้นๆ มีชื่อเสียงเกียรติคุณดีเด่น มีคุณธรรมและต้องมีคุณสมบัติเฉพาะดังต่อไปนี้
ข้อ ๕.๒ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือการงานที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประเทศชาติ หรือแก่สังคมนานาชาติ หรือบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมที่เกี่ยวเนื่องกับปริญญาที่จะได้รับ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของการมอบปริญญากิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ผู้ได้รับมอบจักต้องธำรงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์และคุณค่าของปริญญากิตติมศักดิ์นั้นๆ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงที่เป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ของสมเด็จ ฮุนเซน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงมติเป็นต้นไป…
ครับ…คนไร้คุณธรรมต้องไม่ยกย่อง
เสียดายครับเรื่องนี้ ไม่ได้เริ่มจากรัฐบาลไทยเช่นเคย
ดูเหมือนรัฐบาลยังเมาหมัดอยู่ทำอะไรก็ดูช้าไปหมด ภาระจึงไปตกกับสถาบันการศึกษา หรือไม่ก็นักการเมืองฝ่ายค้าน
“ไตรศุลี ไตรสรณกุล” จากภูมิใจไทย กระทุ้งไปยังรัฐบาล เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ “ฮุน เซน” ได้รับ
“วุ้นเส้น” ได้เครื่องราชฯ อะไรไปบ้าง
ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๒๑ ข. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ
มีรายละเอียดว่า….
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยากรณ์ให้แก่ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-กัมพูชา และความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จำนวน ๓ ราย ดังนี้
๑.เครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาปรมาภรณ์ช้างเผือกสมเด็จฮุน เซน (H.E. Samdech Hun Sen ) นายกรัฐมนตรี
๒.เครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมากรณ์ช้างเผือก
๒.๑ นายฮอร์ นัมฮอง (H.E. Mr. Hor Namhong) รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
๒.๒ นายซก อาน (H.E. Mr. Sok An) รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๔ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ทั้งเครื่องราช ทั้งปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เกิดในสมัยรัฐบาลทักษิณ
ไม่เท่านั้น!
สมัยลุงจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการมอบเครื่องราชฯ ให้ “วุ้นเส้น” เช่นกัน
คือปี ๒๕๔๐ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด
มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
ฉะนั้นต้องถอดให้หมด
คนเลว ใจอำมิตอย่ายกย่องครับ
เลวแค่ไหนก็ดูเอาแล้วกัน
“หมอวรงค์” ลากไส้ประจาน “วุ้นเส้น” ละเมิดข้อตกลงจีบีซี ทั้งๆ ที่ ๒ ประเทศเพิ่งจะลงนามกันไปแค่ข้ามคืน
“…ผลการเจรจาได้มีการลงนามร่วมกัน ในวันที่๗ สิงหาคมนี้ที่ประเทศมาเลเซีย สิ่งที่น่าแปลกใจที่ ฝ่ายกัมพูชาไม่เห็นด้วยใน ๒ เรื่องคือ ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ออนไลน์สแกม ที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยและประเทศในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง
สิ่งที่น่ากังวลใจ หลังการลงนามเพียงวันเดียว วันรุ่งขึ้น ๘ สิงหาคม เพจของฮุนเซนก็ได้ทำการละเมิดข้อตกลง ที่ตกลงไว้ ๑๓ ข้อ ได้ละเมิดในข้อ ๙ ซึ่งมีรายละเอียด ‘งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอม’
เพราะเช้านี้เองในเพจส่วนตัวของฮุนเซน ได้มีการทำคลิปเผยแพร่ แม้จะเขียนข้อความว่า เชิญชมเพลง «กัมพูชาต้องการสันติภาพและความยุติธรรม» แต่ในสาระล้วนโจมตีมาที่ฝ่ายไทย โจมตีว่า ไทยเราทำลายวัดที่เป็นมรดกโลก เรียกร้องให้ปล่อยตัวเชลยศึก หรือแม้แต่ใช้ข้อความ Thailand land of Bullies และภาพประกอบเพลงที่สื่อว่าโจมตีฝ่ายไทย
เพียงแค่วันเดียว ฮุนเซนยังกล้าละเมิดข้อตกลง ด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอม มีหรือที่ในอนาคต ฮุนเซนจะยอมเคารพข้อตกลง และปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่ประเทศต่างๆ เขาเคารพกัน…”
สั่งฆ่าเด็กโดยไม่สลดใจแม้แต่น้อย นับประสาอะไรกับข้อตกลงจีบีซี ที่ “วุ้นเส้น” พร้อมจะละเมิดตลอดเวลา
คนแบบนี้อย่าให้มีที่ยืนครับ
ตายไปผีก็ไม่ต้องเผา.
