“ทักษิณ” กับ “ทิดแย้ม” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

“มติแพทยสภา” ร้อนๆ……

ถึงมือรัฐมนตรีสาธารณสุข “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” เทพอุ้มสม “อดีตนักโทษทักษิณเรียบร้อยแล้วแต่วานซืน (๑๕ พ.ค.๖๘)

ใจความใหญ่มติแพทยสภา “พักใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม” ๒ นายแพทย์ รพ.ตำรวจ คือ

“พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์” นายแพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ และ “พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหาจารุ” อดีตนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตร.

กรณี “ให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง”

และว่ากล่าวตักเตือน ๑ ราย คือ “พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์” แพทย์ รพ.ราชทัณฑ์

เมื่อ “เผือกร้อนๆ” ถึงมือรัฐมนตรีสมศักดิ์ ในฐานะ “สภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา” จะต้องทำความเห็นส่งกลับให้ “แพทยสภา” ภายใน ๑๕ วัน

ว่า “เห็นชอบ” ตามนั้น หรือจะ “วีโต้” มติแพทยสภา!?

วิจารณ์กันขรม ด้วยเสียงแตกเป็น ๓ ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่า นายสมศักดิ์ “ไม่กล้าวีโต้” หรอก อีกฝ่ายว่า นายสมศักดิ์วีโต้แน่

แต่เสียงฝ่ายที่ ๓ มาแปลก

“อาจารย์คมสัน โพธิ์คง” ดันก้น “รัฐมนตรีสมศักดิ์” ให้รีบใช้อำนาจวีโต้มติ “แพทยสภา”

โดยท่านโพสต์เฟซไว้ว่า…..

“ผมสนับสนุนให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงสาธารณสุข ใช้อำนาจ วีโต้ มติ แพทยสภา

ผมได้รับทราบข่าวลือมาว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.รมว.กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษของแพทยสภา

จะใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๒๕ วีโต้ มติ แพทยสภา เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ที่ให้ลงโทษ แพทย์จำนวน ๓ คน

จากกรณี การส่งตัวนักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่ชั้น ๑๔ รพ. ตำรวจ ซึ่งผมเห็นว่า ควรสนับสนุนให้ใช้อำนาจดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังนี้

๑.นายสมศักดิ์ฯจะได้ตอบนักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างเต็มปากว่า ตนได้ใช้อำนาจยับยั้งแล้ว ตามที่ได้รับมอบหมายให้มานั่งเป็นรัฐมนตรี

ถึงแม้ว่าในที่สุดอาจจะช่วยไม่ได้ เพราะแพทยสภาคงลงมติอีกครั้ง ซึ่งน่าจะมีจำนวนเกินกว่า ๒ ใน ๓ ของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่เหมือนเดิม เพราะคงเป็นการยากที่จะมีการเปลี่ยนแปลงมติได้

ซึ่งจะทำให้นายสมศักดิ์ฯตอบคำถามได้และคงอธิบายให้ “นาย” ฟังได้ว่า ผมพยายามเต็มที่แล้วครับ

แต่มันทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ “นาย” คงเข้าใจ แล้วอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องเลยตามเลยไป

๒. นายสมศักดิ์ฯ ซึ่งโดยฐานะที่มีการกระทำที่ขัดแย้งกันในอำนาจหน้าที่จากการดำรงตำแหน่งในสองกระทรวง คือเคยเป็น รมว.กระทรวงยุติธรรม

และทำการออกกฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตาม พรบ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.๒๕๖๐

และต่อมาก็มาเป็น รมว.กระทรวงสาธารณสุข ที่มีฐานะเป็นสภานายกพิเศษของแพทยสภา

ซึ่งหากนายสมศักดิ์ฯ ใช้อำนาจวีโต้มติแพทยสภา เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ก็ใช้อำนาจลงโทษแพทย์จำนวน ๓ คน ที่ได้มีส่วนร่วมในการส่งตัวนักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่ชั้น ๑๔ รพ. ตำรวจ

ตามกฎกระทรวง เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่นายสมศักดิ์ได้ออกมาในครั้งที่เป็นฐานะ รมว.กระทรวงยุติธรรม

ซึ่งหากการกระทำของนายสมศักดิ์ฯ ในการวีโต้มีผลสำเร็จเนื่องจากแพทยสภา ลงมติ ๒ ใน ๓ ของกรรมการแพทยสภาทั้งหมด

ก็จะทำให้การกระทำของนายสมศักดิ์ฯนั้นมีความเสี่ยงที่จะถูกวินิจฉัยได้ว่า กระทำความผิดสำเร็จจากการตระเตรียมการไว้ล่วงหน้า ที่จะเป็นการกระทำโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘๔ และมาตรา ๒๐๓

ซึ่งนอกจากมีความผิดอาญา แล้วยังมีเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๑๙

และมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.๒๕๖๑ ซึ่งนำมาใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย

เราคงเสียนักการเมืองคนนี้ที่เป็นรัฐมนตรีมาหลายสมัยไปตลอดกาล และน่าจะทำให้เป็นผลดีแก่ประเทศชาติ ที่อาจได้คนดีๆที่ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรี ได้เข้าเป็นรัฐมนตรีที่ดีมีความรู้ความสามารถในอนาคต”

แต่ปรากฎว่ารัฐมนตรีสมศักดิ์ “บินเหนือเมฆ” ไม่ลงมติอย่างใดอย่างหนึ่งเอง

ตั้ง “คณะทำงาน ๑๐ คน” มาพิจารณามติแพทยสภาแทน ซึ่งไม่ว่าผลออกมาแบบไหน สามารถ “ออกตัว” ได้ว่า..ไม่ใช่พ๊มมม ไอ้พวกพวก ๑๐ คนโน้นนน มันทำ!

”โลซก” กลับชาติมาเกิดจริงๆ นะนี่!

แต่ไม่ว่า “๑๐ องครักษ์” ที่สมศักดิ์ตั้งจะเห็นชอบหรือวีโต้มติแพทยสภา ก็ไม่มีผลกับการไต่สวนของ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง” ที่ศาลนัดพร้อมในวันที่ ๑๓ มิ.ย.๖๘

จะมีบ้าง ก็ในฐานะ “เครื่องเคียง” ในสำรับเท่านั้น เพราะที่ศาลนัดพร้อมโจทก์-จำเลยมาซักถาม

ประเด็นหลักอยู่ตรงเรื่อง “ติดคุกจริง-ติดคุกทิพย์, ป่วยจริงป่วยทิพย์” ของทักษิณ เนื่องจากศาลท่านมีความเห็น ว่า…..

“ที่ศาลตัดสินจำคุกไปนั้น อาจมีการบังคับคำพิพากษาไม่เป็นไปตามหมายจำคุก”!

ท่านต้องการไต่สวนตรงนี้ เมื่อไต่สวนทวนความ โจทก์-จำเลย พิจารณาแล้ว ตรวจสอบ เรียกเอกสารต่างๆ มาดู จนกระจ่างแล้ว

ศาลท่านก็จะมี “คำสั่ง” ตามที่เห็นสมควร ในกรณี “โทษจำคุก” ทักษิณ!

ส่วนเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ ก็เป็นเรื่องแพทยสภาเขาจะว่ากันไป

๑๐ องครักษ์ที่ “สภานายกพิเศษสมศักดิ์” ตั้ง มีใครบ้าง ดูหน้ากันหน่อยก็ดี มีองค์ประกอบ ดังนี้

๑.นายชัยนันท์ งามขจรกุลกิจ เป็น ประธาน

๒.นายชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ เป็นที่ปรึกษา

ส่วนกรรมการประกอบด้วย

๓.นายพงษ์ศักดิ์ แก้วกมล

๔.นายพิทักษ์ ฉันทประยูร

๕.นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร

๖.นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์

๗.นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์

๘.นายวชิระ ปากดีสี เป็นกรรมการและเลขานุการ คนที่ 1

๙.นายวิทยา พลสีลา เป็นกรรมการและเลขานุการ คนที่ 2

๑๐.นายปิยะวัฒน์ ศิลปรัศมี เป็นกรรมการและเลขานุการ คนที่ ๓

เมื่อวาน ถ้าผมแทงหวยแม่นเหมือน “หวยสมศักดิ์” วันนี้ได้ปิดสนามหลวงเลี้ยงไปแล้ว เพราะแทงว่า ๑ ใน ๑๐ ที่สมศักดิ์ตั้ง

ต้องมี “นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์” นายกฯ สมาคมทนายความด้วยแหงๆ

แล้วมันก็แหงจริงๆ!

กรณีมติแพทยสภาจะยืดเป็นหนังสติ๊กหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะเห็น ๔-๕ วันก่อน “พล.ต.ท.โสภณรัชต์” และ “พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์”

มอบหมายทนายความไปร้องขอความเป็นธรรมต่อ “รัฐมนตรีสมศักดิ์”

พล.ต.ท.โสภณรัชต์ยืนยันว่า “ไม่เคยพูด” คำว่า “ผู้ป่วยวิกฤติ” ขนาดไหนอย่างไร และเขาเป็นเพียง “ผู้บังคับบัญชา” ไม่ได้เป็นผู้วินิจฉัยโรค

พูดจริงหรือไม่เคยพูด ไม่ต้องเถียงกัน

เพราะ “สำนักข่าวอิศรา”…….

นำเทปคำสัมภาษณ์ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ เมื่อ ๒๓ ส.ค.๖๖ เกี่ยวกับอาการป่วยของทักษิณ

หลังถูกส่งตัวจาก “ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์” มารักษาที่รพ.ตำรวจ ช่วงเวลา ๐๐.๒๐ น.มาเผยแพร่ เมื่อวาน(๑๖ พ.ค.๖๘)

ผมถือวิสาสะนำมาเผยแพร่ต่อ ตามข้อความที่ “สำนักข่าวอิศรา” นำลงเว็บ ดังนี้

“พลตำรวจโท โสภณรัชต์ ได้ชี้แจงถึงอาการป่วยของนายทักษิณและเหตุผลในการส่งตัวเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ

โดยพลตำรวจโท โสภณรัชต์ ระบุอาการของนายทักษิณที่ต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลตำรวจ ว่า

มีการแน่นหน้าอกกะทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำและค่าความดันโลหิตสูงมาก

“อยู่ดีๆ ท่านมีอาการแน่นหน้าอก ความดันโลหิตตก แล้วออกซิเจนต่ำมาก ทางอาจารย์หมอที่ราชทัณฑ์ท่านก็เก่งมาก

พยายามจะดึงความดันลง แต่ลงได้ไม่เยอะ อาการเหนื่อยหอบก็มากขึ้น ทางราชทัณฑ์จึงต้องขอส่งตัวมาด่วน”

ขณะที่ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ มีการสอบถามว่า

“อาการป่วยของนายทักษิณ คิดว่าจะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจมากน้อยเพียงใด?”

พลตำรวจโท โสภณรัชต์ ตอบว่า “ในเบื้องต้น ถือว่าอาการหนักครับ ก็ใช้เวลาครับ ..แล้วเดี๋ยวยังต้องตรวจอีกหลายอย่าง”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า “หนัก..อย่างเช่นอะไร พออธิบายได้หรือไม่?”

พลตำรวจโท โสภณรัชต์ ไม่ตอบคำถาม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า

“เวลาผู้ป่วยป่วย ตามกฎหมายเราไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้ป่วยเป็นอะไรได้บ้าง เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ป่วย”

แต่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ ยอมรับว่า…..

“ระบบทางเดินหายใจกับระบบหัวใจเป็นปัญหาใหญ่เกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ”

เมื่อสื่อมวลชนถาม อาการนายทักษิณสามารถที่จะไป-กลับ ระหว่าง “ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์” กับ “โรงพยาบาลตำรวจ” ได้หรือไม่?

พลตำรวจโท โสภณรัชต์ ตอบว่า “ถ้าอาการขนาดเมื่อวานกับวันนี้ ไม่ไหวครับ”

เมื่อถามถึงการเฝ้าดูอาการป่วยของโรงพยาบาลตำรวจ ที่จะทำต่อ พลตำรวจโท โสภณรัชต์  ตอบว่า

“เรื่องปอดกับหัวใจ แล้วก็เรื่องระบบประสาท เรื่องปวดหลังร้าวลงขา ขาอ่อนแรง กำลังจะตรวจเพิ่ม”

สำหรับคลิปสัมภาษณ์ พลตำรวจโท โสภณรัชต์ ที่กรรมการสอบสวนแพทยสภา นำมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการตรวจสอบเรื่องนี้ มาจากสื่อมวลชนหลายสำนัก

หนึ่งในนั้นเป็น คลิปไลฟ์สด ของ NationTV ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ ๒๓ ส.ค.๖๖ ซึ่งเนื้อหาการสัมภาษณ์เริ่มตั้งแต่นาทีที่ ๒.๔๙ เป็นต้นไป

นี่…เป็นส่วนที่ผมฉกมาจากสำนักข่าวอิศรา ท่านก็พิจารณาจากคำพูดพล.ต.ท.โสภณรัชต์กันเอาเอง ที่ท่านอ้างว่า ท่านไม่เคยพูด “ผู้ป่วยวิกฤติ”!

รายการนี้ ถ้าทักษิณไม่คืนคุก

จะนิมนต์ไปเป็นเจ้าอาวาส “วัดไร่ขิง” แทน “ทิดแย้ม” ทำพนันออนไลน์ซะเองเลย!

เปลว สีเงิน

๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
อภิปรายทั่วไป “แล้วใครตาย?”
กันยายน….. เป็นฤดูกาล “แต่งตั้ง-โยกย้าย” ข้าราชการ เมื่อวาน (๔ กย.๖๒) ครม.ประกาศออกมาหลายตำแหน่ง ในหลายกระทรวง ผมก็ตรวจๆ ดูว่า มีการแต่งตั้งใครเป็น...
Read More
0 replies on ““ทักษิณ” กับ “ทิดแย้ม” #เปลวสีเงิน”