29 เมษายน 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนในพื้นที่ พร้อมติดตามความคืบหน้าโครงการศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ณ ด่านศุลกากรนครพนม จ.นครพนม
โดยในปีงบประมาณ 2568 (6 เดือนแรก) ด่านศุลกากรนครพนม มีมูลค่าการค้าชายแดนรวมทั้งสิ้น 42,909 ล้านบาท สินค้านำเข้าสูงสุด ได้แก่ พลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี่ และปุ๋ยเคมี ส่วนสินค้าส่งออกสูงสุด ได้แก่ ผลไม้สด เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และโค กระบือมีชีวิต
สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รายงานว่ามีความก้าวหน้ากว่า 95% คาดแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 68 โดยตั้งเป้าให้เป็นศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ที่สามารถดำเนินพิธีการนำเข้าและส่งออกได้ในจุดเดียว เพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ส่งเสริมเศรษฐกิจและการจ้างงาน ยกระดับจังหวัดนครพนมให้ก้าวขึ้นเป็น Gateway และศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
ทั้งนี้ นายกฯ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ ดังนี้
1. ด่านศุลกากรนครพนม – พัฒนาระบบการตรวจปล่อยสินค้าให้มีความรวดเร็ว โปร่งใส ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทั้งดูแลค่าธรรมเนียมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และผลักดันการส่งออกให้เติบโตตามนโยบายรัฐบาล
2. หน่วยงานความมั่นคงชายแดน – เฝ้าระวังการลักลอบสินค้าผิดกฎหมายและยาเสพติดอย่างเข้มงวด พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการเดินทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย
3. สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง – ส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นและการจับคู่ธุรกิจข้ามแดน เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่
4. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง – พัฒนาพื้นที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 (นครพนม – คำม่วน) ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนครพนม.