เปลว สีเงิน
ช่วงนี้ …………
ข่าว “ปรับครม.-ยุบสภา-นายกฯ ลาออก” ถูกกระพือเป็นรายวันจากสื่อโทรทัศน์บางช่อง
ผมก็ได้แต่..เหรอ..เหรอ..ตามเขาไป
ไม่กล้ารับ-ไม่กล้าปฎิเสธ เพราะอาจเป็น “ข่าวสีพ” ของเขาก็ได้ เนื่องจากสื่อโทรทัศน์เขาใกล้ชิดแหล่งข่าวในรัฐบาลมากเป็นพิเศษ
การปรับ พุ่งเป้าไปที่ “เก้าอี้มหาดไทย”
นัยว่า เพื่อ “อำนาจเบ็ดเสร็จ” ทุกจังหวัดต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป “พรรคเพื่อไทย” จะขอเปลี่ยน เชิงบีบ “พรรคภูมิใจไทย” ให้คายคืน
จะออกจากพรรคร่วม-ก็ออกไป ถ้าไม่อยากออก ภูมิใจไทยต้องยอม “แลกกระทรวง” ให้คน “พรรคเพื่อไทย” มานั่ง
ส่วน “ภูมิใจไทย-นายอนุทิน ชาญวีรกูล” จะไปอยู่กระทรวงไหน อยู่ที่คุณจะ “จำใจรับ” หรือพร้อมจะ “จำใจจาก”
ข่าว “ปรับครม.” ไฮไลท์ก็อยู่ตรงนี้!
เกมนี้ จะพูดว่าเป็นเกม “เกหมดหน้าตัก” หรือ “ปิดแอร์วัดใจ” ได้-เสียกันไปเลยระหว่าง “ทักษิณ-เนวิน” ก็ไม่ผิด
แรงสะเทือนส่งถึง “การอยู่-การไป” ของรัฐบาลเพื่อไทย รวมทั้งตำแหน่งนายกฯ ของอุ๊งอิ๊ง ไปถึงขั้น “ยุบสภา”
ตั้งแต่เดือนพฤษภา.เป็นต้นไป “ยุบสภา-ลาออก-ถูกบีบออก” มีความน่าจะเป็นมากกว่า “ปรับครม.”
เพราะ “การปรับครม.” สำหรับพรรคเพื่อไทยนั้น เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นแค่ “อาหารเม็ด” สำหรับหมาในคอกที่กระตุกหมอบ-กระตุกเห่าเท่านั้น
ดังนั้น “ความน่าจะเป็น” ในทางประเมิน น่าจะออกมาในรูป
“รักระแวง” ระหว่าง “เพื่อไทยกับภูมิใจไทย” สู่ปฎิบัติการ “คมเฉือนคม” โดยยกเอาเรื่องบีบเอาเก้าอี้มหาดไทย เป็นเรื่องบังหน้า
เรื่องหลัก ผมว่าเหตุจาก “เลขาฯ พรรคภูมิใจไทย-นายไชยชนก ชิดชอบ” ที่ประกาศกลางสภา เมื่อ ๙ เมษา.มากกว่า
“………..ขอประกาศต่อรัฐสภาแห่งนี้ว่า ไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของเนวิน และ กรุณา ชิดชอบ ผมจะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน
ไม่ใช่แค่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ทุก พ.ร.บ.หลังจากนี้ แม้กระทั่ง พ.ร.บ. ของพรรคภูมิใจไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย
เช่น “พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน” ที่เราคิดขึ้นมาแล้วนำเสนอเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ผมก็จะไม่พิจารณา
เพราะสำหรับผมและทุกอย่างที่ผมได้ศึกษามา มีเรื่องเร่งด่วนที่ด่วนกว่ามหาศาล”
“กล่องดวงใจ” ทศกัณฐ์ฝากไว้ที่ “พระฤาษีโคบุตร” ฉันใด
กล่องดวงใจทักษิณ ก็ถอดฝากไว้ที่ “พรบ.กาสิโน” ฉันนั้น!
เมื่อ “ลูกพ่อเนวิน-แม่กรุณา” กรวดน้ำคว่ำขัน “พรบ.กาสิโน” เป็นสัจจะวาจาต่อสภา
“ทักษิณ-เจ้าของคอกหมา”อเหมือนถูกขยี้หรือถูกเยี่ยวรดกล่องดวงใจก็มิปาน!
มันทั้งเจ็บ ทั้งแสบ ทั้งเสียหน้า ทั้งเสียเชิง
ปาก… “ไม่มีอะไร….ภูมิใจไทย ก็คือภูมิใจไทย”
แต่ใจ…. “เนวิน…(อาจ) อยู่ร่วมโลกกันได้ แต่อยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน…ยากซะแล้ว”!
ถึงนายอนุทินจะบอก “ผิดคิว” นิดหน่อย เป็นความเห็นส่วนตัวสส.ไชยชนก ไม่ได้พูดในนามพรรค และ “ขอโทษ-ขอโพย” นายกฯ อุ๊งอิ๊งก็ตาม
แต่ “นายใหญ่” ของพรรคเพื่อไทย คือทักษิณ
ส่วน “ครูใหญ่” ของพรรคภูมิใจไทย คือเนวิน
เมื่อนายใหญ่ประกาศ “กาสิโน” ต้องเกิด
แต่ครูใหญ่ประกาศ “กาสิโน” ต้องไม่เกิด!
ทักษิณยอมไม่ได้ ขืนปล่อยให้พรบ.กาสิโนไปเสี่ยงในสภาตอนเดือนกรกฎา.ถ้าพรบ.ถูกคว่ำ เพราะภูมิใจไทยไม่โหวตให้
รอไปแก้ไขตอนนั้น อาจไม่ทันการณ์
เพราะเป็นร่างกฎหมายรัฐบาล เมื่อถูกคว่ำ รัฐบาลก็ต้อง “คว่ำไปทันที”!
การ “ปิดแอร์วัดใจ” ระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทยจึงยากเลี่ยง ผ่านการ “หยั่งเชิง” ด้วยกระแส “ปรับครม.”
ขอเก้าอี้ “รัฐมนตรีมหาดไทย” คืนจากภูมิใจไทย เป็นการเกหวังดูหน้าไพ่ภูมิใจไทย ว่าจะแหยหรือจะแยกเขี้ยว?
รัฐบาลเพื่อไทย ตอนนี้ ประกอบด้วย ๑๐ พรรค ++ มี ๓๒๒ เสียง เรียกว่า “เหลือเฟือ”
เพื่อไทย ๑๔๑ เสียง ภูมิใจไทย ๗๐ เสียง รวมไทยสร้างชาติ ๓๖ เสียง ประชาธิปัตย์ ๒๕ เสียง ชาติไทยพัฒนา ๑๐ เสียง
ประชาชาติ ๑๐ เสียง ชาติพัฒนา ๓ เสียง ไทรวมพลัง ๒ เสียง ท้องที่ไทย ๑ เสียง พลังสังคมใหม่ ๑ เสียง
แล้วยังมี พรรคกล้าธรรมของร้อยเอกธรรมนัสอีก ๒๑ เสียง
แถมด้วยกล้วยในเครืออีก ๓ หวีย่อยๆ และกล้วยซุกอยู่ในพรรคอื่นอีก
ดีดยี่ต๊อกแล้ว เฉพาะตัวเลขหน้าเสื่อ ๓๒๒ ลบด้วย ๗๐ ภูมิใจไทย ก็ยังเหลือ ๒๕๒ เป็นรัฐบาล “เสียงข้างมาก” อยู่
ทักษิณพอกระหยิ่มใจได้….
ขาดภูมิใจไทย เพื่อไทยยังเป็นแกงไม่ขาดเกลือ คือยังเป็น “รัฐบาลเสียงข้างมาก” ได้อยู่
เรียกว่า “หน้าไพ่” เพื่อไทย แต้มยังเหนือกว่า “ภูมิใจไทย”
เมื่อพลิกดูไต๋ ยังมีพรรคธรรมนัสอีก ๒๑+๓++ ซึ่งสบายมาก ไม่ต้องง้อภูมิใจไทย ถึงไม่อยู่ร่วม รัฐบาลเพื่อไทย ก็ยังเกือบ ๓๐๐ เสียง!
แต่ทั้งหมดนี้ พูดกันตามตัวเลข
พูดในทางเป็นจริง ถ้าภูมิใจไทย “ถอน” จากการเป็นพรรคร่วม มั่นใจได้หรือว่า “พรรคร่วม” อื่นๆ จะยอมผูกขาติด “พร้อมตาย” กับเพื่อไทย ที่ล้มละลายทางความเชื่อถือแล้ว
ทั้ง “สถานะรัฐบาล” และใน “สนามเลือกตั้ง” ครั้งต่อไปด้วย!?
และไพ่ไต๋ ใช่ว่ามีแต่ของพรรคเพื่อไทย
พรรคภูมิใจไทยเขาก็มี ลึกๆ แล้ว “แต้มเหนือกว่า” ชนิดว่าเปิดออกมา “ตาค้าง” ก็แล้วกัน
เพื่อไทย มีพรรคธรรมนัสและเครือกล้วยธรรมนัสเป็นไต๋
ภูมิใจไทย เขาก็มี “สว.สีน้ำเงิน” เป็นไต๋
ทักษิณแน่ใจได้ขนาดไหน ถ้าภูมิใจไทยไปแล้ว พรรคร่วมอื่น เช่น รวมไทยสร้างชาติ จะไม่โบกมือลา?
นั่นยังไม่พูดถึง “สังคมคุณธรรม” ทั้งศาสนจักร ราชบัณฑิต นักวิชาการ นักกฎหมาย นักเศรษฐศาสตร์ มหาประชาชน คปท., ศปปส., กองทัพธรรม และอีกมากมาย
ที่ “ตื่นแล้ว” ไม่เอา “กาสิโน”!
เขาจะออกมาทั้งบ้าน-ทั้งเมือง แสดง “มหาประชามติ” คัดค้านกาสิโน เป็นทางเดียวกับพรรคภูมิใจไทย
ที่ “เลขาฯ พรรค” นายไชยชนกประกาศ ประหนึ่งให้ “สัตยาบัน” กลางสภาว่า
“ขอประกาศต่อรัฐสภาแห่งนี้ว่า ไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของเนวิน และ กรุณา ชิดชอบ ผมจะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน”!
ถึงสส.ใช้เสียงมากลากผ่าน “สภาผู้แทน” ไปได้
แต่ไม่ผ่าน “วุฒิสภา” แน่
ยิ่งกับ “สภามหาประชาชน” ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยด้วยแล้ว ยังไงๆ “มหาประชาชน” ก็ไม่ยอมให้ผ่าน “ไปได้ล้านเปอร์เซ็นต์”
ผมบอกคร่าวๆ อย่างนี้ “เพื่อไทย-เพื่อทักษิณ” ยังขืนอ้างเสียงข้างมากเปลือกๆ “จะเอาให้ได้” เหมือน “นิรโทษกรรมสุดซอย” ละก็
ทักษิณบอกครอบครัว “เก็บของ-จองตั๋วเรือบิน” ไว้ล่วงหน้าได้เลย!
ที่อยากกระซิบถึงทักษิณอีกเรื่องก็คือ นอกจากเค้าลางมรณะของรัฐบาลตั้งทะมึนแล้ว
เค้าลางของตัวทักษิณเอง ในคดีชั้น ๑๔ ที่ทั้งป.ป.ช.ทั้งแพทยสภา ซุบซิบนินทากันว่า เหมือน “ถูกของ” แข็งเด่อยู่กับที่ ไม่มีขยับเขยื้อนนั้น
ผมจับยามสามตาแล้ว ภายในพฤษภา. “ฟ้าผ่าเปรี้ยง” แน่!
เห็น “สำนักข่าวอิศรา” รายงาน ว่า เมื่อ ๑๐ เมย.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ประชุมลงมติส่งเรื่อง “กรณีเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร”
ส่งตัว “นายทักษิณ ชินวัตร” ไปรักษาตัวที่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ เป็นเวลา ๑๘๑ วัน ไปยัง “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” เพื่อพิจารณายื่นฟ้อง “ศาลปกครอง”
เพื่อให้ “เพิกถอนคำสั่ง” ให้เป็นการกระทำที่ “ใช้บังคับไม่ได้” หรือเป็นโมฆะ ตามที่มีผู้ร้อง
“โดยขอให้ กสม.ดำเนินงานร่วมกับ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ตาม พรป. กสม. มาตรา ๖ วรรคสอง
เพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตาม พรป.ผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา ๒๓(๒)
เพื่อเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครองเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ โดยขอให้ “เพิกถอนการกระทำ” ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่…..
“ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, อธิบดีกรมราชทัณฑ์, ปลัดกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ที่ได้บังคับใช้กฎหมายที่ไม่ครบถ้วน
กรณี “ไม่ได้ร้องขอต่อศาล”เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ “ทุเลาการบังคับให้จำคุก” ตาม ป.วิ-อาญา มาตรา ๒๔๖
ซึ่งเป็นการกระทำของหน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
ใช้ดุลพินิจโดยมิชอบและโดยไม่สุจริต ขอให้ศาลปกครองเพิกถอนกฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.๒๕๖๓ หากพิจารณาเห็นว่า…..
“การที่ยังคงมีกฎกระทรวงฉบับนี้ จะทำให้มีการหลีกเลี่ยงไมบังคับใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๖”
ซึ่งจะทำให้การบังคับโทษตามหมายจำคุกของศาลเสื่อมประสิทธิภาพ ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามคำพิพากษา”
และเมื่อวาน (๒๐ เม.ย.๖๘) ผมเห็นอาจารย์ “เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง” ท่านโพสต์ ดังนี้
……………………………….
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
เรียน กรรมการแพทยสภาที่เคารพทุกท่าน
หลายองค์กรในประเทศไทยถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง และประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ ศรัทธาอีกต่อไป
ขณะนี้ การพิจารณามาตรฐานการรักษาและจริยธรรมของแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่จับตามอง และรอคอยว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร
จึงขอเรียนมายังกรรมการ และอนุกรรมการทุกชุดที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดดำเนินการอย่างละเอียด รวดเร็ว ยึดมั่นความถูกต้องชอบธรรม
เพื่อคงไว้ซึ่งเกียรติภูมิของแพทยสภา และวงการแพทย์ เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของสังคมไทยตลอดไป
ด้วยความเคารพอย่างสูง
นายแพทย์ ตุลย์ สิทธิสมวงศ์
สมาชิกแพทยสภา ว. 13796
📌ขอลงชื่อต่อท้ายด้วยคน
1 รองศาสตราจารย์ ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
2
3
……………………………….
เมื่อภาค “มหาประชน” เอาบ่าแบกล้อ เฆี่ยนควายให้เดินขึ้นจากหล่มขนาดนี้
ถ้าไม่ยอมขึ้น ยังจะจมปลักอยู่ต่อไป
มันก็ถึงคราต้อง “ล้างประเทศ” กันทุกระบบละรอบนี้!
เปลว สีเงิน
๒๑ เมษายน ๒๕๖๘
