อมวัดมาพูด #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เมื่อวันเสาร์ทัวร์กัวลาลัมเปอร์ลงแถวๆ ทำเนียบรัฐบาลไทย

ไม่รู้ว่าตั้งใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทีมงานของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถึงเอาเพลง “อมพระมาพูด” ของพี่เบิร์ด กับพี่เสก มาประกอบคลิปการเดินทางมาเยือนไทย

เพลงตั้งเยอะไม่เอามา อะไรดลใจให้ใช้เพลงนี้

ไปดูท่อนฮุกที่ พี่เบิร์ด กับ พี่เสก ร้องสิครับ

“…อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ หน้าเนื้อใจเสืออย่างเธอ

ใครเตือนไม่ฟังว่าอย่าเผลอ มีใจให้
อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ หน้าใสใจเสือเชื่อไม่ได้
ประวัติโชกโชนเชือดใจ มากี่คน
เคยนับบ้างไหม…”

ประเด็นมันอยู่ตรงที่ในคลิป นายกฯ อันวาร์ หารือกับ “ทักษิณ” และ “แพทองธาร” ด้วย

ถ้าตั้งใจใช้เพลงนี้ถือว่าใจร้ายครับ

คงไม่ตั้งใจหรอกครับ ของแบบนี้มันพลาดกันได้ แม้ไม่ควรก็ตาม

แต่…ความผิดพลาดมันสะท้อนความถูกต้องอยู่เหมือนกัน

ในแง่การเจรจาความเมือง ทีมงานของ นายกฯ อันวาร์อาจจะอ่านออกว่า การเจรจากับ “ทักษิณ” นั้นเชื่อถือได้แค่ไหน เพราะ “ทักษิณ” คืออดีตนักโทษหนีคดีคอร์รัปชัน

อย่าว่าแต่อมพระเลย อมวัด มาพูดก็เชื่อได้ยาก!

การที่นายกฯ อันวาร์ตั้ง ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน คนรอบตัวนายกฯ อันวาร์บางส่วนอาจไม่พอใจก็เป็นได้

นี่อาจเป็นต้นตอความผิดพลาดที่ไม่น่าจะเกิด

ครับ…ทีมงานนายกฯ อันวาร์ถอดคลิปเจ้าปัญหานี้ออก แล้วโพสต์คลิปใหม่ใส่เพลงประกอบใหม่ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ “ยามเย็น” แทน

ก็ยังทำให้ต้องตั้งปุจฉากันอยู่ดี ทำไมถึงเลือกใช้เพลงพระราชนิพนธ์

เพลง “ยามเย็น” มีประวัติที่มาที่ไปน่าสนใจครับ

“ยามเย็น” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๒

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์ ใน พ.ศ. ๒๔๘๙ ขณะยังทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช

เป็นงานทดลองของพระองค์ในจังหวะฟอกซ์ทรอต

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย และท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาอังกฤษ

แล้วพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีคำร้องสมบูรณ์ให้ ครูเอื้อ สุนทรสนาน นำออกบรรเลงในงานของสมาคมปราบวัณโรค ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันเสาร์ที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ นับเป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่นำออกบรรเลงสู่ประชาชน

เป็นเพลงที่ร่าเริงแจ่มใสเหมาะสำหรับการเต้นรำในสมัยนั้น

ความหมายของเพลงยามเย็น กล่าวถึงการที่คนรักจากไปไกล มีความคิดถึงและความรู้สึกดีๆ ต่อกันแม้ยามต้องห่างไกล

ย้ำเตือนให้รับความเป็นจริงและปรับตัวให้ได้กับความเปลี่ยนแปลง

ได้เปรียบเปรยคนรักเป็นดังดวงอาทิตย์ที่กำลังลับจากฟ้าไป

โดยเนื้อร้องทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษเปรียบเปรยและมีความหมายแทบจะเหมือนกัน

คนรักจากไปไกล ย่อมนำมาซึ่งความคิดถึง

คนในตระกูลชินวัตรรู้ซึ้งดีครับ

ครับ…กิจการต่างประเทศไม่ว่ารัฐบาลชาติไหนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ได้

เช่นกรณีนายกฯ อันวาร์ข้างต้นนี้ ชาวมาเลเซียอยู่ไกลเหตุการณ์ ต่างวัฒนธรรม คงไม่รับรู้อะไรมาก ผิดกับคนไทยครับ วิจารณ์กันลั่นทุ่ง

ก็ทำนองเดียวกันกับการที่ นายกฯ อันวาร์ตั้ง “ทักษิณ” เป็นที่ปรึกษา คนไทยบางส่วนยอมรับได้ แต่ชาวมาเลเซียถล่มนายกฯ อันวาร์ไปเต็มๆ อย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้

ก็คนมันไม่ไว้ใจทำไงได้

๒๓-๒๔ เมษายน นายกฯ แพทองโพย จะเดินทางไปเยือนกัมพูชา ตามคำเชิญของ “สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

จะมีการหารือความเมืองเต็มคณะของผู้นำทั้ง ๒ ประเทศ

เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารสำคัญต่างๆ ร่วมกัน

เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดตราสัญลักษณ์ ครบรอบ ๗๕ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา นายกฯ แพทองโพยยังมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา นักการเมืองตระกูลชินวัตร ไปพบกับนักการเมืองตระกูลฮุน ของกัมพูชา ไม่ว่านัดเจอกันที่ไหน คนไทยพากันจับจ้องเป็นพิเศษ

เพราะเกรงจะมีวาระซ่อนเร้น

ฝั่งตรวจสอบรัฐบาลตั้งคำถามแล้วครับ ไปคุยอะไรบ้าง มีผลกระทบกับประเทศไทยหรือเปล่า

“พิชิต ไชยมงคล” แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความถามว่า…

“…นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะไปเยือนกัมพูชา พบ ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา ในวันที่ ๒๓-๒๔ เมษายน นี้ หลังประชุม ครม.เสร็จ การไปกัมพูชาของ แพทองธาร มันสะกิดความไม่ไว้วางใจของคนไทยหลายคนไปด้วย

เหตุเพราะ นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ยังคงมีเรื่อง ผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลที่ต้องการแบ่งกัน ๕๐:๕๐ กับกัมพูชา

แต่ขณะเดียวกัน กัมพูชาเขาไม่ได้คิดตรงผลประโยชน์ เพราะเขาปลุกระดมคนทั้งกัมพูชาว่าจะเอาเกาะกูดคืน รวมทั้งปราสาทตาเมือนธม ที่ จ.สุรินทร์

การไปเยือนกัมพูชาของแพทองธาร จึงอดคิดไม่ได้ ๒ เรื่อง คือ

๑.ด้วยความรู้ที่แพทองธารมี จะทันเกมการเมืองที่เป็นธงหลักของกัมพูชา คือเรื่องดินแดน จะเท่าทันเขาไหม

๒.ธงหลักของรัฐบาลเพื่อไทยคือพื้นที่อ้างทับซ้อนแบ่งผลประโยชน์ ๕๐:๕๐ ก็ถูกคนไทยคัดค้านอยู่

ข้อสังเกตที่ต้องจับตามองคือ มติ ครม.วันอังคารที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๘ นี้ จะมี มติ ครม.อะไรที่ไปเกี่ยวข้องกับการไปกัมพูชาครั้งนี้หรือไม่ และนายกฯ แพทองธาร ต้องตอบให้ชัดว่า ไปกัมพูชาครั้งนี้มีวาระซ่อนเร้นอะไร อย่างไร…”

เรื่องน่ากลัวที่สุดก็คือจะมีอะไรหมกเม็ดไปจากประเทศไทยหรือไม่

การแบ่งผลประโยชน์ทางทะเลแม้จะยังไม่ถึงเวลาที่ผู้นำ ๒ ประเทศจะทำความตกลงอะไรกัน แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ครับ เพราะทั้งรัฐบาลไทยและกัมพูชาล้วนอยู่ภายใต้ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลเหมือนกัน

ฉะนั้นใครที่บอกว่าการเยือนกัมพูชาครั้งนี้ไม่มีอะไรแค่กระชับความสัมพันธ์

อมวัดมาพูดอย่าเพิ่งเชื่อครับ

“ทักษิณ-ฮุน เซน” ยังต้องกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น จากที่แน่นหนึบกันมานานแล้ว

มันน่าสงสัยมั้ยครับ

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
กรมพัฒน์เจ๋ง ฝึกเกษตรกรขับโดรน ใช้เทคโนโลยีสู่เกษตรสมัยใหม่
อธิบดีบุปผา เผยเร่งฝึกอบรมให้เกษตรกร มีทักษะการขับโดรนเพื่อการเกษตร ปรับตัวทันเทคโนโลยีสู่เกษตรสมัยใหม่ ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต
Read More
0 replies on “อมวัดมาพูด #ผักกาดหอม”