เปลว สีเงิน
มันเป็นไปได้หรือนี่…..?!
ที่ “นิด้าโพล” ออกแบบสำรวจประชาชนอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป แล้วมีผลออกมาว่า
ร้อยละ ๔๒.๓๗ ต้องการให้ “แพทองธาร” ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ
ร้อยละ ๓๙.๙๒ ต้องการให้ยุบสภา
และร้อยละ ๖๔.๔๓ ต้องการให้ลงชื่อเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติ “ไม่ไว้วางใจ” นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรี
สรุปรวม ทั้งให้นายกฯ ลาออก ให้ยุบสภาและให้เปิดอภิปรายขับไล่นายกฯ สูงถึง ๑๔๖.๗๒%!!!
เกิดจากท้องพ่อ-ท้องแม่ ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหน นายกฯ คนไหนจากเลือกตั้ง ถูกประชาชนรังเกียจยิ่งกว่าไส้เดือน-กิ้งกือ และต่างผลักไส-ไล่ส่งเท่ารัฐบาลนี้ และนายกฯ คนนี้เลย
โดยเฉพาะ เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยของ “ทักษิณ” และนายกฯ แพทองธาร “ลูกสาวสุดที่รัก” ของทักษิณ
หรือว่ายุค “ศรีวิไลย์” มาถึงแล้ว?!
แต่อย่างไรก็ช่าง ถือว่าเป็น “นิมิตหมาย” ใหม่ ของสังคมไทย ด้านทัศนคติและมุมมอง “การเมืองเพื่อบ้านเมือง” ของคนไทย!
และเมื่อดูต่อไป นิดาโพลถามว่า “ต้องการให้ใครมาเป็นนายกฯ” ผลสำรวจอออกมาว่า
ร้อยละ ๓๒.๘๒ ต้องการให้ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” มาเป็นนายกฯ
รองลงมา ร้อยละ ๒๗.๙๔ บอก “ไม่สนับสนุนใครเลย”
ร้อยละ ๑๑.๕๓ เป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล
และร้อยละ ๑๐.๙๒ เป็น นายชัยเกษม นิติสิริ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเมืองไทยวันนี้ ที่ประชาชนมีความเห็นความต้องการ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันหมด คือ
ปฎิเสธ “พรรคเพื่อไทย” และ “นายกฯ” จากพรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน ต้องการให้ “ลุงตู่” กลับมาเป็นนายกฯ!?
อุ๊ยยย….ตาเถนหกตกใต้ถุน….
“ลุงตู่” ที่ด่ากันเช้า-ด่ากันเย็น ทั้งประณามเป็นเผด็จการ ๙ ปีไม่มีผลงาน ทำประเทศล้าหลัง ชาวบ้านอดอยากและไล่กันทั้งวัน-ทั้งคืนนี่น่ะนะ
ที่วันนี้ ผู้คนเรียกร้องให้ท่านกลับมาเป็นนายกฯ?!
ไม่อยากจะเชื่อ พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือเปล่าเนี่ย
จะว่าไป ลุงตู่นี่ แม่นกว่า “โหรฟองสนาน” อีกแฮะ เพราะจำได้ว่า ตอน “แดงส้ม” ผนึกกำลังกันทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นล้ม
ลุงตู่พูดอยู่ประโยคนึงว่า “ผมไม่อยู่แล้วพวกคุณจะคิดถึงผม”
เออ…แล้วก็จริงของอังเคิลตู่แฮะ!
แต่ผมว่า ลุงทำหน้าที่องคมนตรีดีอยู่แล้ว อย่าไปลากท่านลงมาเลย เพราะเชื่อว่า ซักพัก พอไม่ได้อย่างใจ ก็จะรุมโขกสับเสือกไสไล่ส่งกันอีกนั่นแหละ
เล่นตัวไว้นะลุง อยากได้ก็ต้องให้ง้อกันซะให้เข็ด ทีตอนนั้นละก็ แหม…คำนึงก็เผด็จการ สองคำก็สืบต่ออำนาจ สามคำก็ว่าทำให้บ้านเมืองถอยหลัง
จริงมั้ย ท่านนายกรักษาการ “ภูมิธรรม”?
แต่ว่าใครน้า ที่เป็นตัวทำให้บ้านเมืองถอยหลังอยู่ขณะนี้น่ะ
นอกจากนิด้าโพลแล้ว “ซูเปอร์โพล” เขายังไปสำรวจความเชื่อมั่นต่อหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่และพรรคเล็ก
ปรากฎว่าประเด็น “แก้ทุจริตคอร์รัปชัน” คุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม พรรคไทยภักดี ประชาชนเชื่อมั่น สูงถึง ๔๔.๕%
และในประเด็น “ปฎิรูปการเมือง” คุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม อีกเช่นกัน เป็นตัวเลือกของประชาชนสูงถึง ๓๐.๑% เรียกว่านำโด่งคนเดียว
ด้านสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชน ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคไทยก้าวหน้า นำโด่ง ๔๘.๘%
ด้านการศึกษา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย นำเดี่ยว ๔๒.๖%
ด้านสุขภาพและสวัสดิการ, เทคโนโลยีอุตสาหกรรมดิจิทัล พลังงานสะอาด, เศรษฐกิจยุคใหม่ นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล พรรคปวงชนไทย ได้รับความเชื่อมั่นตามลำดับ ๔๑.๙%, ๔๕.๑%, และ ๔๖.๔%
โอ….คนไทยเกิดดวงตาเห็น “นรก-สวรรค์” ในประชาธิปไตยเลือกตั้งกันแล้วหรือนี่?
ก็ต้องบอกว่า ตื่นเต้น-ดีใจนะ ที่คนไทยเลิกให้ค่าพรรคใหญ่ชนิดไม่ลืมหู-ลืมา หันมาพินิจพิจารณาประวัติ ผลงาน การกระทำเชิงประจักษ์จากพรรคเล็กๆ
เพื่อเลือกนักการเมืองจากพรรคเล็กๆ ที่มีคุณสมบัติและหลักการชัดเจนให้เข้าไปในสภาบ้าง
หลังจากที่งมงายอยู่แต่พรรคใหญ่ “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน”
จนบ้านเมืองติดหล่ม สับสน-วุ่นวาย จากการกัดกร่อนบ่อนเซาะ พฤติกรรมเป็นไส้ศึกบ้าง มุ่งเปลี่ยนระบบ แยกแผ่นดินบ้าง!
พูดถึงแม่หมอ “ฟองสนาน จามรจันทร์” ที่การทายทักของเธอยึดช่องโทรทัศน์และช่องยูทูปขณะนี้
แม่หมอเขียนในไทยโพสต์ ฉบับวันอาทิตย์ 13 กรกฎา.หัวข้อ “เตรียมรับมืออุบัติภัย-เสียหาย-เศร้าโศกร้ายแรงรอบใหม่”
ต้องบอกว่า ขณะถอดรหัสจากดวงดาว “องค์ลง” ประทับแม่หมอแน่เลย เพราะคราวนี้ แม่หมอระบุวัน “ฟันเปรี้ยง” ชนิดไม่กลัวเสียหมอ
ผมอ่านแล้วขนลุก!
นักศึกษาโหราศาสตร์น่าไปหาอ่าน-หาฟัง ในเว็บไทยโพสต์ก็มี ที่อยากให้ไปหาอ่าน เพราะแม่หมอไม่ได้สักแต่ว่าทายทัก
หากแต่ใช้วิชาสถิติทางดวงดาว ว่าด้วยการโคจรตามหลักวิชาโหราศาสตร์ ระบุบอกเป็นหลักฐานไว้ชัดเจน
แต่คนทั่วไป ชอบให้ฟันโชะไปเลย….
ไม่ชอบคำอ้างอิงตามหลักวิชาโหร เพราะไม่รู้เรื่อง..มันก็พูดยากนะแบบนี้
ผมเห็นนัยสำคัญที่แม่โหรฟองสนานถอดรหัสดาว ซึ่งท้าทายต่อการพิสูจน์ในอีกไม่กี่วันนี้ ก็อยากนำมาให้อ่านกัน
แต่เพื่อเอาใจแฟน ขออนุญาตยกเฉพาะช่วงถอดรหัสดาวเป็นคำทำนายก็แล้วกัน เพราะมัน “ต้องจริต” คนอ่านมากกว่า
…………………………………
2……..ระหว่าง 29 กรกฎาคม-23 สิงหาคม 2568 ในดวงชะตาเมืองเกิดการ สมาสัปต์ หรือ ตรึงกัน ของดาวสองดวงคือ พระเสาร์กับพระอังคาร
(พระเสาร์จร 7 เดินในราศีมีน ทำมุมพิเศษถึงพระอังคารดวงเดิม ๓ ที่ราศีพฤษภและพระอังคารจร 3 เดินในราศีกันย์ ทำมุมพิเศษถึงพระเสาร์ดวงเดิม ๗ ในราศีธนู)
อาการดาวตรึงกันนี้ ในทางโหรแล้ว เหตุการณ์แนวลบจะเกิดแน่นอนไม่ว่าจะเป็นคู่ใด ไม่ต้องรอดาวอื่นมาจุดชนวน ยกเว้นดาวคู่มิตรตรึงกัน จึงจะออกอาการบวก
พระเสาร์กับอังคารนี้ ทางโหรถือ เป็นคู่ศัตรูเบา ออกแนว คู่อุบัติเหตุ หรือ เจ็บตายกระทันหัน
จึงมั่นใจได้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า ระยะระหว่าง 29 กรกฎาคม-23 สิงหาคม 2568(ก่อน-หลังเจ็ดวัน)
อุบัติเหตุใหญ่ วินาศสันตะโรใหญ่ รอเกิดแน่นอน หนีไม่พ้น
โดยช่องทางเกิด จะเป็นไปได้ทุกทาง….
ทั้งดิน-น้ำ-ลม หรืออากาศหรือก๊าซ-ไฟ หรือควันหรือระเบิด ที่ผู้เขียนขออ่านสัญญาณทางโหร คลำดูทาง ในรายละเอียดที่มีโอกาสจะผิดพลาดได้คือ
ก.การเกิดรอบนี้ ยังจะเป็นไปในลักษณะมึนงง คลุมเครือ เหมือนรอบที่แล้ว แผ่นดินไหวมัณฑะเลย์ แต่ตึกสตง.ที่กรุงเทพฯ ถล่ม ทั้งๆ ที่ห่างจากจุดแผ่นดินไหว 1,100 กิโลเมตร
ชนิดที่เห็นครั้งแรกแล้วยังคิดว่าไม่ใช่ตึกในประเทศไทยที่พัง (มฤตยูจร o เจ้าของภัยอาเพศทับพระอังคาร ๓ และพระเกตุ ๙ ดวงเดิม)
ข.ให้ระแวงไว้ก่อนว่า การเกิดรอบนี้ น่าจะเกิดใกล้น้ำหรือในน้ำ
ค.ถึงจะเกิดใกล้น้ำหรือในน้ำ แต่เกณฑ์เรื่องไฟ-ความร้อนก็เด่น เสี่ยงต่อการเกิด…ภัยไฟพิษ..(พระอังคารจร 3 ที่ราศีกันย์ถึงพระอาทิตย์ดวงเดิม ๑) ที่ราศีเมษ จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่า จะเป็นไฟใกล้น้ำ?
หรือเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเป็นลม-ก๊าซ?(พระอังคารจร 3 ที่ราศีกันย์เล็งราหู ๘ ดวงเดิมที่ราศีมีน)
ง.ปรากฏการณ์รอบนี้ มีโอกาสเกิดกับคน หรือของรักของเมือง ที่ต้องเฝ้าระวังให้ดี
ตามโฉลก…ของรักอันใดประหยัด พึงระมัดจงดี…(ทักษาจรเมืองตกภูมิอาทิตย์) เช่น ในอดีตสะพานพระรามหก สะพานพระพุทธยอดฟ้า เคยถูกทิ้งระเบิด
หรือเสียเรือหลวงธนบุรี เรือหลวงสงขลาและเรือหลวงชลบุรี ทหารเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 36 คน คราวยุทธนาวีที่เกาะช้าง ฯลฯ
จ.ปรากฏการณ์รอบนี้ น่าจะนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากมาย มีความเศร้าโศกเสียใจไปทั่วเมือง
(พระเสาร์ตรึงกับพระศุกร์เป็นคู่ศัตรูใหญ่)ตามโฉลก…อายุบ่ยืนเย็น มฤตภัยจะเร่งเกรง….(พระเสาร์จร 7 ทับพระศุกร์ดวงเดิม ๖)
และพระยม(บาล)หมายถึงความตายและการเจ็บหนักแบบต้องรักษาดูแลยืดเยื้อจะเล่นงานในเมือง
ตามโฉลก…อุบาทว์พระยม จะย่ำจะยีอาตมา(พระศุกร์จร 6 ที่ราศีเมถุนเล็งพระเสาร์ดวงเดิม ๗ ที่ราศีธนู)
สุดท้าย แม้อยากเป็นโหรที่ทำนายแม่นยิ่งกว่าตาเห็น
แต่ผู้เขียนก็อดหวังไม่ได้ว่า คำทำนายนี้ผิดพลาดและคลาดเคลื่อน เหตุร้ายแรงจะไม่เกิดในเมือง
แต่ถ้าหนีไม่พ้น เพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ก็มีแต่คาถาแคล้วคลาดของ “หลวงปู่มั่น”บทเดิมมาฝากให้ภาวนาไว้ให้ติดจิต คือ “นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา”
ถ้ากรรมไม่หนักนักก็คงได้แคล้วคลาด.
……………………………………………………..
พิเคราะห์ตามโหราศาสตร์นี้แล้ว
ดูจะเป็นไปในทางเดียวกับนิติศาสตร์ ในด้านจากปลายเดือนกรกฎา.ไปจนถึงสิงหา.ทั้งกฎจากดินฟ้าและทั้งกฎจาก “กฎหมาย”
จะ “เขย่าบ้าน-สะท้านเมือง”
เชื้อชั่วจะตาย จุลินทรีย์ใหม่จะเกิด!
ถ้าถูก “ความดีความชอบ” เป็นของผม ถ้าผิด “ความไม่แม่น” เป็นของแม่หมอ
ตกลงตามนี้นะ!
เปลว สีเงิน
๑๔ กรกฏาคม ๒๕๖๘
