ผักกาดหอม
ผ่านไปแล้วครับ…
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรอบนี้ ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะเสียงโหวต
อย่างที่ทราบตั้งแต่ต้น รัฐบาลฝึกงาน ฝ่ายค้านอ่อนหัด ก็ได้ประมาณนี้
มีคนบอกว่าต้องให้กำลังใจฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล อย่าเสียเวลาเลยครับ ไม่ว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกสักกี่ครั้ง ก็ได้แค่นี้แหละครับ
ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน!
มันมีสาเหตุครับ
สาเหตุมาจากความเป็นพรรคส้มล้วนๆ
ยกตัวอย่างกรณี ชั้น ๑๔ หากฝ่ายค้านเป็นอย่างพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต “ทักษิณ-แพทองธาร” ตายคาสภาฯ ไปแล้ว
แต่พรรคส้มทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเข้าไม่ถึงข้อมูล
คนไม่มีเพื่อนก็เป็นแบบนี้ ถึงเวลาแบกหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใคร มันยากครับ ไม่ใช่คนอื่นขี้เหนียว
แต่เขาไม่ไว้ใจ!
ลอง “น้าเหลิม” อภิปรายกรณีชั้น ๑๔ สิครับ
มาเป็นซีรีส์
หรือแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ต่างกัน เพราะเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ อาจจะมากน้อยแตกต่างกัน แต่ไม่ใช่เอาข่าวในหนังสือพิมพ์มาเรียบเรียงใหม่แล้วใช้ลีลาอภิปรายให้ดูหวือหวา เข้าใจง่าย
พรรคส้มทำแบบนี้ไม่ได้
มันถึงได้แค่นั้น
ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองซะ แล้วไปถอดบทเรียนการเป็นฝ่ายค้าน เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียโอกาสในการมีฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้จริง
พวกด้อม พวกกองเชียร์ทั้งหลาย ก็ควรสำเหนียก
แยกแยะให้ได้ระหว่างเก่งจริง กับเก่งสร้างภาพ ไม่งั้นจะเข้าทำนอง พ่อแม่รังแกฉัน
โอ๋มากเกินไป อวยนักการเมืองไส้แตก จนเกิดอุปาทานหมู่ ว่าเก่งกาจสามารถ ไร้เทียมทาน รู้ตัวอีกทีก็คว้าแต่ลม
ฉะนั้นอยู่กับความเป็นจริงให้มาก
ไม่ใช่อะไรๆ ก็ทะลุเพดาน
สุดท้ายไปได้ไม่กี่น้ำ เช่นการซักฟอกนายกฯ ที่ผ่านมาหมาดๆ ไม่มีราคาเลยครับ
เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่แทบไม่ต้องทำความเข้าใจเรื่องตัวเลข หรือต้องลำดับเหตุการณ์อะไรเลย
เป็นของเก่าที่รับรู้กันมาจนแทบทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว
ฝ่ายค้านไม่ได้ช่วยอะไร มันไม่สำคัญเท่าฝ่ายค้านไปสร้างความแข็งแกร่งให้รัฐบาลแพทองโพยโดยอัตโนมัติ
เป็นธรรมชาติการเมืองครับ เมื่อฝ่ายค้านอ่อนหัด รัฐบาลจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ
ภาพมันเริ่มปรากฏชัดเจนในช่วงท้ายๆ ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจครับ
“…ที่จริงไม่ใช่แค่ดิฉันที่ถูกกล่าวหาเรื่องการถูกครอบงำ ท่านเองก็ถูกกล่าวหาว่าถูกครอบงำเช่นกัน แต่ว่าต่างกันตรงที่ ดิฉันถูกกล่าวหาถูกครอบงำโดยคุณพ่อ แต่ของท่านถูกครอบงำโดยคนที่ไม่ใช่พ่อ ก็มีความต่างกัน และตอนนี้คิดเลยว่าไม่อยากให้ใครพูดแบบนี้…”
“อุ๊งอิ๊ง” ข่ม “หัวหน้าเท้ง”
หากไม่ขัดขากันเองเสียก่อน มีโอกาสสูงที่รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม
ส่วนพรรคส้มก็เป็นฝ่ายค้านจนครบเทอมเช่นกัน
การซักฟอกรัฐบาลผ่านไปแล้ว ถึงเวลามองไปยังอนาคตใกล้-ไกล
น่าเป็นห่วงครับ
ฝ่ายค้านติดหล่มความอ่อนหัดของตัวเอง เก้ๆ กังๆ ยังไม่ได้ข้อสรุปเลยครับว่า จะเอาไงต่อกับรัฐบาล
จะโรยเกลือ…แต่ยังไม่รู้วิธีเลยครับว่าจะแกะห่อเกลืออย่างไร
เทียบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณี โกงจำนำข้าว ข้าวจีทูจีเก๊ ฝ่ายค้านขณะนั้นคือพรรคประชาธิปัตย์ เขาประกาศไปชำแหละไปว่า จะส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.เชือด เพื่อส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จับรัฐมนตรีและบริวารเข้าคุกให้ได้
มันต้องขึงขัง จริงจัง แบบนั้น
ต้องขู่คุก คุก คุก คุก ให้ลั่นสภา เหมือนที่ “หมอวรงค์” ทำ
แล้วพรรคส้มทำได้แบบนั้นหรือเปล่า
ยังอึกๆ อักๆ
ร้อง กี้ กี้ กี้ อยู่เลย
ไปฟังคำให้สัมภาษณ์ของ “หัวหน้าเท้ง” ที่สภา วานนี้ (๒๖ มีนาคม) แล้วยิ่งสิ้นหวังครับ!
นักข่าวถาม ประเด็นที่จะโรยเกลือต่อที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
“หัวหน้าเท้ง” ตอบว่า
“…เรากำลังดูเรื่องข้อกฎหมาย มีหลายประเด็น ซึ่งยุทธการโรยเกลือยังมีช่องทางอีกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนในกรรมาธิการ หรือไปยื่นตามที่ต่างๆ มีตามมาแน่นอนไม่ต้องห่วง และเรากำลังพูดคุยกันภายในพรรคว่าจะจัดการอย่างไรต่อ โดยจะเริ่มทำงานตั้งแต่วันนี้ทันที ก่อนมาแถลงข่าวนี้ก็ประชุมกันในพรรค มีการพูดคุยกันหลายประเด็นแล้ว…”
นักข่าวก็ช่างถาม กรณีที่พรรคประชาชนเคยต่อต้านการที่นายกฯ ถูกถอดถอนโดยศาลหรือองค์กรอิสระ แต่วันนี้จะทำเสียเอง
คำตอบจาก “หัวหน้าเท้ง” คือ…
“…เรื่องนี้เป็นจุดยืนของเรามาโดยตลอด ว่าเราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม รวมถึงกระบวนการที่สืบทอดมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการกลั่นแกล้งทางการเมือง ดังนั้น ที่ยังไม่ลงรายละเอียดมากเพราะเรากำลังดูช่องทางที่ถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่ใช้กลไกที่เราไม่เห็นด้วย จึงต้องดูในรายละเอียดก่อน
ผมเชื่อว่ามีหลายช่องทางที่เราสามารถดำเนินการทำได้ เช่นเรื่องภาษี ถึงแม้ไม่ต้องร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ แต่การทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยการนำข้อมูลมาเปิดเผยในสภา ก็สามารถทำให้ครอบครัวของนายกฯ จ่ายภาษีได้ เราทุกคนก็ได้ประโยชน์ รวมถึงยังมีอีกหลายช่องทางมากมาย เป็นสิ่งที่พวกเราศึกษากันอยู่…”
เสร็จแล้วรีบปิดแอร์ ปิดไฟ สภาด้วยนะครับ เปลือง!
พูดแบบนี้ถูกตีความได้นะครับว่า รอร่วมรัฐบาล!
เส้นทางเขามีให้เดินแล้ว อภิปรายเสร็จ กฎหมายเปิดช่องให้ส่งหลักฐานไปให้ ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลแล้วส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง
แต่ “หัวหน้าเท้ง” บอกว่า นิติสงครามมันตามหลอน ฉะนั้นส่งไปกรรมาธิการสภาดีกว่า
ส่งไปทำเห็ดอะไรล่ะครับ
กรรมาธิการจะไปทำอะไรได้ แถมในกรรมาธิการมีคนของรัฐบาลอยู่ด้วย
ไม่อยากใช้คำว่าอ่อนหัดเลย
แต่มันเข้าข่ายขี้เยี่ยวเองไม่ได้ กินก็ต้องป้อน
เป็นผู้ป่วยวิกฤตแทน “ทักษิณ” ไปแล้ว
