ผักกาดหอม
ช่างออกมาได้ถูกจังหวะ…
วานนี้ “นิด้าโพล” เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “๖ เดือน รัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง”
ทำการสำรวจสดๆ ร้อนๆ ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๖ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง เกี่ยวกับความพึงพอใจต่อการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ ๖ เดือน
ผลออกมาดังนี้…
คำถามความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ ๖ เดือน หมายถึงการทำงานของรัฐบาล
ร้อยละ ๓๔.๕๘ ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ
รองลงมา ร้อยละ ๓๒.๖๐ ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ
ร้อยละ ๒๐.๐๐ ระบุว่า ไม่พอใจเลย
และร้อยละ ๑๒.๘๒ ระบุว่า พอใจมาก
คือ…สอบตกครับ
ฝั่งที่ไม่พอใจรวมแล้ว ร้อยละ ๕๔.๕๘
ฝั่งที่พอใจ ร้อยละ ๔๕.๔๒
ยังไม่ผ่าน
อีกคำถามคือ ความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ ๖ เดือน คือเรื่องของตัวนายกฯ คนเดียว พบว่า…
ร้อยละ ๓๒.๖๐ ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ
รองลงมา ร้อยละ ๓๑.๗๖ ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ
ร้อยละ ๒๒.๒๘ ระบุว่า ไม่พอใจเลย
และร้อยละ ๑๓.๓๖ ระบุว่า พอใจมาก
ฝ่ายที่ไม่พึงพอใจนายกฯ ร้อยละ ๕๔.๘๘
ส่วนฝ่ายที่พอใจ ร้อยละ ๔๕.๑๒
เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจการทำงานของรัฐบาลและนายกฯ
และคำถามเรื่องความเชื่อมั่นต่อการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ
๒ คำถามข้างต้นเป็นเรื่องความพึงพอใจ ส่วนคำถามหลังเป็นเรื่องความเชื่อมั่น
ร้อยละ ๓๖.๔๑ ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น
รองลงมา ร้อยละ ๒๖.๒๖ ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย
ร้อยละ ๒๕.๐๔ ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น
และร้อยละ ๑๒.๒๙ ระบุว่า เชื่อมั่นมาก
ฝั่งไม่เชื่อมั่นร้อยละ ๖๒.๖๗
ส่วนฝั่งเชื่อมั่นร้อยละ ๓๗.๓๓
สาหัสครับ!
สรุปแล้ว ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลต่ำ และรัฐบาลสอบไม่ผ่านในด้านความพึงพอใจ
ต่ำในทุกมิติ
ครับ…นั่นคือเรื่องของโพล
มาเรื่องของโพย…
ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ทางสภาตรวจสอบความเรียบร้อยของญัตติเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแค่ ประธานสภาบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ
วันซักฟอกกำหนดแล้วคือวันที่ ๒๔ มีนาคม ส่วนจะจบวันไหนฝ่ายค้านกับรัฐบาลยังเถียงกันคอเป็นเอ็นอยู่
จะวันเดียวหรือ ๕ วัน ยังไม่ใช่สาระสำคัญ
หลักๆ เนื้อๆ อยู่ที่ประเด็นที่จะนำมาอภิปราย
หากฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาชน เน้นไปที่ประเทศไทยส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน หรือสารพัดเรื่องดรามาชายแดนไทย เมียนมา จนถูกแซวว่าเป็นพรรคประชาชนเมียนมา บอกไว้ก่อนเลยครับ
เปลี่ยนเรื่องเถอะ!
ขืนอภิปราย ๒ เรื่องที่ว่า จะไปเพิ่มความพึงพอใจ และความเชื่อมั่นให้รัฐบาลเปล่าๆ
แถมฝ่ายค้านเองจะโดนค่อนแคะว่าเป็นพรรคประชาชนอุยกูร์เมียนมาให้เสียรังวัดกันเปล่าๆ
ถ้าแยกงานการเมืองกับงานเอ็นจีโอให้ออก เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาในการตรวจสอบรัฐบาลเลย แต่ถ้าแยกไม่ออก “อุ๊งอิ๊ง” นั่งยิ้มในสภาครับ
ฉะนั้นให้กำลังใจฝ่ายค้านครับ นิด้าโพล นำร่องให้แล้ว เอาไปต่อยอดให้เป็น
เนื้อหาในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านเขียนถึงการสมัครใจยินยอมให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการ อันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดา เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ ตรงนี้แหละครับต้องเน้นให้หนัก
เลี่ยงไม่ได้ต้องพาดพิงถึง “ทักษิณ”
ที่จริงใช้คำว่า “พาดพิง” ก็ไม่ถูกนัก เพราะ “ทักษิณ” มีพฤติกรรมครอบงำรัฐบาลอย่างโจ่งแจ้ง และซ้ำซาก
ภายใต้สโลแกนที่ “ทักษิณ” ภูมิใจนักหนา
“สทร.” เสือกทุกเรื่อง!
ฉะนั้นเป้าจริงจึงควรอยู่ที่ “ทักษิณ”
ส่วน “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ได้ดูถูกหรือบูลลีอะไรนะครับ มาเป็นนายกฯ เพราะพ่อสั่ง
มีวันนี้เพราะพ่อให้
มิได้ให้ลาภยศอะไรนะครับ
ให้ทุกข์ ปลุกโศก
ถูกอภิปรายแล่เนื้อเถือหนังคนเดียวตั้งแต่เช้ายันค่ำ ตอนนี้ยังไม่รู้กี่วันด้วยซ้ำ ถ้ารอดไปได้โดยไม่มีน้ำตาถือว่าเป็นอภิชาตบุตร
มีคุณสมบัติสูงกว่าทักษิณผู้เป็นพ่อ
ที่สูงกว่ามิใช่คุณธรรมคุณงามความดี
แต่จะเป็นอะไรก็หลับตาจินตนาการถึง “ทักษิณ” เอาครับ
ชอบใจโพสต์ของ “ปลอดประสพ สุรัสวดี” เป็นพิเศษ อดไม่ได้ต้องเล่าต่อ
โพสต์นี้ สส.พรรคเพื่อไทยต้องอ่าน
เป็นโพสต์หัวข้อ “ชีวิต ๘๐ ปี เห็นอะไรบ้าง”
“ปลอดประสพ” เห็น ๘ ข้อ แต่อยากให้อ่านข้อ ๔
“…อย่ายกย่องแต่คนรวยและความรวย เพราะอาจเป็นการได้ทรัพย์สินมาจากสิ่งสกปรกก็ได้ ควรยกย่องคนที่ขยันหมั่นเพียรแม้เขาเหล่านั้นไม่ได้มั่งมีอะไร…”
พล็อตเรื่องหลักชั้น ๑๔ เลยครับ
