“ที่รอคอย…ก็ใกล้เข้ามา” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

อุ๊งอิ๊งเอ๊ย!

เจ้าก็เหมือนลูกเจี๊ยบ ปีกยังไม่ทันงอก แต่ก็ผยองจะบิน

ตกมาแข้งขาหักก็พอว่า

แต่ถูกเหยี่ยวโฉบไปกินบนยอดผา เจ้าคิดหรือว่า พวกขี้ข้าพ่อทั้งหลาย นอกจากดีแต่น้ำลายเลียแล้ว จะมีปัญญาใด ปีนป่ายขึ้นไปช่วยเจ้าได้!?

คนมีกึ๋น การเมืองอาจใช้ไหวพริบปฏิภาณผ่านได้ แต่กับคนโฉดเขลา เผยอลำพอง ทั้่งไร้ประสบการณ์ แล้วเจ้าจะผ่านด่านนรกไปได้อย่างไร?

อภิปรายไม่ไว้วางใจ ๒๔ มีนา.นายกฯ ไม่ต่างไก่ชนที่เดือยยังไม่ทันงอก แต่ต้องลงไปตีกับไก่ “มีดโกนฝังแข้ง”

ไม่ต้องถึง ๓ วัน ๗ วันร้อก

ผลัวะเดียวก็คอพับ ลงไปดิ้นปั้ดๆ ให้ขี้ข้าในคอกตาเหลือก รีบอุ้มไปให้พ่อดู ว่าจะให้ทำไก่ต้มยำหรือเอาไปทำลาบดี?

วันนี้ (๓ มี.ค.๖๘) หนีตอบกระทู้ในสภาอีกแล้ว  คราวนี้ไปไกล ยกคณะบินไปเยอรมนี จนถึง ๘ มีนา.โน่น!

หนีสภาก็หนีไป แต่หนีด้วยการ “ผลาญงบประมาณ” เป็นสิบ-เป็นร้อยล้านเช่นนี้ มันยิ่งตอกย้ำ “อยู่เพื่อล้างผลาญ” ไม่ใช่อยู่เพื่อทำให้ชาวบ้านมีกิน-มีใช้

ที่ไป ไม่ได้ไปเป็น “แขกบ้าน-แขกเมือง” ที่รัฐบาลเยอรมนีเขาเชิญนะ

ไปงานนิทรรศการ ITB Berlin 2025 เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ AI จะเข้าไปมีบทบาทเปลี่ยนแปลงตลาดในอนาคต

งานแบบนี้ จำเป็นขนาดนายกฯ ต้องไปเชียวหรือ แล้วมันได้อะไรคุ้มกับ ค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าช็อป ที่ยกกันไปเป็นโขยง?

หรือ “การผลาญ” คืองานของนายกฯ!?

งานอย่างนี้ แค่ “นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าฯ ททท.กับทีมงานเขาไป มันจะไม่ตรงตัว ตรงงาน ตรงประโยชน์ที่จะได้มากกว่าหรือ?

อุ๊งอิ๊งไป นอกจากไปยืนปั้นจิ้ม-ปั้นเจ๋อ แต่งเสร่อให้ถ่ายรูปลงเฟซฯ แล้ว ก็ไม่เห็นจะได้อะไร แค่ค่ากินมื้อเดียวที่ไปกันก็ยังได้ไม่คุ้มด้วยซ้ำ

อ้างจะไปพบนักธุรกิจอุตสาหกรรมด้านแฟชั่นเยอรมัน อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์

ตะเภาเดียวกับรัฐมนตรีพาณิชย์ “นายพิชัย นริพทะพันธุ์” ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรี เดินสายต่างประเทศตะพึด

อ้างหาตลาดส่งออก!?

หาตลาดขายเพชรละมั้ง ถ้าเป็นตลาดสินค้าเกษตร “ชาวนา” คงไม่เดินขบวนมาร้องหน้าทำเนียบฯ หรอกว่า ข้าวราคาตกเหลือตันละ ๖-๗  พันบาท!

เป็นนายกฯ แล้วทัวร์ล้างผลาญ อ้างไปหาตลาด ไปดึงนักลงทุน มันเป็นเทรดดิชั่นรัฐบาลเพื่อไทยไปแล้ว

ตั้งแต่นายกฯ เศรษฐา เป็นโรคติดต่อมาถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊ง

แล้วมันขายอะไรได้บ้าง และมีนักลงทุนหน้าโง่รายไหน ที่ขนเงินเข้ามาลงทุน เพราะเชื่อน้ำลาย “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง”?

พูดกันตรงๆ นักลงทุนที่เข้ามา เพราะเขาเจรจาต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์โน่นแล้ว

มา “ออกดอก-ออกผล” เอาช่วงนี้ มันก็ดีแล้ว แต่ทุเรศตรงตีขลุมเป็นผลงานของรัฐบาลซาจี๊ปั่วนี่แหละ

ทำยังกะว่า รัฐบาลยี่ห้อทักษิณ มีมนตร์ขลัง พูดปุ๊บ นักลงทุนระดับหมื่นล้าน-แสนล้าน เขาเชื่อปั๊บ

กับ “ธุรกิจเทา” นั้นไม่แน่

แต่ธุรกิจอุตสาหกรรม นักลงทุนมืออาชีพ กว่าจะตัดสินใจ ขั้นแรก ความเชื่อมั่นในการเมือง ในเสถียรภาพประเทศ ต้องมาก่อน

“ข้อมูลรอบด้าน-ตัวเลขทุกตัว” โดยเฉพาะบุคลากรที่พร้อมกับงาน เขาต้องนำไปวิเคราะห์-เปรียบเทียบเป็นปีๆ ก่อนตัดสินใจ

แล้วถามว่า อุ๊งอิ๊งมีกึ๋นแค่ไหน….
ที่จะไปพรีเซนต์ให้นักธุรกิจอุตสาหกรรมด้านแฟชั่นอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์เยอรมัน ฟังรู้เรื่อง?

ไม่มีเหตุผล ไม่มีความจำเป็น ที่ระดับนายกฯ ต้องไป เมื่อไปก็ควรรู้ไว้ด้วย ว่าตอนนี้ เยอรมนีอยู่ช่วง “เปลี่ยนถ่ายอำนาจ”

พรรคฝ่ายซ้าย SPD ของ “นายโอลาฟ โชลซ์” นายกฯ คนปัจจุบัน แพ้ หล่นไปอยู่อันดับ ๓

พรรคอนุรักษนิยม CDU ของอดีตนายกฯ “อังเกลา แมร์เคิล” ที่ “นายแมร์ซ” หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ชนะ อันดับ ๑ ขึ้นเป็นว่าที่นายกฯ

นายแมร์ซกำลังจัดตั้งรัฐบาลผสม เขามีแนวทางสนับสนุน “เซเลนสกี” ในศึกยูเครน

ที่น่าจับตา พรรค AfD ขวาจัดสายเลือด “ฮิตเลอร์” มี “อลิซ ไวเดล” หญิงแกร่งวัย ๔๐ เป็นผู้นำ ได้รับคะแนนนิยมพุ่งขึ้นอันดับ ๒

ตรงนี้ ต้องจับตาในฐานะ “ตัวแปร” การเมืองเยอรมันกันเลยทีเดียว

เพราะเป็นครั้งแรกที่คนเยอรมันทั้งตะวันออก-ตะวันตก เทคะแนนให้ “พรรคขวาจัด” พุ่งขึ้นอันดับ ๒ หลังจากที่รั้งท้ายมาตลอด

“อลิซ ไวเดล” เธอมีแฟน “เป็นหญิง” และได้รับการสนับสนุนจาก “อีลอน มัสก์”!?

ไหนๆ จะไปเยอรมัน นายกฯ ไทยควรทราบเป็น “ความรู้รอบตัว” ไว้ด้วย

ย้อนกลับมาเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ที่เพื่อไทย “หักคอ” ฝ่ายค้าน ให้อภิปรายวันเดียว “เปิดเช้า-ปิดค่ำ” จบเลย นั้น

ว่ากันตรงๆ “เพื่อไทย” น่ะ เขาทำได้ทั้งนั้น ทั้งเขียนด้วยมือลบด้วยตีน ทั้งลบด้วยตีนแล้วเขียนด้วยมือ

สมัยเพื่อไทยเป็นฝ่ายแค้น เปิดอภิปรายรัฐบาลประยุทธ์ ๓-๔ วัน ยังว่าน้อย จะเอา ๗ วัน ๗ คืน

พอเป็นรัฐบาล พรรคประชาชน-ฝ่ายค้าน เขาขออย่างน้อย ๒-๓ วัน แต่เพื่อไทยบอก อภิปรายนายกฯ คนเดียว-วันเดียวก็พอ!?

คำว่า “อาย” กับคำว่า “ละอาย” มันคล้ายๆ กัน  แต่ต่างกัน

“อาย” คือ ความรู้สึก กระดาก เก้อเขิน เป็นอาการกิริยาจาก “จิตประหม่า” ซึ่งบางทีมันก็น่ารัก-น่าเอ็นดู

แต่ “ละอาย” มันสะท้อนจากสิ่งไม่ดี-ไม่ถูกต้อง ที่ตัวเองทำและรู้อยู่กับใจ แต่พยายามปกปิดซ่อนไว้ แต่มันกระฉอกออกทางการกระทำ

ซึ่งมันทั้งน่ารังเกียจ น่าหยามเหยียด เป็นพฤติกรรม “น่าละอาย”!

ในเมื่อนายหญิงพวกคุณเป็น “แพทองธาร-ของแทร่” เป็นลูกเสือ-ลูกตะเข้ จะต้องไปแคร์กับวันอภิปรายของพวกพิการนิ้วให้เสียชื่อพ่อทักษิณไปทำไม…หือ?

องครักษ์ในสภาเป็นร้อย หลี่กงกงนอกสภาอีกเป็นสิบ ยังไงๆ ก็ชิงศพกลับออกมาได้แน่

เพื่อให้มีศักดิ์-มีศรี มีกิน-มีใช้ไปด้วยกัน เปิดบาร์ฟรีให้ฝ่ายค้านเขากินโต๊ะไปด้วยกัน จะเป็นไรไป

เพื่อไทยตีตราตัวเองเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” แล้วประชาธิปไตยตวัก-ตะบวยอะไร พอถูกเปิดอภิปรายเข้าบ้าง กลับให้เขาพูดวันเดียว

นั่นมันเผด็จการในคราบประชาธิปไตยเถื่อน รู้มั้ย!

อีกอย่าง ในเชิงนักเลง การหักดิบวันอภิปราย เท่ากับเพื่อไทย “ยอมรับในข้อเท็จจริง”

แล้วลงมติ “ไม่ไว้วางใจ” นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ซะเอง เหมือนฟุตบอล ที่เตะเข้าประตูตัวเอง เพราะลนลาน!

การให้เขาตั้ง “ตั้งเช้า-เผาค่ำ”

คือการยอมรับข้อหาตามญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อ ๒๗ ก.พ. ที่ระบุว่า

-นายกฯ ขาดภาวะผู้นำ, วุฒิภาวะ, ความรู้ความสามารถ

-ขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่แก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชน

-ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศชาติ

-จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ตน บิดา ครอบครัว และพวกพ้อง เป็นตัวตั้ง

-ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

-มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม

-โกหกหลอกลวง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่สัญญาไว้

-เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย

-บริหารผิดพลาดล้มเหลวร้ายแรง ทั้งในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม

-ทำลายนิติรัฐ ระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ทั้งเจตนาปล่อยปละให้เกิดทุจริตคอร์รัปชันภายใต้การบริหารงานของตนเอง

-ทุจริตเชิงนโยบาย บริหารเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน

-แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริตไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น

-สมัครใจยินยอมให้บิดาคือ “นายทักษิณ” ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง

-เป็นนายกฯ หุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกฯ ตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ

ว่าทั้งหมดนี้….

เป็นความจริง ชนิด “พูดไม่ออก-เถียงไม่ได้”!

ฉะนั้น ทางที่ดี เพื่อป้องกันการขุดขึ้นมาขึงพืดกลางตลาดทีละข้อ เลยรวบรัด “รีบเผา” ดีที่สุด!

นี่ก็เห็น “นายพิชิต ไชยมงคล” แกนนำ คปท. พร้อมด้วย ศปปส.และกองทัพธรรม ยกขบวนมาสมทบงานสมโภชนายกฯ อุ๊งอิ๊งกันแล้ว

“ไม่เอากาสิโน…ไม่เอาพนันออนไลน์” ที่เพื่อไทยจะนำเข้า “หักดิบ” ใน ครม.ราวๆ อังคารที่ ๑๑ มีนา.

“ศีลธรรมไม่มา แต่กาสิโนมา โลกาวินาศ” แน่นอน!

เขาปักหลักค้างแรมอยู่แถวๆ หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวาน (๒ มี.ค.)

เพื่ออนาคตชาติบ้านเมือง การไม่นิ่งดูดาย ถือเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยอย่างหนึ่ง เป็นกำลังใจให้นะ

ผมบอกแล้ว ตั้งแต่มีนา.ไป เข้าเขต “วันสุกดิบ”

มีวันสำคัญทางประเพณีไทยอยู่วัน ที่คนไทยลืมหรือไม่รู้จักกันแล้ว คือ “วันตรุษไทย” อันเป็นวัน “สิ้นปีนักษัตร” และเริ่มปีนักษัตรใหม่

ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ของทุกปี คือ “วันตรุษไทย” ก่อนจะถึงวัน “ตรุษสงกรานต์” เดือน ๕

ตรุษไทย ปีนี้ ตรงกับวันที่ ๒๘ มีนา. เรียกว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ อุ๊งอิ๊งจบ ก็สิ้นปีนักษัตร “มะโรง” ขึ้น “ปีมะเส็ง”

มะเส็ง ๒๙ มีนา.ปุ๊บ….

“อมาวสีจันทร์ดับ” เกิด “สุริยคราส” ปั๊บ ผลที่เกิดต่อจากนั้น

      “ใครทำกรรมดี สดใส, ใครทำกรรมชั่วร้าย  เตรียมตัวได้เลย”!

     เปลว สีเงิน

๓ มีนาคม ๒๕๖๘

Written By
More from plew
แผ่นดินนี้ “ศักดิ์สิทธิ์” นัก – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน แรกๆ ยังไม่ค่อยมั่นใจ เพราะ “รู้ไส้” ตำรวจดี แต่ถึงวันนี้ มั่นใจ ระดับ ๖๐% อัพ...
Read More
0 replies on ““ที่รอคอย…ก็ใกล้เข้ามา” #เปลวสีเงิน”