สันต์ สะตอแมน
นี่..เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อวุฒิสภา จึงเป็นธรรมดาที่ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ที่ทำงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มา 38 ปี..
จะรู้สึก.. “ผมรับไม่ได้ สมาชิกท่านอื่นก็เช่นเดียวกัน ที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองมา..”
พร้อมประกาศเดินหน้าตอบโต้กรณีที่มีการยื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.ปี 2567 เป็นคดีพิเศษว่า..
“จะให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการแจ้งความผู้ที่กล่าวหา ทั้งภาครัฐและเอกชน ฐานทำให้วุฒิสภาเสียหาย ถูกเข้าใจผิด
และในส่วนของกรรมาธิการวุฒิสภาจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงถึงอำนาจหน้าที่
และที่มาที่ไปของการมากล่าวหาวุฒิสภาร้ายแรงเรื่องอั้งยี่ซ่องโจร อาชญากรรมและภัยต่อความมั่นคง
และจะเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ในประเด็นการดำเนินงานในส่วนของดีเอสไอที่กล่าวหาวุฒิสภา เป็นไปด้วยเหตุและผลหรือไม่..”
ตบท้าย พล.อ.เกรียงไกรย้ำ.. “วุฒิสภาจะพิจารณาเข้าชื่อเสนอให้ประธานวุฒิสภา เพื่อดำเนินการส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยถอดถอนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง..”
ครับ..สัปดาห์ที่แล้วแวะไปทำธุระปะปังแถวสระบุรี เห็นขบวนรถถังที่เข้าใจว่าน่าจะเคลื่อนมาจากลพบุรี วิ่งสวนทางมาย้าวยาว อยากจะจอดถามเหมือนกัน..
“พี่จะไปไหนเหรอ”? แต่ไม่กล้า ได้แต่นึกในใจ สงสัยจะพารถถังไปซ่อม แต่คิดอีกที หรือเป็นเพราะการเมืองมันหักเหลี่ยมโหดเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองหนักข้อขึ้นทุกวัน
ซ้ำมีคนปูดข่าวพรรคเพื่อไทยเตรียมเขี่ยพรรคร่วมรัฐบาลออก แล้วเอาพรรคประชาชนเข้า ทหารก็เลยต้องเอารถถังออกมายืดเส้นยืดสาย ก็ไม่รู้นะ!
กลับบ้านก็ดันนอนฝันเห็นทหารเฒ่า 3-4 พลเอก เขานั่งคุย-สนทนากัน ในฝันเห็นใบหน้าชัด ท่านหนึ่งบิ๊กป้อม ท่านสองบิ๊กป๊อก ท่านสามบิ๊กตู่..
ส่วนอีกท่าน “แต่งตัวเต็มยศ” แต่ไม่เห็นใบหน้า..เสียดายในฝันไม่ได้ยินเสียงคุยกัน ไม่งั้น ได้รู้แผน “4 ป.” คิดทำการสิ่งใด?
พูดถึง สว. ก็น่าเห็นใจ อุตส่าห์ลงแข่งขัน-เลือกตั้งกันมาตามกติกาที่ กกต.กำหนด จนได้รับการรับรองตามที่คุณแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลง..
“ผลการประชุม กกต. เรื่องการพิจารณารับรองประกาศผลการเลือก สว. ว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 42 กำหนดว่า
หาก กกต.เห็นว่ากระบวนการเลือกเป็นไปด้วยความถูกต้อง สุจริตเที่ยงธรรมตามกฎหมาย หรือการกระทำที่ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
และปฏิบัติตามกฎหมาย 3 เงื่อนไข กกต.จึงประกาศผลการเลือก สว.ได้”
ซึ่ง..เท่ากับว่าในการได้มาของ สว.ทั้ง 200 ท่านที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์-ยุติธรรมตามกฎ-กติกา กกต.ทุกประการ!
แต่เมื่อมาเจอกับข้อกล่าวหา.. “อั้งยี่ ซ่องโจร อาชญากรรมและภัยต่อความมั่นคง” เข้าอย่างนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจดังที่กล่าว ที่สำคัญสังคมต่างแสดงความสงสัย..
ตกลง..องค์กร-หน่วยงานไหนกันแน่เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัดการการเลือกตั้ง?
ที่รู้.. กกต.เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีหน้าที่หลักเป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัดหรือจัดให้มีการเลือกตั้ง สส., สว.
รวมถึงสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ส่วนดีเอสไอ.. มีหน้าที่สืบสวนคดีพิเศษบางคดี ซึ่งรวมถึงคดีอาญาที่ซับซ้อน คดีที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ คดีที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม
ไม่ได้มีหน้าที่ยัดข้อหา “อั้งยี่ ซ่องโจร อาชญากรรมและภัยต่อความมั่นคง” ให้กับ สว. และ..
ไม่มีหน้าที่ “รับใช้นักการเมือง” นี่ครับ!
