แพทองธาร ย้ำ 3 จุดแข็งไทยบนเวทีโลก ครัวโลก วัฒนธรรม อุตสาหกรรมอนาคต ยกย่องบทบาทผู้หญิงไทย ขับเคลื่อนประเทศ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 18:15 น. ณ TRUE ICON HALL ชั้น 7 ศูนย์การค้า ICON SIAM เขตคลองสาน กรุงเทพฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Go Thailand 2025 : Women Run the World” 45 ปี ฐานเศรษฐกิจ เพื่อยกย่องผู้หญิงที่มีบทบาทเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนองค์กรและสังคม พร้อมกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจแก่ผู้หญิงรุ่นใหม่ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสังคมไทย

โดยมี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารเครือเนชั่น ผู้บริหารภาครัฐ ภาคเอกชน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เข้าร่วม

นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า จากการแสดงวิสัยทัศน์ประเทศไทย ที่ได้ไปพูดในหลายเวทีทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเวทีล่าสุด WEF ที่ดาวอส จุดขายของที่ประเทศไทย พกติดตัวไปด้วยเวลาเจอผู้นำในประเทศ มี 3 ประการ คือ

1) การเป็นครัวโลก นายกรัฐมนตรีย้ำถึงว่าประเทศไทยมีความพร้อมทุกด้านที่จะเป็นครัวของโลก เพราะมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตทางการเกษตร เป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งที่ผลักดันให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลจะต่อ ยอด ความมั่นคงทางด้านอาหาร (food security) พร้อมกับผลักดันแนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” รัฐบาลจะต้องส่งเสริมเกษตรกรไทย เข้ามาช่วยทำให้วัตถุดิบของไทยสามารถกระจายสู่ทั่วโลกได้ รวมถึงภาคการเกษตรไทยจะต้องรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกปีให้ได้ โดยรัฐบาลจะเร่งผลักดันการลงทุนในเทคโนโลยีการเกษตร ทำให้กลายเป็นเกษตรแม่นยำสูง โดยใช้ AI หุ่นยนต์ เพื่อให้ภาคการเกษตรของไทยพัฒนาไปเติบโตเต็มศักยภาพ เช่นในเรื่องของฝุ่น เป็นวาระของอาเซียน ได้มีการหารือถึงนวัตกรรมต่าง ๆ ที่สามารถลดฝุ่น PM 2.5 ได้ โดยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก

2) การพัฒนาวัฒนธรรมไทยให้สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น ให้ต่างชาติชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม การบริการของคนไทยและการสร้างรายได้ให้กับคนไทย คือการสร้างเสน่ห์ให้ประเทศไทย ในการจัดเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งเดือนทั้งปี ไม่ได้มีแค่ช่วงไฮซีซั่น ให้คนที่มาท่องเที่ยวอยู่นานขึ้น และเพิ่มมากขึ้น ทำให้รายได้หมุนเวียนเข้าประเทศ เข้าจังหวัดมากขึ้น คือ สิ่งรัฐบาลที่พยายามผลักดันต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เมืองหลัก เมืองรองก็เช่นกัน จะต้องกระตุ้นจีดีพีให้เพิ่มขึ้น สิ่งที่มีอยู่แล้วคือ Sightseeing อาจไม่สามารถตอบโจทย์การกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทั้งหมด และ Human made เป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครวม อาทิ Entertainment Complex Wellness tourism สิ่งเหล่านี้จะสามารถผลักดันจีดีพีของประเทศไทยก้าวกระโดดได้

3) อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็น semi-conductors Data center เมื่ออุตสาหกรรมเข้ามาพลังงานถูกใช้ไปอย่างมาก ต้องทำต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ที่สำคัญต้องทำเรื่อง Green energy ควบคู่กับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ จะต้องไม่เพิ่มภาวะโลกร้อน และแน่นอน การเร่งลงทุน ต้องสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนและเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 เป็นสิ่งที่ได้รับการตกลงในประเทศเพื่อนบ้านและทั่วโลก และในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพคนก็สำคัญมาก รวมไปถึงนโยบาย ODOS จะต้องเตรียมคนไว้กับอุตสาหกรรมอนาคต ให้คนมีศักยภาพพอสำหรับการทำงาน เป็นโอกาสของคนไทย โอกาสของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเรื่องอุปกรณ์การศึกษายังไม่เพียงพอ ไม่ตอบโจทย์ ต้องปรับปรุง ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่ทุกกระทรวงต้องวางแผนร่วมกันในเรื่องของการเตรียมคนแห่งอนาคต

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงธีมงานของวันนี้ “Women Run the World” เป็นธีมงานที่น่าสนใจมาก น่ายินดีว่าประเทศไทย มีจำนวน CEO หญิงสูง เป็นอันดับ 3 ของโลก สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้มีการกีดกันผู้หญิงในที่ทำงาน ผู้หญิงมีโอกาสขึ้นไปตำแหน่งสูง ซึ่งผู้หญิงที่อยู่ในภาคของรัฐบาลยังมีไม่มาก ในส่วนของคณะรัฐมนตรี ถ้าเทียบกับประเทศอื่น ๆ อาชีพต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องจำกัดในเรื่องของเพศหรือเพศสภาพ ถ้ามีอุดมการณ์ พร้อมที่จะช่วยผลักดันในเรื่องของนโยบาย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่เปิดรับความหลากหลายทางเพศสมรสเท่าเทียมที่สำเร็จไป ในฐานะนายกรัฐมนตรีถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมาก ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศที่สมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว เป็นเครื่องหมายของการที่ต้องการให้คนเท่าเทียม ให้กฎหมายดูแลประชาชนในทุกเพศสภาพ ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจของคนไทยทุกคน

”ในฐานะของผู้หญิง ฐานะแม่ ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในครอบครัว ให้กับลูก สอนให้ลูกเข้าใจโลกแบบเข้มแข็ง ไม่ใช่แบบฝืนธรรมชาติ การที่มายืนอยู่ตรงนี้ด้วยความเป็นผู้หญิงแน่นอนว่าโดนปรามาสมากมาย ไม่ว่าจะอายุน้อย เรื่องเสื้อผ้า หน้าผม มันไม่ใช่มาตรวัดความรู้ ความสามารถของเพศใดเลย ไม่ใช่สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนนั้นมีความสามารถที่เพียงพอหรือไม่ เป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก ความชอบ ความมั่นใจของแต่ละคน ถ้าสอนลูกของดิฉัน อยากให้เขามีความมั่นใจในตนเอง เห็นค่าของตนเองเติบโตขึ้นมาด้วยพื้นฐานรักตัวเองมากพอ ที่จะส่งมอบความรักต่อให้คนอื่นได้ ถ้ายังรักตัวเองไม่มาก พอชอบตัวเองไม่มากพอ เราก็จะไม่มีแรงในการที่จะรักหรือชอบคนอื่นได้ ในที่นี้ได้มีโอกาสอยู่บนเวทีอยากจะให้ผู้หญิงทุกคนมั่นใจว่าเมื่ออยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม เมื่อเรามีความรู้ความสามารถเราเตรียมตัวตั้งใจทำงาน นั่นคือมาตรวัดของเราว่าเราเต็มที่ในหน้าที่การงาน นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่วัดความสามารถของเรา การที่เราเป็นผู้หญิงหรือเพศใดก็ตามมีสิทธิ มีความเท่าเทียม มีความเป็นมนุษย์ มีแรงและพลังในการผลักดันประเทศเหมือนกัน อยู่ที่ใจ อยู่ที่เวลา อยู่ที่การจัดสรรว่าเราจะสามารถช่วยเหลือประเทศได้อย่างไรบ้าง ตอนที่ได้พบเด็กนักเรียนตัวเล็ก ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าน้อง ๆ นั่งดูอยู่ เด็กทุกคนเลือกอนาคตของตนเอง เลือกสิ่งที่ถูกโตขึ้นมามีคุณภาพ ช่วยกันผลักดัน จากหน่วยเล็กๆ ระดับหมู่บ้าน จังหวัด ประเทศมาถึงระดับโลก เป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นเชื่ออย่างยิ่ง ว่าคนไทยของเรามีศักยภาพมากมาย แค่รอที่โอกาสที่ดีเท่านั้น“ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ

Written By
More from pp
เซอร์วิสฮีโร่ เปิดบริการใหม่ แม่บ้านประจำแบบไม่ประจำรับยุค New Normal เริ่มต้นเดือนละ 3,000 บาท
ในยุคที่ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง แต่ค่าใช้จ่ายประจำก็จำเป็นต้องจำกัด เซอร์วิสฮีโร่– แอปพลิเคชันค้นหาและว่าจ้างช่างและแม่บ้านมืออาชีพ จึงเปิดบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ รับชีวิตวิถีใหม่
Read More
0 replies on “แพทองธาร ย้ำ 3 จุดแข็งไทยบนเวทีโลก ครัวโลก วัฒนธรรม อุตสาหกรรมอนาคต ยกย่องบทบาทผู้หญิงไทย ขับเคลื่อนประเทศ”