3 ธันวาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมืใจไทย กล่าวถึงกรณีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก อบจ. ศรีสะเกษ จะเป็นการชนระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า
พรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นแนะนำพรรค เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นเรื่องของท้องถิ่น ทุกคนมีพรรคพวก พี่อยู่พรรคหนึ่งน้องอยู่อีกพรรคหนึ่ง เราไม่ต้องการให้ความเป็นพรรค เป็นอุปสรรค ทำให้คนที่ต้องการเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่สนับสนุนกัน
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ศรีสะเกษเพื่อร่วมอาศัยและหาเสียง และจะยึดพื้นที่นี้ไว้ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่ง กรณีที่ใครก็ตามที่จะไปช่วยหรือปราศรัย ก็มีกระบวนการตามกฎหมายอยู่แล้ว ที่ต้องเป็นผู้ช่วยหาเสียง หรืออะไรก็ตามที่กฎหมายกำหนด
ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ต่อให้เป็นคนของพรรคหรือคนสนิทของพรรค หรือเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ถ้าเขาลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น หมายความว่าเขาลงในนามส่วนตัว แต่ตนมีสถานะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงอยากจะลงไปช่วยก็ทำไม่ได้ เพราะตนเป็นคนสั่งให้ปลัดกระทรวงออกกฎให้ข้าราชการฝ่ายปกครองของกระทรวงวางตัวเป็นกลาง ในการเลือกตั้งนายกอบจ. เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าในฐานะพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่งใครลง เรื่องจะมาชนกับพรรคการเมืองอื่นๆ นั้นไม่มี เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน
เมื่อถามว่าหลายคนมองว่า การเลือกนายกอบจ เป็นการปูพื้นฐานสู่การเลือกตั้งระดับประเทศ หากเสียตรงนี้ไปจะทำให้เกิดความกังวลหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่าหลายคนที่มองเป็นใครแต่ส่วนตัวไม่ได้มอง เพราะท้องถิ่นเป็นเรื่องของคนในท้องถิ่น ที่ต้องการทำงานรับใช้บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง แต่บังเอิญบางคนมาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย บางคนมีญาติอยู่ที่พรรคภูมิใจไทย แบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ แต่พรรคไม่ได้ส่ง
นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร และไม่ได้หลีกทางใคร พรรคไม่มีนโยบายในการส่งผู้สมัครองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นอบจ. อบต.
ขณะที่นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ในฐานะบุตรสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกอบจ. ศรีสะเกษ ที่จะลงชิงในสมัยหน้าด้วย ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอยืนยันว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร แต่เป็นการรวมกลุ่มกันเอง ชื่อว่ากลุ่มคนท้องถิ่น ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะต้องสู้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเรื่องของคนท้องถิ่นคนศรีสะเกษเอง ที่จะสู้กับพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย
ส่วนมองอย่างไรที่นายทักษิณจะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง นางสาวไตรศุลี ระบุว่า ก็ขอให้รอดูว่าคนศรีสะเกษเขามีความสามัคคีขนาดไหนและจะสู้อย่างไร ขอให้รอดูต่อไป แม้ว่าเรื่องนี้เป็นของบิดาซึ่งเป็นผู้สมัคร แต่ถ้าถามตนในฐานะบุตรสาว ก็ยืนยันว่าสู้เต็มที่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะสู้กับใคร เบอร์ใหญ่ขนาดไหน ก็ถือเป็นเกียรติด้วยซ้ำ ที่มีโอกาสได้ต่อสู้กับเบอร์ใหญ่ขนาดนี้
เมื่อถามว่าจะต้องให้เบอร์ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยลงไปช่วยหาเสียงหรือไม่ นางสาวไตรศุลี กล่าวตอบทันทีว่า ไม่ต้อง เพราะใช้เบอร์ใหญ่ในจังหวัดศรีสะเกษหาเสียงก็แล้วกัน เรื่องท้องถิ่นก็ให้คนในท้องถิ่นสู้กันเอง และขอให้เป็นคนที่เข้าใจท้องถิ่นจริงๆ