แด่ “อัยการสูงสุด” ด้วยรัก

เปลว สีเงิน

ท่าน “วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์” ผู้เป็น “อัยการสูงสุด” ครับ

องค์กรท่าน…
“สำนักงานอัยการสูงสูด” ผู้ครองอำนาจตามกฎหมายในคำว่า “คำสั่งเด็ดขาด” ในการไม่ฟ้องคดีเป็นประกาศิตก็อยากกราบเรียนท่านว่า ระยะนี้ การทำหน้าที่ทนายแผ่นดินของอัยการ หลายเรื่อง นอกจากไม่เข้าตาแล้ว
บางเรื่อง-บางคดี ………
ยังไม่เป็นที่เข้าใจของประชาชนด้วย

เช่น เรื่อง “นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” น้องชายนายธนาธร เจ้าของสโลแกน “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส”

ที่ให้เงินเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ๒๐ ล้านบาท ซึ่งคดี “ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง” มีคำพิพากษาลงโทษในส่วนของเจ้าหน้าที่ทรัพย์สินฯ ไปแล้ว

แต่เกิดข้อสงสัยเป็นประเด็นวิพากษ์เชิงถกเถียงกันอื้ออึงขณะนี้ว่า ในส่วน “คนติดสินบน” และกรรมการบริษัทล่ะ
อัยการจะว่าอย่างไร?

ปล่อยคดีจบไปแค่นั้น หรือมีแนวปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปอย่างไร ทั้งด้านพนักงานสอบสวนและด้านอัยการ?

คดีก็แดงแทงใจชาวบ้านมานานวันจนแมลงวันรุมตอม ถึงขั้นมีคนไปยื่นหนังสือถึงท่าน คือ นายวัชระ เพชรทอง เพื่อขอคำชี้แจงจากท่านก็มี ที่วิพากษ์ขรมตามสื่อโซเชียลก็มาก

ผมก็คาดหวังว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุด คงจะมีคำชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจบ้าง

จนเมื่อวาน (๗ ธค.๖๓) เห็นมีข่าวสารออกมา นึกว่าเป็นข่าวสารสนองรู้ แต่กลายเป็นคำสั่ง “แต่งตั้งโฆษก-รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด” ซะนี่
“เกาไม่ถูกที่คัน” เลยครับท่าน!

เรื่องนี้ ไม่ใช่ลิเก ไม่จำเป็นต้องคั่นด้วยการออกแขก ตั้งน่ะ ก็ตั้งไปเถอะ แต่การให้วิทยาทานทางกฎหมายกับชาวบ้านเรื่องสินบน
ออกฉากได้เลยครับ!

ยิ่งนาน ข้อสงสัยยิ่งบาน ควร “ตัดไฟแต่ต้นลม” ก่อนไฟลามไหม้ถึงองค์กรอัยการ ที่ผุกร่อนทางศรัทธาในเวลานี้

อย่าว่าแต่ระดับชาวบ้านสงสัย ระดับอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ยังสงสัยในขั้นตอนปฏิบัติหลังศาลมีคำพิพากษา

นี่ไงครับ……
ท่าน “ชูชาติ ศรีแสง” อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์วันก่อน ดังนี้

กรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อท 76/2562 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 228/2563
ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1, ที่ 2 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 143, 264, 265, 268 ฯ
โดยให้จำคุก คนละ 3 ปี

มีข้อเท็จจริงที่ยุติตามคำพิพากษาว่า……..
นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้จำเลยที่ 2 ดำเนินการติดต่อประสานงานและอำนวยความสะดวกเพื่อให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
ได้สิทธิการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) โดยมีค่าตอบแทน 500 ล้านบาท

ต่อมานายสกุลธรได้จ่ายเงินให้จำเลยทั้งสองรวม 3 งวด เป็นเงิน 20 ล้านบาท เพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จำเลยทั้งสองจะร่วมกันไปติดต่อประสานงาน
และให้นำเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน โดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมาย

เพื่อจูงใจรองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้กระทำในหน้าที่ ด้วยการจัดสรรที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินฯ บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้สิทธิการเช่าระยะยาว

โดยไม่ต้องผ่านการประมูลตามขั้นตอนตามปกติของการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ อันเป็นคุณแก่บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
และทำให้สำนักงานทรัพย์สินฯ เสียประโยชน์ที่จะได้รับเงินจากการประมูลที่สูงที่สุด ในประการที่จะได้รับความเสียหายแก่สำนักงานทรัพย์สินฯ…ฯลฯ

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 บัญญัติว่า ผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้า
พนักงาน ฯลฯ
เพื่อจูงใจให้กระทําการ ไม่กระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่
ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

การกระทำของนายสกุลธรที่เสนอจ่ายค่าตอบแทนให้แก่จำเลยทั้งสองเป็นเงิน 500 ล้านบาท โดยจ่ายให้แล้ว 20 ล้านบาท และให้นำเงินบางส่วนไปมอบให้รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯ
เพื่อจูงใจให้กระทำในหน้าที่ด้วยการจัดสรรที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินฯ บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
ได้สิทธิการเช่าระยะยาว …..
โดยไม่ต้องผ่านการประมูลตามขั้นตอนตามปกติ ฯ

จึงเป็นการให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินแก่รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามมาตรา 144

แม้จำเลยทั้งสองไม่ได้นำเงินที่นายสกุลธรจ่ายให้ไปมอบให้รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯ แต่นายสกุลธรก็ได้ลงมือกระทำความผิดแล้ว

นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ย่อมเข้าข่ายมีความผิดฐานพยายามกระทำความผิดมาตรา 144 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 ซึ่งมีโทษ 2 ใน 3 ของโทษตามมาตรา 144


พนักงานสอบสวนในคดีนี้ ย่อมทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดี แต่มีเหตุผลอะไร
จึงไม่สอบสวนดำเนินคดีแก่นายสกุลธรในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144, 80?

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เรียกหาความเสมอภาคนิ่งเฉยได้อย่างไร ?
พรรคก้าวไกล ต้องตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีโดยรีบด่วน?

สังคมไทยจะปล่อยให้คนเสนอจ่ายสินบน 500 ล้านบาทลอยนวลหรือ?

นี่คือข้อสงสัยของอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ที่อัยการน่าจะมีคำตอบ

นอกจากนั้น “น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ” อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ มีมุมมองในฐานะนักกฎหมายน่าสนใจ ๒ ประเด็น

๑.ช่วงเกิดเหตุ นายธนาธร เป็น ๑ ในผู้ถือหุ้นบริษัท ทราบหรือรู้เห็นเป็นใจมากน้อยเพียงใด ถึงการกระทำและเจตนาของนายสกุลธร กับการจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อให้บริษัทฯ ชนะการประมูล

นายธนาธรที่มักชอบการตรวจสอบทุจริต เรียกร้องความโปร่งใสอยู่เป็นประจำ ทราบเหตุแล้ว ทำไมไม่ใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๑๖๙ ที่บัญญัติว่า

“ถ้ากรรมการทำให้เกิดเสียหายแก่บริษัท บริษัทจะฟ้องร้องเรียกเอาสินไหมทดแทนแก่กรรมการก็ได้ หรือในกรณีที่บริษัทไม่ยอมฟ้องร้อง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดจะเอาคดีนั้น ขึ้นว่าก็ได้”

หรือว่านายธนาธรละเว้นการตรวจสอบทุจริตเพื่อความโปร่งใสเพราะเป็นการกระทำของเครือญาติของตนเองใช่หรือไม่?

๒.ช่วงเกิดเหตุ กรรมการบริษัทเรียลแอสเสทมีผู้ใดบ้าง หากนายสกุลธรกระทำในฐานะกรรมการบริษัท นายธนาธรซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นก็ต้องร่วมรับผิดด้วย ตามที่ ป.พ.พ. มาตรา ๑๑๔๔ บัญญัติว่า

“บรรดาบริษัทจำกัด ให้มีกรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนด้วยกันจัดการตามข้อบังคับของบริษัท และอยู่ในความครอบงำของที่ประชุมใหญ่แห่งผู้ถือหุ้นทั้งปวง”

และมาตรา ๑๑๖๗ ที่บัญญัติว่า
”ความเกี่ยวพันกันในระหว่างกรรมการและบริษัทและบุคคลภายนอกนั้น ท่านให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่าด้วยตัวแทน”


เห็นมั้ยล่ะท่าน ว่าเรื่องมันยาว….
เรื่องกฎหมายไม่ใช่เรื่องกำลังภายใน ที่จะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ตัวกฎหมายมันโยงไปถึงนี่แล้วเห็นมั้ย

“วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์” ที่ยื่นหนังสือถึงท่าน โพสต์ขมวดประเด็นว่า

แม่และพี่ชายรู้เรื่องด้วยหรือไม่???

“ขณะเกิดเหตุกระทำผิดตามคำพิพากษา คือ มี.ค. 2560 – 18 ก.ย. 2560
บริษัทเรียลแอสเสทฯ แสดงบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อ 3 ก.ค. 2560 ลำดับที่ 1 นางสมพร ลำดับที่ 2 นายธนาธร และลำดับที่ 6 นายสกุลธร

นางสมพรเคยบอกว่าบุตรชายไม่โกงแน่นอน
แต่การติดสินบน ถือเป็นการโกงหรือไม่???”

ครับ…ภารกิจอัยการมีว่า
พนักงานอัยการมีหน้าที่อำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน
ต้องทำด้วยความรวดเร็ว เท่าเทียมกันและเป็นธรรม กับทั้งต้องทำให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชน

ดังนั้น ท่านอัยการสูงสุดครับ……
อย่าให้นางสมพรแถลงก่อน แล้วทีมโฆษกชุดใหม่ แถลงตามหลังเลยครับ.

 


Written By
More from plew
เห็นยัง “บิ๊กแดง” เป็นแบบไหน
ผักกาดหอม อุ่นหนาฝาคั่ง…แน่นซอย ไทยโพสต์ ครบรอบ ๒๓ ปี ย่างเข้าปีที่ ๒๔ ยังได้รับความรัก จากกัลยาณมิตรมากมาย เหมือนเช่นเคย ขอบคุณกันไม่หมด...
Read More
0 replies on “แด่ “อัยการสูงสุด” ด้วยรัก”