19 กรกฎาคม 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาถือว่านายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ในสภาได้ดี แต่
ล่าสุดที่นายปดิพัทธ์ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อถึงประเด็นคดียุบพรรคก้าวไกล โดยได้พาดพิงว่าการยุบพรรคการเมือง เป็นการทำลายเจตนารมณ์ของประชาชนแสดงว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย การพูดแบบนั้น ระวังจะเป็นการก้าวล่วงศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลยังไม่ได้วินิจฉัยคดีนี้และนัดฟังคำตัดสินในวันที่ 7 ส.ค. การพูดไปล่วงหน้าต้องระมัดระวังก้าวล่วงอำนาจศาลฯ
ขณะที่ตนมองว่า ประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งมาแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 ซึ่งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทุกพรรคการเมือง ต่างก็หาเสียงและดำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามกฎหมาย หากมีบุคคลหรือพรรคใดทำผิดก็ควรยอมรับพฤติกรรมการกระทำของตัวเอง ทั้งนี้หากท้ายที่สุดศาลมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร ก็ควรน้อมรับคำตัดสินแบบลูกผู้ชาย ไม่ควรพาลกล่าวหากระบวนการยุติธรรมว่าแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะแต่ละอำนาจ ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง หากฝ่ายนิติบัญญัติหรือพรรคการเมืองไม่กระทำความผิดเสียอย่าง ก็สามารถทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปได้
“เหมือนหมออ๋อง กลัวถูกยุบพรรคมากจนบิดเบือนหลักการกฎหมาย พาลกล่าวหา ก้าวล่วง ถึงขั้นว่าแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติทำประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น เป็นการกล่าวหาที่รุนแรง ถ้าทำผิดควรยืดออกยอมรับแบบลูกผู้ชาย ไม่ควรมีพฤติกรรมแพ้แล้วพาล ต่อว่าดิสเครดิตกระบวนการยุติธรรม เพราะทุกคนในสังคมถ้าไม่เคารพกฎหมาย บ้านเมืองประเทศชาติจะมีหลักยึดอะไรได้อีก พรรคอื่นที่ไม่ได้ทำผิด ก็ไม่ต้องกลัวถูกยุบ และฝ่ายค้านก็ไม่ได้มีแค่ก้าวไกลพรรคเดียวที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา จึงขอเตือนในเรื่องนี้” นายธนกร กล่าว