ผักกาดหอม
เรื่องถุงๆ ต้องยกให้เพื่อไทยเขานะ
และน่าจะวนอยู่กับ “ถุง” ไปอีกหลายปี
ควรจะจริงจังกันเสียทีครับ กับการสรรหาบุคคลเป็นตัวแทนพรรคเข้าสู่การเมือง ที่จะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
การส่งคนมีตำหนิให้ประชาชนเลือก มันคือการดูถูกดูแคลนประชาชน คือการไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
อุตส่าห์เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมแค่ตีนบันได
“ชาญ พวงเพ็ชร์” เป็นอีกกรณี ที่ต่อเนื่องจาก “พิชิต ชื่นบาน” เรื่องความซื่อสัตย์ของนักการเมือง พรรคการเมือง
และทั้ง ๒ กรณี ก็ต่อเนื่องจาก “นักโทษชายทักษิณ” ขณะนี้อยู่ระหว่างการพักโทษ ที่เต็มไปด้วยข้อกังขา จากคดีคอร์รัปชัน
จะเห็นความต่อเนื่องของคดีโกงตลอดร่วม ๒๐ ปีที่ผ่านมา
“ชาญ พวงเพ็ชร์” ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔
ช่วงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์บอกว่า “เอาอยู่”
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ๑ มีคำสั่งประทับฟ้องคดี และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
ความเห็นทางกฎหมาย คณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ตอบข้อหารือ กระทรวงมหาดไทย เรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มีสาระสำคัญอยู่ที่การให้ความเห็นว่า…
เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญาที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่นแล้ว ผู้บริหารท้องถิ่นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๙๓ อันเป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของกฎหมาย
ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นจากตำแหน่งและกลับมาดำรงดำแหน่งเดิมใหม่ โดยผู้กำกับดูแลมิต้องมีคำสั่งอีก แต่ผู้กำกับดูแลมีหน้าที่จะต้องดูแลให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
กระทรวงมหาดไทยไม่มีทางเลือกครับ
ทันทีที่ “ชาญ พวงเพ็ชร์” เข้ารับตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี กระทรวงมหาดไทย ต้องแขวน “ชาญ พวงเพ็ชร์” ทันที
หากไม่ทำ…ระวัง ม.๑๕๗
คดีนี้ไม่ใช่เล่นๆ นะครับ ข้อหาหนักทีเดียว
ทุจริตบนความเดือดร้อนของประชาชน
ทุจริตการจัดซื้อถุงยังชีพในโครงการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอุทกภัยในจังหวัดปทุมธานี จำนวน ๒ ครั้ง เมื่อปี ๒๕๕๔ มูลค่านับล้านบาท
กรรมการ ป.ป.ช.ในขณะนั้นมีมติเอกฉันท์ ๙ เสียง!
เห็นชอบตามความเห็นคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่าการกระทำของ “ชาญ พวงเพ็ชร์” มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ มาตรา ๑๕๗ และมาตรา ๑๖๒ (๑), (๔) ประกอบมาตรา ๙๑
และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๑๒๓/๑ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๙๒
และยังมีมูลความผิด ฐานละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๗๙
ในช่วงปี ๒๕๖๐ “ชาญ พวงเพ็ชร์” ขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี นี่แหละครับ ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๓๕/๒๕๖๐ ลงนามโดย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ ๙
และนี่เป็นเหตุทำให้ต้องถูกระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากหน่วยงานต้นสังกัดเป็นทางการ
เหตุมาจากการตั้งงบประมาณจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ช่วงปี ๒๕๕๕-๒๕๕๖ ยังเป็นช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จำนวนหลายสัญญา
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบว่า มีการตั้งราคาจัดซื้อสูงเกินกว่าความเป็นจริงกว่า ๔๐ ล้านบาท
เรื่องยังอยู่ในชั้น ป.ป.ช.
“ชาญ พวงเพ็ชร์” มีสิทธิ์สมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี
แต่ก็น่าจะรู้ว่าเมื่อตัวเองเคยถูกแขวนมาก่อน และกฎหมายระบุชัดว่า ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว อย่างไรเสียหากได้ตำแหน่งอีกครั้งก็ต้องถูกแขวนอยู่ดี
โดยบริบทในภาพรวมแล้ว ไม่ต่างจากการตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสักเท่าไหร่
รวมทั้งไม่ต่างจาก “นักโทษชายทักษิณ” ด้วยเช่นกัน
ในแง่ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์นั้นเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับพรรคเพื่อไทย
จะให้ปลอดจากเรื่อง “ถุง” อาจต้องใช้เวลา
เพราะ “ถุง” มันพันตั้งแต่เจ้าของพรรค ยันนักการเมืองท้องถิ่นของพรรค
ถุงขนมมีไปแล้ว
ถุงยังชีพก็มีแล้ว
ต่อไปจะเป็นถุงอะไร