เหนื่อยง่าย ใจสั่น แน่นหน้าอก นอนราบไม่ได้ วูบเป็นลมหมดสติ ขาบวม หรือท้องบวม อย่านิ่งเฉย อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคลิ้นหัวใจรั่ว รู้เร็ว.. รักษาได้
นพ. ศุภกร ศรีหัตถผดุงกิจ ศัลยแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจและทรวงอก ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า ลิ้นหัวใจรั่ว (Heart Valve Regurgitation) คือโรคที่เกิดจากลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท ทำให้เลือดไหลย้อนกลับ หัวใจจึงต้องทำงานหนักมากขึ้น โรคนี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การยืดของลิ้นหัวใจ เส้นยึดลิ้นหัวใจยืดหรือขาด การติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจ ถ้ามีอาการดังกล่าวข้างต้น แนะนำให้พบอายุรแพทย์โรคหัวใจ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที สามารถรักษาได้โดยการใช้ยาและผ่าตัด
การรักษาโดยการผ่าตัด เป็นวิธีสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะลิ้นหัวใจรั่วระยะรุนแรง ซึ่งมีอยู่ 2 วิธี คือ การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม (Valve Replacement) และการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ (Valve Repair)
การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม มี 2 ชนิด คือ
1. ชนิดโลหะ มีอายุการใช้งานนาน แต่ต้องทานยาละลายลิ่มเลือดตลอดชีวิต และติดตามปรับยาเป็นระยะ ๆ
2. ชนิดที่ทำจากเยื่อหุ้มหัวใจหมูหรือวัว ซึ่งชนิดนี้ต้องกินยาละลายลิ่มเลือด ระยะ 3 เดือนแรก แต่มีอายุการใช้งาน ประมาณ 15 – 20 ปี เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง และหญิงวัยเจริญพันธุ์
การผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ กรณีที่เป็นลิ้นหัวใจเสื่อมสภาพตามวัย (Degenerative) เช่น เอ็นยึดลิ้นหัวใจที่ยืด หรือขาดลิ้นหัวใจย้วย การซ่อมลิ้นหัวใจสามารถทำให้ลิ้นหัวใจกระชับได้ใกล้เคียงปกติ
ทั้งนี้ การรักษาลิ้นหัวใจรั่วแต่ละวิธีขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ป่วยในแต่ละราย โดยพิจารณาจากอายุ เพศ โรคประจำตัว และพยาธิสภาพของหัวใจ
ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ให้บริการดูแลด้านหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอย่างครบวงจร พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย คณะแพทย์ของศูนย์หัวใจและหลอดเลือดโรงพยาบาลหัวเฉียวประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจสาขาต่างๆ เช่น อายุรแพทย์โรคหัวใจ อายุรแพทย์สาขามัณฑนากรหัวใจและหลอดเลือด
อายุรแพทย์สาขาสรีระไฟฟ้าหัวใจ ศัลยแพทย์หัวใจ