พระนักบุญแห่งขุนเขา..
ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ให้สมญานามนี้..รู้แต่ “พระนักบุญ” ที่ว่านี้คือ “พระจูเลียน อาภาธโร” เป็นฝรั่งตาน้ำข้าว ชาวแคนาดา อายุ-อานาม 42 ปี
และในห้วง 4-5 วันมานี้ ปรากฏข่าวพระจูเลียนได้ลาสิกขา พร้อมขอโทษ-ขอโพยต่อพุทธศาสนิกชน-คนไทย….
ยอมรับว่าตัวเองได้เสพเมถุนจริง แต่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว หลังจากนั้นก็ได้ลาสิกขาจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์ ก่อนจะกลับเข้ามาบรรพชาเป็นสามเณรใหม่ภายหลัง และได้สึกเป็นครั้งที่สอง
ซึ่งพระอุปัชฌาย์ที่บวชให้คงไม่รู้กระมังว่า “สามเณร” รูปนี้ เคยเป็นพระปี้สีกามาก่อน หมายถึงต้องอธิกรณ์ ขั้นปาราชิก บวชใหม่ไม่ได้อีก!
ผมนั้นแม้จะเป็นคนเข้าวัด-เข้าวาอยู่บ้าง แต่ไม่รู้และไม่เข้าใจ พระที่มีเพศสัมพันธ์กับสีกา แค่จับสึก ทุกอย่างก็จบกระนั้นรึ?
หรือเพราะไม่ต้องโทษอาญาแผ่นดิน เราจึงได้เห็นคนที่ไม่เกรงกลัวบาป-นรก เอาจีวรคลุมกายอาศัยคราบพระคอยทำชั่ว มั่วโลกีย์อยู่ตามวัดวามาโดยตลอด..
ด้วยคิด..ถูกจับได้ก็แค่สึก แต่หากไม่มีใครรู้ใครเห็น ก็จะอยู่อย่างมีความสุข..ห้องก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ แถมยังมีสตรีเพศคอยให้เสพสังวาสอยู่มิเคยขาด!
อย่างกรณี “สมีเลียน” ก็เช่นนั้น อ่านที่เขาโพสต์ดูสิ….
“ขอรับว่าข้าพเจ้าได้กระทำผิดพระธรรมวินัยจริง ที่ละเมิดพระธรรมวินัยเสพเมถุนกับหญิงเมื่อหลายปีที่แล้ว และเสียใจจากการกระทำดังกล่าว..
จึงตัดสินใจสละจากสมณะเพศในวันนี้ เป็นการไถ่โทษและสำนึกผิด แต่ข้าพเจ้ายังมีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามิเสื่อมคลาย หากมีครูบาอาจารย์ท่านใด เห็นว่าข้าพเจ้ายังมีศรัทธาเหล่านี้อยู่จริง
ได้โปรดแนะนำสั่งสอน ให้ข้าพเจ้าได้เห็นได้รู้หนทางที่ถูกที่ตรงด้วยเถิด..”
เพราะมีคนนำภาพในอดีตมาโพสต์ดอก สมีเลียนถึงได้จำยอมสึก ด้วยจนปัญญาที่จะแถ-จะแก้ตัว ซึ่งหากไม่มีภาพหลุดออกมา สมีเลียนก็ยังคงใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในคราบพระ..
ยิ่งถูกยกเป็น “พระนักบุญแห่งขุนเขา” ด้วยแล้ว เห็นจะต้องกินยาบำรุง ช่วยเสริมเติมพลังไม่เว้นวัน!
ฉะนั้น..ที่ตัดสินใจสละจากสมณะเพศ มันไม่ใช่สำนึกผิด หรือไถ่บาป หากแต่เป็นเพราะจนสิ้นหนทางที่จะอาศัยผ้าเหลืองคลุมกายต่อไปได้ และที่บอกว่า “ยังมีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา” นั้น..
ขอโทษนะจูเลียน..ถ้ามีศรัทธาจริง ช่วยกรุณาอยู่ห่างๆ วงการพระพุทธศาสนาเถอะนะ หรือหากจะกลับไปอยู่แคนาดาได้ก็นับยิ่งเป็นบุญ!
และที่ว่า.. “จะขออุทิศชีวิตที่เหลืออยู่ในเพศฆราวาส ช่วยเหลือผู้ยากไร้” นั้น..
เพิ่งจะเห็น “ฝรั่งหน้าด้าน” ก็..นายนี่แหละ!
สันต์ สะตอแมน