ก้าวไกลหยุดแล้วหรือยัง – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ให้มันได้แบบนี้สิ…

การเมืองคนรุ่นใหม่ ไม่ต้องสนใจกติกาอะไรกันแล้ว

อยากทำอะไรกูก็ทำ

วันก่อน ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่าจะพิจารณาคดีที่พรรคก้าวไกลถูกร้องยุบพรรค ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่ามีพฤติกรรมกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ๒๕๖๐ มาตรา ๙๒ วรรคหนึ่ง (๑) (๒) ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๓/๒๕๖๗ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายนนี้

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งทิ้งท้ายว่า คู่กรณีไม่สมควรแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีที่เป็นการชี้นำสังคมอันอาจกระทบต่อการดำเนินกระบวนการพิจารณาของศาล

คือห้ามทั้ง กกต. และพรรคก้าวไกล พูดหรือแถลงข่าวชี้นำสังคม

แต่…มีหรือที่พรรคก้าวไกลจะฟัง

วานนี้ (๖ มิถุนายน) “ชัยธวัช ตุลาธน” ประกาศความยิ่งใหญ่ของพรรคก้าวไกล ไปเรียบร้อยแล้ว

“…ในวันที่ ๙ มิถุนายน พรรคคงจะแถลงเหมือนเดิม เพราะเป็นเพียงแค่แถลงว่าพรรคก้าวไกลได้ต่อสู้ในประเด็นไหน อย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ได้มีอะไรใหม่มากกว่าที่อยู่ในคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาอยู่แล้ว

และคงไม่ไปกระทบกับกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้คิดว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปหลักตามกฎหมาย ตามหลักนิติรัฐ คิดว่าศาลไม่ต้องกังวลอะไร…”

เป็นไงครับ… ศาลไม่ต้องกังวลอะไร!

ที่จริงก่อนพูด “ชัยธวัช ตุลาธน” ควรอ่านข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๖๒ ให้เข้าใจเสียก่อน

ข้อ ๙ ศาลอาจออกคำสั่งให้บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำการเพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินไปโดยสงบเรียบร้อยและรวดเร็วศาลไม่ได้สั่งสุ่มสี่สุ่มห้า หรือสั่งเพราะอยากสั่ง แต่มีมันเหตุผล

สังเกตมั้ยครับ คดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล ศาลมักออกคำสั่งก่อนเสมอเพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เพราะพรรคก้าวไกลมักสร้างกระแสกดดันศาล

และหลายครั้งที่ศาลมีคำวินิจฉัยแล้ว ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญย่อมเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ แต่ พรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า มักมีความเห็นแย้ง นำไปสู่การโจมตีศาล มีการปั่นกระแสในโซเชียลให้ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญอยู่บ่อยครั้ง

ทั้งๆ ที่ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญ ข้อ ๑๐ ห้ามมิให้ผู้ใดบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาล หรือวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลโดยไม่สุจริต หรือใช้ถ้อยคำหรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย

ใครฝ่าฝืน มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล มีบทลงโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

แต่ก็ยังมีการละเมิดอยู่บ่อยครั้ง

การแถลงข่าวของพรรคก้าวไกล วันที่ ๙ มิถุนายน หากเกิดขึ้น ไม่มีทางที่จะไม่พาดพิงไปถึงศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน

เบื้องต้นที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้คู่กรณีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีที่เป็นการชี้นำสังคม “ชัยธวัช ตุลาธน” ก็แอบหลังมวลชนเสียแล้ว

“…คิดว่าเรื่องนี้ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฎหมาย อธิบายได้ พี่น้องประชาชนยอมรับได้ คิดว่าไม่ต้องมีความกังวลอะไรว่าจะไปกระทบต่อการพิจารณาของศาลได้…”

“…ที่มีการมองว่าอาจเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองจนอาจเกิดความวุ่นวายได้นั้น คงไม่เกี่ยวกับการชี้แจงของพรรคก้าวไกล…”

เรื่องอยู่ในโรงในศาล จะมาอ้างว่าพอใจหรือไม่พอใจของประชาชนเป็นตัวชี้นำไม่ได้

ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนยุคหนึ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีซุกหุ้นของ “นักโทษชายทักษิณ” ว่าบกพร่องโดยสุจริต เพราะประชาชน ๑๑ ล้านเสียงเลือกมา

แบบนี้ระบบกฎหมายไม่พังหมดหรือครับ!

การที่ “ชัยธวัช ตุลาธน” บอกปัดความรับผิดชอบ ถ้าเกิดความวุ่นวาย ไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล ดูจะมักง่ายไปหน่อย

พูดแบบนี้ก็เท่ากับโยนความผิดไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเต็มๆ

ก็เห็นกันอยู่ พรรคก้าวไกลปั่นกระแสในโซเชียลมาพักใหญ่แล้ว และปั่นกันมาอย่างเป็นระบบ ถึงขั้นแก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ

วันที่ ๑๒ มิถุนายนนี้ ก็คงจะดุเดือดหน่อย เพราะนอกจากศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลแล้ว ยังมีคดี ม.๑๑๒ ที่อัยการจะนำตัว “นักโทษชายทักษิณ” ไปฟ้องศาล

พรรคก้าวไกลจะรอดจากการยุบหรือไม่ ต้องแยกให้ออกระหว่างคดีกับการแก้ปัญหาทางการเมือง เพราะพรรคก้าวไกลมักเหมารวมว่า การยุบพรรคไม่สามารถแก้ปัญหาทางการเมืองได้

มันคนละเรื่องกันครับ

ศาลรัฐธรรมนูญมิได้มีหน้าที่แก้ปัญหาทางการเมือง

แต่มีหน้าที่พิจารณาคดีไปตามพยานหลักฐาน

นักการเมืองต่างหากที่ต้องแก้ปัญหาทางการเมือง

คดียุบพรรค เป็นผลสืบเนื่องจากคดี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และพรรคก้าวไกล ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ

คือ แก้ หรือยกเลิก ม.๑๑๒

ศาลจึงได้สั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒

อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย

ฉะนั้นโอกาสที่จะถูกยุบพรรคก็มี

หรือศาลอาจวินิจฉัยว่า ได้มีการหยุดการกระทำแล้ว จึงไม่ยุบพรรค ก็เป็นไปได้

จึงต้องจับตามองว่า ในวันที่ ๙ มิถุนายนนี้ หากพรรคก้าวไกล โดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ยังยืนกรานว่าสามารถแก้ ม.๑๑๒ ได้ ก็เท่ากับยังไม่หยุดการกระทำ

มีโอกาสสูงที่ศาลจะสั่งยุบพรรค

Written By
More from pp
สุดท้ายของชีวิต-สันต์ สะตอแมน
สันต์ สะตอแมน             ปกติไม่ค่อยได้ดู..             แต่เห็นข่าวไทยโพสต์ ออนไลน์ รายงานว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก...
Read More
0 replies on “ก้าวไกลหยุดแล้วหรือยัง – ผักกาดหอม”