ผักกาดหอม
ได้ลุ้นกันอีกหลายเดือน
ไทม์ไลน์การเมืองนับจากนี้มีแต่เรื่องชี้ชะตาอนาคตบ้านเมืองทั้งสิ้น
นอกจากกรณี “ถุงขนม” แล้ว หลักๆ ยังมีคดีใหญ่ที่น่าสนใจอีกหลายคดี
เริ่ม ๒๙ พฤษภาคมนี้ อัยการนัดฟังคำสั่งคดี “นักโทษชายทักษิณ” ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เเละ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากที่ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศเมื่อปี ๒๕๕๘
พูดง่ายๆ ก็คือให้สัมภาษณ์ตอนที่ยังหนีอยู่
คดีนี้เลื่อนมาจากวันที่ ๑๐ เมษายน
วันนั้นสำนักงานอัยการสูงสุดให้เหตุผลว่า นักโทษชายทักษิณ ร้องขอให้สอบเพิ่มเติม และอัยการสูงสุดเห็นว่ามีประเด็นที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมให้สิ้นกระแสความ
จากนั้นโยนกลับไปให้พนักงานสอบสวน และให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมมาก่อนวันที่ ๑๐ เมษายน
แต่ปรากฏว่า จนถึงวันที่ ๙ เมษายน พนักงานสอบสวนได้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมมาเพียงบางประเด็น ยังไม่ครบถ้วนทุกประเด็น อัยการสูงสุดจึงไม่อาจมีความเห็นและสั่งคดีได้
จึงจำเป็นต้องเลื่อนฟังคำสั่งในคดีไปวันที่ ๒๙ พฤษภาคม
แล้วจะมีโรคเลื่อนอีกหรือไม่?
ก็เป็นไปได้
แต่หากอัยการสั่งฟ้อง คดีก็ดำเนินการต่อ
หากสั่งไม่ฟ้อง “นักโทษชายทักษิณ” รอด!
กรณีสั่งฟ้อง สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือ ระบอบทักษิณจะเริ่มระส่ำระสาย
ตัว “นักโทษชายทักษิณ” จะเคลื่อนไหวน้อยลง
รัฐบาลจะลดความหวือหวาลง
คำพูดที่ “นักโทษชายทักษิณ” ให้สัมภาษณ์ที่เกาหลีใต้ เมื่อปี ๒๕๕๘ เนื้อหาแทบไม่ต่างจากที่มวลชนสามนิ้วปราศรัยบนเวที มีการจาบจ้วงเบื้องสูง ฉะนั้นคดีนี้จึงถูกจับตามองอย่างมากว่า อัยการสูงสุดจะตัดสินใจอย่างไร
หากสั่งไม่ฟ้องมีความสุ่มเสี่ยงถูกครหาสองมาตรฐานอยู่ไม่น้อยทีเดียว
ฉะนั้น “นักโทษชายทักษิณ” จะรอดหรือไม่รอดในชั้นอัยการ ล้วนส่งผลต่อภาพการเมืองโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถัดไปวันที่ ๒ มิถุนายน เป็นการเริ่มต้นของการลุ้นระทึกอีกคดี
เพราะเป็นวันสุดท้ายที่ศาลรัฐธรรมนูญให้พรรคก้าวไกลยื่นคำชี้แจงคดียุบพรรค
คดีนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลพิจารณากรณีพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าข่ายลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเหตุยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา ๙๒ วรรคหนึ่ง (๑) และ (๒) ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๓/๒๕๖๗ จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคและห้ามไม่ให้คณะกรรมการบริหารพรรค และผู้ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรค หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ๑๐ ปี นับจากวันที่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค
ข้อเท็จจริงในคดีนี้คือพฤติการณ์ต่อเนื่อง นับแต่การเสนอร่างกฎหมายแก้ ม.๑๑๒ เข้าสภา เรื่อยไปจนถึงการที่พรรคก้าวไกลนำไปหาเสียง และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” นำไปพูดในหลายๆ เวที
มีทั้งแก้ ม.๑๑๒
และ ยกเลิก ม.๑๑๒
คาดศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีนี้หลังวันที่ ๒ มิถุนายนไม่นานนัก
หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรรคก้าวไกล และ “พิธา” ได้หยุดการกระทำแล้ว จึงไม่ยุบพรรค ไม่ตัดสิทธิทางการเมือง
การเมืองของพรรคก้าวไกลก็เดินไปต่อ
ขณะที่คณะก้าวหน้า ยังประกาศก้องจากฝรั่งเศส ประเทศไทยต้องปฏิรูปทุกสถาบัน
แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรค ความระส่ำระสายในพรรคก้าวไกลจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ต้องหาหัวพรรคใหม่
แต่ สส. ๑๔๗ คน จะอยู่ไม่ครบ
จำนวนหนึ่งถูกจีบจากพรรคขนาดกลางและขนาดใหญ่มาระยะหนึ่งแล้ว
เหตุนี้ทำให้การเมืองเปลี่ยนไปเช่นกัน
สุดท้ายคือคดี “ถุงขนม”
นายกฯ ตั้ง “ถุงขนม” เป็นรัฐมนตรี
ศาลรัฐธรรมนูญให้เวลา ๑๕ วันในการชี้แจงข้อกล่าวหา
คาดว่า นายกฯ เศรษฐา โดยทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยจะแนะนำให้ขอขยายเวลาออกไปอีก ๑๕ วัน
และอีก ๑๕ วัน
สามารถซื้อเวลาได้อีกเดือนครึ่ง
เหมือนที่พรรคก้าวไกลขอขยายเวลา ๓ รอบ จนมาจบในวันที่ ๒ มิถุนายน
ฉะนั้นต้นเดือนกรกฎาคม นายกฯ เศรษฐาต้องยื่นคำชี้แจงเรียบร้อย
กระบวนการไต่สวนคดีนี้ไม่น่าจะใช้เวลานานนัก
กูรูหลายคนฟันธงแล้ว รวมเบ็ดเสร็จคดีน่าจะจบได้ภายใน ๓ เดือนนับจากนี้
ไม่เกินสิงหาคม
คาบเกี่ยวกับช่วงเวลา “นักโทษ” พ้นสถานะนักโทษพอดิบพอดี แต่อาจมีสถานะจำเลยคดี ม.๑๑๒ หากอัยการสั่งฟ้อง
นายกฯ เศรษฐาจะรอดหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าการสร้างบรรทัดฐาน คุณสมบัติรัฐมนตรี เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เรื่องจริยธรรมอันดี
หากผลออกมาว่า นายกฯ เศรษฐาตั้ง “พิชิต” โดยชอบ นักการเมืองที่มีปัญหาทางจริยธรรม
มีบันทึกว่า ถูกลงโทษเพราะประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณ ก็สามารถเป็นรัฐมนตรีได้
แม้บางคนจะบอกว่า ความซื่อสัตย์ จริยธรรม ไม่มีเครื่องมือวัด ซึ่งก็จริง
แต่หากคนคนนั้นเคยถูกหน่วยงานต้นสังกัดบันทึกว่า มีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เรื่องจริยธรรม แบบนี้ยากที่จะเลี่ยงบาลี
น่าแปลกใจช่วงนี้มีคนพูดเรื่อง “ดีลลังกาวี” กันเยอะ
จริงหรือเท็จประการใดมิทราบได้
แต่ภาพที่ “นักโทษชายทักษิณ” เหยียบประเทศไทย แล้วไปนอนตากแอร์ห้องวีวีไอพีชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว มันผิดธรรมชาติการเป็นนักโทษอย่างรุนแรง
ยิ่งพูดกันว่า “นักโทษชายทักษิณ” แหกดีล จึงถูกรีบดีลก็ยิ่งงงกันใหญ่
ไถ่ถามกันทั้งเมือง ก็ยังไม่ได้ความ
ช่วงนี้จึงต้องเชื่อมจิตกันเยอะหน่อย
เกี่ยวสัญญาณติดเมื่อไหร่ ตลาดแตกแน่นอน