ผักกาดหอม
อืมมมมม์….
“อีลอน มัสก์” บอกว่า มนุษย์จะพบวิธีสู่การเป็นอมตะแล้ว
หูผึ่งซิครับ
เพราะอยู่ต่อเป็นพันๆ ปีก็ยังได้
อีตาอีลอน อธิบายว่า วิธีการคือ ดาวน์โหลดสมองลงไปในหุ่นยนต์
ใครอยากเป็นอมตะ ก็ดาวน์โหลดสมองเพื่อรักษาความเป็นตัวตนของตนเอง แม้ร่างกายจะเป็นผุยผงไปแล้ว แต่ความทรงจำยังอยู่กับหุ่นยนต์
หุ่นยนต์สมัยใหม่อยากได้หน้าตาแบบไหนจัดได้หมด จะให้เหมือนคนเดิม หรือถอดแบบดารา ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
“อีลอน มัสก์” นั่งยันนอนยันว่า ตัวเองไม่ได้ต้องการเป็นอมตะ เพราะเชื่อในความเป็นไปของสัตว์โลก ต้องมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ
ก็เอาเป็นว่า “อีลอน มัสก์” ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัป ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแห่งใหม่อย่าง Neuralink จับลิงมาฝังชิปในสมอง ให้ลิงเล่นเกมมาแล้ว
ถ้าเอาไปบวกกับ เมตาเวิร์ส (Metaverse) ของ “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ก็ไม่รู้ว่าโลกอนาคตมนุษย์จะใช้ชีวิตกันแบบไหน
แล้วยังจะหวนกลับไปอยู่กับธรรมชาติได้อีกหรือเปล่า
ความรู้สึกนึกคิดแบบมนุษย์แท้ๆ กับความรู้สึกแบบที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ สุดท้ายแล้วมนุษย์ต้องการแบบไหนมากกว่ากัน
ครับ…คนอายุเยอะ มักหวนคิดถึงแต่อดีต เพราะมีอดีตให้ระลึกถึงเยอะแยะมากมาย
ส่วนคนรุ่นใหม่ๆ อายุน้อย มักคิดแต่เรื่องอนาคตอันใกล้กับไกล เพราะอดีตยังสั้นเกินไป ยังไม่มีอะไรให้โหยหามากนัก
แต่บางที ทั้งคนอายุเยอะและคนรุ่นใหม่ ต่างสับสนในอดีตเมื่อไม่นานมานี้ เพราะชุดความเชื่อ ซึ่งก็คือโปรแกรม ถูกตั้งไว้ไม่ตรงข้อเท็จจริง
พูดง่ายๆ คือ จับข้อมูลเท็จกรอกเข้าไปในสมอง ให้เชื่อว่านั่นคือเรื่องจริง
เช่นกรณีเผาบ้านเผาเมืองปี ๒๕๕๓
หลังๆ มานี้มีการสร้างชุดข้อมูลเท็จขึ้นมาใหม่
ชายติดอาวุธชุดดำไม่มีจริง
รัฐบาลอภิสิทธิ์ เข่นฆ่าประชาชนเพียงฝ่ายเดียว
วันสองวันมานี้ยิ่งเห็นความผิดปกติ ดูเหมือนแกนนำเสื้อแดงจงใจขุดเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมาเพื่อสร้างเงื่อนไขทางการเมืองอีกรอบ
โดยเฉพาะประเด็นคนเสื้อแดงถูกฆ่าโดยทหาร
เป้าหมายอยู่ที่รัฐบาลประยุทธ์ เพราะเชื่อกันว่าเป็นรัฐบาลทหาร กับพวกฝ่ายขวา และมาบรรจบกับวาทกรรม ฝ่ายประชาธิปไตยต่อสู้กับเผด็จการ
ไม่ค่อยจะมีใครพูดถึงจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งทางการเมือง ที่นำไปสู่การแบ่งแยกประชาชนเป็นเสื้อสี
ทำไมถึงมีการชุมนุมของคนเสื้อเหลือง ต่อด้วยคนเสื้อแดง เรื่อยมาจนถึง กปปส. และมวลชนสามนิ้ว ที่กำลังรวมตัวกับคนเสื้อแดงอีกครั้ง
จุดเริ่มต้นอยู่ที่ไหนกันแน่
นักวิชาการไทยที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยส่วนใหญ่ความจำสั้น มักจะเริ่มต้นที่การรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙
แต่ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งมันเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น
เอาที่เป็นกลางที่สุดคือผลสอบ “คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.” ที่มี คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด เป็นประธาน
กรรมการชุดนี้ตั้งขึ้นในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ทำงานจบในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
สรุปสาระสำคัญดังนี้
เบื้องหลังการชุมนุมเป็นการชิงอำนาจรัฐ
ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์มีทั้งสิ้น ๙๒ ราย
เป็นทหาร ๘ นาย ตำรวจ ๒ นาย
พลเรือน ๘๒ ราย
ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีหลักฐานชี้ชัดว่าเสียชีวิตเพราะการกระทำของ “ชายชุดดำ” จำนวน ๙ คน มีทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน
ในรายงานของ คอป.ระบุว่า “ชายชุดดำ” มีจริง
มีพฤติการณ์ใช้อาวุธสงครามโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชน
รวมถึงก่อวินาศกรรมทั้งก่อนและระหว่างการชุมนุมหลายสิบจุด
โดยชายชุดดำมีความเชื่อมโยงกับ “การ์ด นปช.” หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
การเผาอาคารเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ไฟไหม้จากห้างเซน และลุกลามเข้าไปในเซ็นทรัลเวิลด์ โดยขณะเกิดเหตุยังไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารไปถึง แต่มีผู้ชุมนุมอยู่บริเวณนั้นจำนวนมาก หลังจากที่แกนนำได้ประกาศมอบตัว
แต่แกนนำเสื้อแดงปฏิเสธรายงานชิ้นนี้อย่างสิ้นเชิง
ทั้งๆ ที่องค์ประกอบของ คอป. ประกอบด้วยบุคคลที่ยากที่จะถูกแทรกแซงโดยฝ่ายการเมือง
การที่แกนนำเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับผลสอบ สืบเนื่องจาก การระบุต้นตอปัญหาไปที่พรรคไทยรักไทย
ดังที่ปรากฏในรายงานของ คอป.บางช่วงบางตอนดังนี้
…การบริหารประเทศโดยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยถูกกล่าวหาว่าเป็น “เผด็จการรัฐสภา” หรือ “เผด็จการเสียงข้างมาก” ใช้เสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จโดยไม่เคารพเสียงข้างน้อย….
…ยิ่งไปกว่านั้น อำนาจตุลาการซึ่งควรต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการผดุงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม กลับไม่สามารถทำหน้าที่ในการยุติความขัดแย้งทางการเมืองได้ และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้ละเมิดหลักนิติธรรมเสียเอง…
…คำให้สัมภาษณ์ของนายจุมพล ณ สงขลา อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อสื่อมวลชน (บทสัมภาษณ์นายจุมพล ณ สงขลา อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์รายวัน ฉบับประจำวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๗) ซึ่งมีข้อความว่า
“สาเหตุที่ผมตัดสินคดีแบบนี้ก็เพราะผมเห็นแล้วว่าประชาชนเขาพร้อมใจกันเทคะแนนเสียงให้ไทยรักไทย ๑๑ ล้านเสียง นี่คือเสียงสวรรค์ของประชาชนที่พร้อมใจกันเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสิบกว่าคนจะมาไล่เขาลงจากตำแหน่งได้อย่างไร
วันนั้น (วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๔๔) ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าทักษิณผิด ป่านนี้คุณรู้ไหมจะเกิดอะไรขึ้น คุณเห็นพลังประชาชนที่มาให้กำลังใจนายกฯ ทักษิณ วันที่มาชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญไหม ขนาดกล้านรงค์ (นายกล้านรงค์ จันทิก เลขาธิการ ป.ป.ช.ในขณะนั้น) ยังต้องหลบออกประตูหลังศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไล่เขาออก ป่านนี้ศาลรัฐธรรมนูญถูกเผาไปตั้งแต่วันตัดสินคดีไปแล้ว
ที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความผิดเป็นเพราะได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ไม่มีเรื่องผลประโยชน์หรือการล็อบบี้ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะคำตัดสินของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๔๔ ถึง ๑๑ ล้านเสียง แสดงให้เห็นแล้วว่าประชาชนไม่สนใจข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. ไม่เช่นนั้นคงไม่เทคะแนนให้มากขนาดนี้ แต่ประชาชนลงมติกันแล้วว่าข้อกล่าวหามันไม่ร้ายแรง วันนั้นถามว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจะเอาใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี…”
ครับ…ที่จะกลับมาฆ่ากันตายอีกรอบ ก็มาจากจุดเริ่มต้นนี้
รัฐประหารสองรอบ แดงเผาเมือง เหลือง-กปปส.ชัตดาวน์ สามนิ้วป่วนไปถึงสถาบัน ล้วนมีจุดเริ่มต้นเดียวกันคือ การเข้าสู่การเมืองอย่างละโมบของทักษิณ
วันนี้ ทักษิณ ยังคงมีบทบาทผ่านพรรคเพื่อไทย โดยใช้อุ๊งอิ๊ง เป็นหุ่นเชิด มีเสื้อแดงผุดแคมเปญชำระประวัติศาสตร์เผาเมืองใหม่
ขอเตือน “อีลอน มัสก์” ถ้าดาวน์โหลดสมองคนเลวใส่ไปในหุ่นยนต์สำเร็จ
โลกหาความสงบสุขไม่ได้แน่นอน