ผักกาดหอม
เข้มข้นจริงๆ…
ข่าวการบ้านการเมืองช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษ
ที่น่าสนใจคือเขาวางแผนยาวๆ ๕ ปี ๑๐ ปี กันแล้วครับ
“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ไปสมัคร สว. หากจะถอดรหัสกันจริงๆ งานนี้ “นักโทษชายทักษิณ” ปูทางสร้างดีเอ็นเอให้ “อุ๊งอิ๊ง” ไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะมาแบบนี้ “สมชาย” ไม่ได้หวังแค่เก้าอี้ สว.ธรรมดา
แต่เป็นประธานวุฒิสภา
ภาษาที่เขาจะใช้ในสภาฯ ตอนเลือกประธานวุฒิสภาคือ ถือว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี
ในแง่ความเป็นนักกฎหมายก็หายห่วง
เป็นอดีตผู้พิพากษา
อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม
แถมปลัดกระทรวงแรงงานอีกตำแหน่ง
นี่ยังไม่นับฐานะน้องเขยทักษิณ ที่จะการันตีบารมีคับสภาฯ
ฉะนั้นระยะ ๒-๓ เดือนนับจากนี้จึงจะเห็นหน้าเห็นหลัง
ไทม์ไลน์เลือก สว.ชุดใหม่ และการประกาศผล น่าจะจบประมาณต้นเดือนกรกฎาคมนี้
กว่าจะเข้ารับหน้าที่ เลือกประธานเสร็จ ไม่น่าจะเกิน ๒ เดือน
ขณะที่ “ทักษิณ” จะพ้นสถานะนักโทษช่วงเดือนสิงหาคมนี้ หลังพักโทษครบ ๖ เดือน
ถึงเวลานั้นตัดขาดจากกรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ ไปเรียบร้อย
และจันทร์ส่องหล้าอาจไม่ใช่ศูนย์บัญชาการเหมือนเคย
อาจเปลี่ยนไปที่ทำเนียบรัฐบาล
เพราะไม่มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ คนที่พ้นสถานะนักโทษ เข้าไปเหยียบทำเนียบรัฐบาล
สิ่งที่คาดเดาได้ไม่ยากหลังจากนี้คือ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของ “นักโทษชายทักษิณ”
นั่นเพราะขณะที่มีสถานะนักโทษที่ได้รับการพักโทษ กลับมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลอย่างเหลือล้น
“นักโทษชายทักษิณ” เจตนาที่จะสร้างความรับรู้จากสังคมว่า เขาคือบุคคลสำคัญ ที่รัฐบาลเศรษฐาต้องให้ความเคารพ
ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้
หลังสิงหาคมนี้จะหนักหน่วงขึ้น
แต่… “นักโทษชายทักษิณ” ก็สร้างความเสี่ยงให้ตัวเอง อาจเพราะความเหิมเกริม คิดว่าสามารถกุมอำนาจทางการเมืองทั้งหมดอยู่ในมือ ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นท้าทาย
กรณี “พิชิต ชื่นบาน” หากวิเคราะห์กันตามหน้าเสื่อ ถือเป็นความโง่เขลา
เพราะนี้คือเงื่อนไขที่นำไปสู่การทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลโดยไม่จำเป็น
เมื่อมองลึกลงไป มูลเหตุการตั้ง ทนายถุงขนม เป็นรัฐมนตรี จึงมีเพียงแค่ ๒ ประการเท่านั้น
เหิมเกริม
หรืออาจมีเกมอื่นซ่อนอยู่เบื้องหลัง
หลอกให้กินเบี้ย เพื่อรุกฆาต ใช่หรือไม่
คุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่อาจคาดเดาได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องของ ๔๐ สว. ไปในแนวทางไหน
แต่หากอ้างอิง กรรมการมรรยาท สภาทนายความที่ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า “พิชิต ชื่นบาน” กระทําผิดข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วย มรรยาททนายความ พ.ศ. ๒๕๒๙ จำนวน ๒ ข้อ ดังนี้
ข้อ ๖ ที่ไม่เคารพยําเกรง อํานาจศาล หรือกระทําการใดอันเป็นการดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษา
ข้อ ๑๘ ที่ประกอบอาชีพดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและ เกียรติคุณของทนายความ
คณะกรรมการมรรยาทจึงมีมติ ๙ ต่อ ๓ เสียง ให้ลงโทษหนักสุดลบชื่อออกจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความได้เป็นเวลา ๕ ปี
สิ่งที่ประจักษ์จากมติของ กรรมการมรรยาท สภาทนายความ คือ ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและ เกียรติคุณของทนายความ
ซึ่งขัดและแย้งกับ “มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” อย่างสิ้นเชิง
ไม่อาจอธิบายให้ต่างไปจากนี้ได้แม้ตัวอักษรเดียว
ตำแหน่งรัฐมนตรี ให้คุณให้โทษแก่ประเทศชาติประชาชนมากกว่า “ทนายความ” ชนิดเทียบกันไม่ได้เลย
และการ “มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ไม่มีระยะเวลากำหนด
เคยติดคุก ผ่านไป ๑๐ ปี เป็นรัฐมนตรีได้
หรือ เคยถูกลบชื่อจากการเป็นทนายความ ผ่านไป ๕ ปี กลับมาเป็นใหม่ได้
แต่ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มันติดตัวไปตลอดชีวิต
ใครเคยโกง เคยทำความชั่วความผิด ก็ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไปจนตาย
หากมองว่า นี่คือเกมเปลี่ยนตัวนายกฯ ก็มีความเป็นไปได้
เพราะการตั้งทนายถุงขนม เป็นรัฐมนตรี ในทางการเมืองมันโจ่งแจ้งเกินไป จนสามารถประเมินผลที่จะตามมาได้ไม่ยาก
เปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนโยบาย อาจเป็นแผนที่วางไว้เพื่อลบจุดอ่อนทางการเมืองที่เกิดขึ้น
อาจเป็นทางลงของนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต
หากใช้แผนนี้จริงก็ต้องเร่งจัดการเสียแต่เนิ่นๆ
อย่างน้อยก็ต้องก่อนงบปี ๒๕๖๘ ที่มีเม็ดเงินนำไปใช้ในนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต จำนวน ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาท ผ่านสภาฯ
ที่สำคัญช่วงจัดทำงบประมาณ “ทักษิณ” พ้นสถานะนักโทษไปแล้ว
แน่นอนครับถึงเวลานั้น “ทักษิณ” สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
อิสระกว่าในปัจจุบัน ที่อิสระอย่างที่ไม่เคยมีนักโทษที่ได้รับการพักโทษคนไหนได้รับมาก่อน
ก็ลองหลับตานึกดูครับ ตอนเป็นนักโทษ ยังขนาดนี้
พ้นโทษแล้วจะขนาดไหน
๒๓ พฤษภาคมนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องร้องเรียนจาก ๔๐ สว. ไว้พิจารณา ก็อาจจะสั่งให้ นายกฯ เศรษฐา หยุดปฏิบัติหน้าที่
เทียบเคียงไทม์ไลน์ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนถึงวันที่ศาลวินิจฉัยคดีนายกฯ ๘ ปีใช้เวลาเดือนเศษ
กรณี นายกฯ เศรษฐา ก็ตกเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ไทม์ไลน์สำคัญทางการเมืองใกล้เคียงกันหมด
ได้ สว.ชุดใหม่ ล็อกเก้าอี้ประธานวุฒิสภา
“ทักษิณ” พ้นโทษ
ชี้ชะตานายกฯ เศรษฐา
แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เหลืออยู่ ๒ คนคือ “อุ๊งอิ๊ง” กับ “ชัยเกษม นิติสิริ”
หาก “เศรษฐา” ต้องไป ใครจะมาแทน ไม่ต้องไปคิดให้เปลืองสมอง
ใกล้ถึงเวลาของ “อุ๊งอิ๊ง” แล้ว
แต่หากผิดแผน เพราะถูกวางแผนซ้อนอีกที
ตัวใครตัวมันครับ
ช่องทางธรรมชาติยินดีให้บริการ
