เรื่อง ‘ถุงขนม ๒ ล้าน’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ว่าไปก็น่าประหลาดใจ

คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ได้รับเสียงสรรเสริญว่ามาจากการเลือกตั้ง มีความเป็นประชาธิปไตย มักมีหน้าตาสู้รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ถูกสาปแช่งว่าเป็นเผด็จการกดหัวประชาชนไม่ได้

เทียบตำแหน่งต่อตำแหน่งในรัฐบาล คสช. กับรัฐบาลทักษิณาฐา รัฐมนตรีในรัฐบาล คสช.ดูดีมีสง่ามากกว่าโขทีเดียว

ยกตัวอย่างรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาล คสช.ช่วงปีท้ายๆ มี “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” มานั่งทำงานอยู่

ขณะที่ รัฐบาลทักษิณาฐามี “พิชิต ชื่นบาน” หลุดเข้ามาท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า…แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ?

การเป็นรัฐมนตรีของ “พิชิต ชื่นบาน” จึงถูกตั้งคำถามว่า ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่

ตีความกันแบบไหนคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของ “พิชิต ชื่นบาน” ถึงไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

ดูรัฐบาลก็ต้องอ่านคำปรารภให้เข้าใจก่อน เพราะนี่คือเจตนารมณ์ของกฎหมายสูงสุด

ศุภมัสดุ… การวางกลไกป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เข้มงวด เด็ดขาด เพื่อมิให้ผู้บริหารที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลเข้ามามีอํานาจในการปกครองบ้านเมืองหรือใช้อํานาจตามอําเภอใจ…

หมายความว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเจตนารมณ์ ไม่ให้คนโกง คนไร้คุณธรรม จริยธรรม มีอำนาจบริหารประเทศ

การกำหนดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีจึงเน้นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง

มาตรา ๑๖๐ ได้กำหนดคุณสมบัติของคณะรัฐมนตรีไว้ดังนี้

มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปี

สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙๘

ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท​

ไม่เป็นผู้เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุกระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๑๘๖ หรือมาตรา ๑๘๗ มาแล้วยังไม่ถึงสองปีนับถึงวันแต่งตั้ง

คนเป็นรัฐมนตรีได้ต้องมีคุณสมบัติครบทุกข้อ ไม่ใช่ข้อใดข้อหนึ่ง

มีคำอธิบายว่าคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของ “พิชิต ชื่นบาน” นั่นถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยเฉพาะ ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙๘

รัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๘ (๗) บัญญัติว่า เคยได้รับโทษจําคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

นั่นคือ “พิชิต ชื่นบาน” พ้นจากโทษจำคุกคดีถุงขนมมาแล้วเกิน ๑๐ ปี จึงสามารถเป็นรัฐมนตรีได้

แต่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ได้ตีความข้อนี้ด้วยหรือไม่

ในอดีตเพราะการตีความกฎหมายเช่นนี้เอง ทำให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยนักการเมืองคอร์รัปชันมาต่อเนื่องยาวนาน

ทั้งที่การคอร์รัปชันคือการก่ออาชญากรรมร้ายแรง แต่สำหรับประเทศไทยดูเหมือนคดีมโนสาเร่ ชกต่อยกันในวงเหล้า หรือจูงหมาไปขี้หน้าบ้านคนอื่น

จบแล้วก็จบกันไป!

การตระหนักในภัยคอร์รัปชันแทบจะไม่มี

คนโกงพ้นโทษออกมายังเป็นที่นับหน้าถือตาแทบจะทุกวงการ

นี่คือมะเร็งร้ายที่กำลังกัดกินประเทศไทย แต่คนส่วนใหญ่รวมทั้งนักการเมือง เจตนามองข้ามไป เพราะสังคมต่างตอบแทนนั้นมันซึมลึกระดับดีเอ็นเอ

ประเด็น “พิชิต ชื่นบาน” มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ พิสูจน์ได้โดยคำพิพากษาศาลฎีกา ความแพ่ง ระหว่าง นายอนันต์ วงษ์ประภารัตน์ เป็นผู้กล่าวหา นายพิชิต หรือพิชิฏ ชื่นบาน ที่ ๑ นางสาวศุภศรี ศรีสวัสดิ์ ที่ ๒ นายธนา ตันศิริ ที่ ๓ เป็นผู้ถูกกล่าวหา เรื่อง ละเมิดอำนาจศาล

“…การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม เป็นความผิดละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เห็นว่า เงินที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๓ มอบให้ ม.ล.ฐิติพงศ์ เพื่อนำไปแบ่งกันกับเจ้าหน้าที่ในแผนกมีจำนวนมากถึง ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท แสดงให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามมีเจตนาที่จูงใจให้ ม.ล.ฐิติพงศ์ และเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งอาจเชื่อมโยงไปเป็นประโยชน์แก่จำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อม.๑/๒๕๕๐ การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม

จึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑(๑), ๓๓ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ และน่าจะมีมูลความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงาน การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม เป็นการกระทำที่อุกอาจ ท้าทายและเกิดขึ้นที่ศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลยุติธรรมชั้นสูงสุดของประเทศ

ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม ประกอบอาชีพทนายความ และที่ปรึกษากฎหมาย ย่อมตระหนักดีว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันศาล ยุติธรรมและจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือและความศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในอำนาจตุลาการ

จึงเห็นสมควรลงโทษในสถานหนัก เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามคนละ ๖ เดือน ส่วนความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ หรือความผิดอื่นต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน นั้น ให้ผู้กล่าวหาไปดำเนินการตามกฎหมายแก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป…”

แน่นอนครับ “พิชิต ชื่นบาน” มีคุณสมบัติตรงตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๘ (๗)

แล้วมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่

ในคำพิพากษามีอยู่หลายคำให้พิสูจน์

จูงใจกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่

ประพฤติตนไม่เรียบร้อยบริเวณศาล

ละเมิดอำนาจศาล

เป็นการกระทำที่อุกอาจ ท้าทาย

ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันศาล ยุติธรรม

จึงเห็นสมควรลงโทษในสถานหนัก เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ทั้งหมดนี้คืออะไร

เป็นการการันตีว่า มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อย่างนั้นหรือ?

Written By
More from pp
อุทยานฯหมู่เกาะลันตา ตรวจสอบซากพะยูนเกยตื้น เร่งชันสูตรคาดตายมาแล้ว 2-3 วัน
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้า​อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯ ที่ ลต.4 (ถ้ำเขาไม้แก้ว)...
Read More
0 replies on “เรื่อง ‘ถุงขนม ๒ ล้าน’ – ผักกาดหอม”