14 พฤศจิกายน 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม World Chinese Language Conference 2025 ณ Hall A ชั้น 4 พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “นวัตกรรมขับเคลื่อน ปัญญาประดิษฐ์เสริมพลัง เรียนรู้ภาษาจีนอย่างไร้พรมแดน” ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเน้นบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีและ AI ในการยกระดับการเรียนการสอนภาษาจีนให้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมทั่วประเทศ
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ปี 2568 เป็นปีแห่งความหมายยิ่งสำหรับไทยและจีน เนื่องจากเป็นปีที่ทั้งสองประเทศเฉลิมฉลอง ครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา ความสัมพันธ์ไทย–จีนเปรียบเสมือน “พี่น้อง” หรือ “จีน–ไทย พี่น้องกัน” ซึ่งเป็นวลีที่สะท้อนสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งของประชาชนทั้งสองชาติ และในโอกาสเดียวกันนี้ ยังสอดคล้องกับการเสด็จฯ เยือนอย่างเป็นทางการของ
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 13–17 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งจะยิ่งกระชับมิตรภาพและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างไทย–จีนกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบันมีนักเรียนจีนกว่า 28,000 คน เดินทางมาเรียนในสถาบันการศึกษาไทย และนักเรียนไทยมากกว่า 30,000 คน ศึกษาในมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาของจีน ความร่วมมือดังกล่าวเกิดจากโครงการร่วมหลากหลาย อาทิ หลักสูตรแบบ 3+1, 2+2, การแลกเปลี่ยนนักศึกษา โดยไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญตามกรอบ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566–2570) ซึ่งมุ่ง Transforming Thailand ผ่านการพัฒนาทุนมนุษย์สำหรับโลกอนาคตโดยกระทรวงศึกษาธิการมีบทบาทสำคัญในการยกระดับทักษะของเยาวชนไทย ทั้งทักษะดิจิทัล การคิดวิเคราะห์ และความสามารถทางภาษา ภาษาจีนเป็นทักษะยุทธศาสตร์ที่เชื่อมไทยสู่เศรษฐกิจและวิทยาการระดับโลก พร้อมเผยว่า ศธ.ได้พัฒนา National Digital Learning Platform (NDLP) เพื่อให้ผู้เรียนทุกกลุ่มเข้าถึงทรัพยากรการเรียนรู้คุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และวางรากฐานการเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล
ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงบทบาทของเทคโนโลยีว่า AI คือพลังสำคัญที่จะทำให้การเรียนภาษาจีน “ไร้พรมแดน” อย่างแท้จริง โดยมีบทบาทหลัก 2 ประการ ได้แก่ นวัตกรรมด้านการสอน AI สามารถทำหน้าที่เสมือนติวเตอร์ส่วนตัว ให้ข้อเสนอแนะด้านการออกเสียงแบบเรียลไทม์ ปรับบทเรียนตามความสามารถของผู้เรียน และช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาได้เร็วขึ้น และยังเพิ่มโอกาสความเท่าเทียมทางการศึกษา โดยแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงเนื้อหาคุณภาพสูงได้เช่นเดียวกับนักเรียนในเมืองใหญ่ สร้างความเสมอภาคอย่างแท้จริง
“การนำ AI มาใช้ไม่เพียงช่วยให้คนไทยเรียนภาษาจีนได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยพัฒนาความเข้าใจด้านวัฒนธรรมและทักษะดิจิทัล ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการแข่งขันระดับภูมิภาคและระดับโลก กระทรวงศึกษาธิการจะเดินหน้าส่งเสริมหลักสูตรและโปรแกรมภาษาจีนทั่วประเทศ ทั้งในระดับขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา มุ่งสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเชิงภาษา เข้าใจวัฒนธรรม และมีความพร้อมสู่สังคมโลก” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้ายว่า ภาษาจีนไม่ใช่เพียงเครื่องมือสื่อสาร แต่เป็นสะพานเชื่อมสองอารยธรรม และเป็นกุญแจสู่สันติภาพ ความเข้าใจ และความรุ่งเรืองร่วมกันในอนาคต การประชุม World Chinese Language Conference เป็นเวทีสำคัญที่เตือนให้เราตระหนักว่า “ภาษา” คือพลังของการทูต วัฒนธรรม และการเชื่อมโยงประเทศต่าง ๆ กระทรวงศึกษาธิการของไทยพร้อมเดินหน้าร่วมกับทุกภาคี เพื่อผลักดันการเรียนภาษาจีนให้ก้าวล้ำ และใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนอย่างแท้จริง.
