เขลาเพราะเขาหลอก – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

น่าจะเป็นครั้งแรก…

ที่นั่งฟังการซักฟอกรัฐบาลของฝ่ายค้านแล้ว มันคิดจินตนาการว่า ที่กำลังอภิปรายอยู่นั้น ไม่ใช่ สส.จากพรรคฝ่ายค้าน

แต่เป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย!

เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่คุุ้นชิน

เพราะที่ชินคือฝ่ายค้านดาหน้าถล่มรัฐบาล ก็มันเวทีซักฟอกรัฐบาลนี่ครับ

แต่กับ “ชัยธวัช ตุลาธน” เปิดหัวในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กลับเห็นบรรยากาศประเทศอยู่ท่ามกลางนิติสงคราม

ไม่ได้ซักฟอกรัฐบาล

เป็นการซักฟอก “รัฐไทย” ผ่านรัฐบาล

“…ประชาชนคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลชุดใหม่ตอนเริ่มจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนก็อยากเห็นการจัดทำประชามติโดยเร็ว แต่ก็ยังวกไปวนมา

พี่น้องประชาชนไม่แน่ใจว่าตกลงรัฐบาลจะเอาอย่างไรต่อการปฏิรูปการเมือง

มิหนำซ้ำเมื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วกลับพบว่า หากมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทัน เราก็อาจจะได้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่แม้จะใหม่ แต่ไม่ไว้วางใจประชาชนเหมือนเดิม

เมื่อเวลาผ่านไปกับพบว่ากระบวนการนิติสงครามยังดำเนินการต่อไป ไม่ต่างจากหลังรัฐประหาร สถานการณ์ปราบปรามประชาชนที่มีความเห็นต่างในนามกฎหมาย สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนเริ่มเห็นสัญญาณว่าถูกคุกคามแทรกแซง

พี่น้องประชาชนคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เห็นการฟื้นฟูนิติธรรมนิติรัฐที่รัฐบาลแถลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง กลับเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เคยเป็นมาก่อนในตำรวจ…”

แกะคำอภิปรายของ “ชัยธวัช ตุลาธน” ที่ดูสับสนอยู่บ้าง ตรงจุดเชื่อมต่อของเรื่อง แต่วิธีคิดยังคงเป็นแบบเดิม

แบบที่โจมตี “รัฐบาลลุงตู่” ก่อนหน้านี้

นิติสงครามในความหมายของพรรคก้าวไกล โฟกัสไปที่การปราบปรามประชาชนตั้งแต่หลังการรัฐประหาร ปัจจุบันก็ยังปราบปรามอยู่

ที่ยังคงดำเนินอยู่ มีอยู่เรื่องเดียวครับ

การทำผิด ม.๑๑๒ ที่ยังคงต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน และยังไม่จบสิ้น

และจะต่อเนื่องไปเรื่อยๆ หากยังคงมีการก่อความผิดขึ้น

ต่อให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล หากยังคงมีการทำผิด ม.๑๑๒ กระบวนการยุติธรรมก็ยังเดินต่อไปโดยไม่เลือกรัฐบาล

ถึงเวลานั้น พรรคก้าวไกลยังจะเรียก นิติสงคราม อยู่หรือไม่

ถ้าใช่ เกิดโดยใคร

แล้วรัฐบาลต้องรับผิดชอบอย่างไร

หรือพรรคก้าวไกลยืนยันว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ในยุคที่ตัวเองเป็นรัฐบาล

ถ้าใช่ ก็อนุโมทนาสาธุ

แสดงว่าประเทศไทยสงบสุขแล้ว

ภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้านถือว่าไม่เลว แม้จะไม่มีข้อมูลเด็ด แต่มีการเรียบเรียงให้เห็นว่ารัฐบาลเศรษฐา บกพร่องอย่างตั้งใจในหลายเรื่อง โดยเฉพาะกรณี นักโทษชายทักษิณ

เสียตรงที่มีเพียง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ชัดเจนประเด็นนี้

ส่วนก้าวไกลเหมือนมีดีลอะไรอยู่กับ นักโทษเทวดา

ออกจากรัฐสภาไปท่องโลกโซเชียลกันบ้างครับ เพราะวานนี้ (๓ เมษายน) มีประเด็นให้ต้องพูดถึงไม่แพ้เรื่องในสภาฯ

มีความพยายามจากนักวิชาการบางคนบางกลุ่ม ให้ท้ายนิสิตสามนิ้ว จนหลุดจากกรอบวิชาการไปเป็นหลักวิชากู

รองศาสตราจารย์ วิทยากร เชียงกูล คณบดีกิตติคุณและอดีตคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เขียนข้อความโชว์หราในเฟซบุ๊ก Witayakorn Chiengkul

“…ประวัติการสร้างจุฬาฯมหาวิทยาลัยแห่งแรก ที่ผมเคยอ่านพบคือ ร.๕ ไม่ได้สร้าง มีฝรั่งที่ปรึกษาและปัญญาชนอย่าง “ครูเทพ” เคยเสนอแนะให้สร้างตั้งแต่ยุคนั้น แต่ไม่เกิดผล

หลัง ร.๕ สวรรคต, รัฐบาลยุค ร.๖ เรี่ยไรเงินจากประชาชนก่อสร้างอนุสาวรีย์ ร.๕ ทรงม้าที่ลานพระรูป แล้วยังมีเงินเหลือ รัฐบาลจึงได้นำไปสร้างจุฬาฯ คงต้องใช้เงินรัฐบาลสมทบด้วย

แต่งบรัฐบาลก็มาจากภาษีประชาชนอยู่นั่นเอง…”

ไม่อยากจะเชื่อครับว่า นักวิชาการชั้นหัวกะทิของประเทศ เหตุใดถึงได้บิดเบือนประวัติศาสตร์จากหน้ามือเป็นหลังเท้าได้

พยายามใส่ชุดข้อมูลเท็จว่า จุฬาฯ ไม่ได้สร้างโดย ร.๕ จะเพื่อด้อยค่า “พระเกี้ยว” หรือลดคุณค่าของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อจุฬาฯ ทำนองไม่มีบุญคุณอะไรต้องตอบแทนก็ตามที

แต่มันสะท้อนคุณภาพทางวิชาการว่า…เสื่อม!

มีคนเอาข้อมูลที่เที่ยงตรงไปบอก “วิทยากร เชียงกูล” ถึง เฟซบุ๊ก Witayakorn Chiengkul แต่ไร้เสียงตอบรับ

ศิษย์เก่าจุฬาฯ อย่าง “อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์” แจกแจงเป็นข้อๆ

“…กราบเรียนว่าข้อมูลอาจารย์ไม่ถูกต้องทั้งหมดครับ

หนึ่ง รัชกาลที่ ๕ ทรงสร้างโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ซึ่งต่อมาคือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับ ดังนั้นจึงมีความต่อเนื่อง

สอง พระบรมรูปทรงม้าสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ ครับ ไม่ได้สร้างหลัง ร.๕ เสด็จสวรรคตครับ แต่สร้างคราวเสด็จนิวัตพระนครหลังจากเสด็จไกลบ้านครั้งที่ ๒ ครับ รัฐบาลไม่ได้เรี่ยไรครับ ประชาชนรวมเงินกันถวายสร้างพระบรมรูปทรงม้า ได้เงินมามากเกินกว่าที่จะสร้างพระบรมรูปทรงม้า ๖-๗ เท่า แต่ก็เก็บเงินไว้เฉยๆ

สาม ครูเทพ ท่านกราบบังคมทูลให้สร้างมหาวิทยาลัยจริงครับ แต่เป็นในสมัย รัชกาลที่ ๖

สี่ ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ทรงดำริตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยท่ามกลางการคัดค้านจากบรรดาขุนนางข้าราชการ คนที่คัดค้านในหลวงรัชกาลที่ ๖ อย่างรุนแรงมากคือเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ครูถวายพระอักษรในหลวงรัชกาลที่ ๖ เองเมื่อเสด็จไปทรงศึกษาที่อังกฤษ…”

บันทึกเกี่ยวกับ พระบรมรูปทรงม้า เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่หาได้ทั่วไป

เมื่อการก่อสร้างพระบรมรูปทรงม้าเป็นรูปธรรมขึ้น และกระแสข่าวความคืบหน้าถูกรายงานเข้ามาเป็นระยะ คณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก จึงปรึกษากันอย่างเร่งด่วน และได้ตกลงกันที่จะทูลขอพระบรมราชานุญาตเรี่ยไรเงินต่อสาธารณชนในเมืองไทย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย

เมื่อข่าวแพร่สะพัดไปในวงกว้าง เงินบริจาคก็เพิ่มเข้ามาอีกมาก

จากงบฯ ขั้นต้นคำนวณอยู่ที่ ๒๐๐,๐๐๐ บาท แต่สามารถรวบรวมได้ถึง ๑,๒๐๐๐,๐๐๐ บาท คณะกรรมการจึงมีมติให้ถวายเงินทั้งหมด และทูลขอพระบรมราชวินิจฉัยพระราชทานพระบรมรูปทรงม้านี้ ให้เป็นสัญลักษณ์ในงานรัชมังคลาภิเษก

รัชกาลที่ ๕ โปรดให้เป็นไปตามที่ขอทุกประการ

๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ พระบรมรูปทรงม้าถูกจัดส่งเข้ามาทางเรือถึงกรุงเทพฯ และได้รับการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อย ณ ลานพระราชวังดุสิต ตรงตำแหน่งซุ้มประตูที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้แต่แรก

ครั้นถึงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๑ รัชกาลที่ ๕ จึงเสด็จฯ มาทรงเป็นประธานในพิธีชักผ้าแพรคลุมเปิดพระบรมรูปทรงม้าอย่างเป็นทางการด้วยพระองค์เอง

แผ่นจารึกหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ ก็เป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕

บันทึกช่วงรัชกาลที่ ๕ ไม่ได้มาจากการบอกเล่าปากต่อปาก

แต่เป็นบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าวดำเนินอยู่

ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นพักหลัง ม.รังสิต มีอาจารย์สามนิ้วเคลื่อนไหวบิดเบือนประเด็นเกี่ยวกับสถาบันฯ อยู่หลายคน

จะบอกว่าเป็นเสรีภาพทางวิชาการก็ไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลเท็จ

หรือเรื่องไม่เคยไปถึงหูเจ้าของมหาวิทยาลัย

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง ฉันจึง มาหา ความหมาย

ฉันหวัง เก็บอะไร ไปมากมาย สุดท้าย ให้กระดาษ ฉันแผ่นเดียว

ระวังจะเป็นแผ่นที่เขียนว่า ร.๕ ไม่ได้สร้างจุฬาฯ

Written By
More from pp
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับรถบรรทุก ลักลอบขนข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านน้ำหนักเกินกว่า 26 ตัน ตำรวจทางหลวงยันเอาจริง! จะขยายผลแก๊งลักลอบขนพืชเกษตรข้ามชายแดนต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายสุภชัยฯ กระทำผิดฐาน “ใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดมาใช้บนทางหลวง” สถานที่จับกุม บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212...
Read More
0 replies on “เขลาเพราะเขาหลอก – ผักกาดหอม”