เปลว สีเงิน
เก็บอาการ “เนื้อเต้น-น้ำลายสอ” ไว้บ้างก็ได้นะเศรษฐา
เรื่องตั้ง “กาสิโน” นั่นน่ะ!
ก็รู้แหละ เมื่อ ๒๘ มีนา.สภาให้ความเห็นชอบผลศึกษาที่ทำกันมาตั้งสมัยรัฐบาล ๘ ปี คือในยุครัฐบาลประยุทธ์
ก็สู่ขั้นตอนรัฐบาล ๘ เดือน ของเศรษฐาวันนี้
ที่มีแต่เกลื้อนน้ำลาย จะจัดทำร่าง “พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…..” เข้าสู่รัฐสภา
ไทยจะมี “กาสิโนสถาน” ควบคู่ “สัปปายสภาสถาน” แน่หรือ?
“กาสิโน” นี่ใช่มั้ย เป็นเศรษฐกิจตอบโจทย์พรรคเพื่อไทย ที่โฆษณา “เลือกเศรษฐาเป็นนายกฯ คนไทยจะเป็นเศรษฐี”?
แล้วด่ากราดเช้า-ค่ำ “รัฐบาลประยุทธ์บริหาร ๘ ปี มีแต่ความล้มเหลว ทำประเทศชาติล้าหลัง”
เรื่องตั้งกาสิโน….ผมเข้าใจ
น้ำหนักมันแค่เศรษฐกิจ “พืชล้มลุก” เหมือนผักชี ที่ใช้โรยหน้าจานอาหาร มีแค่เสริม
คนชอบ ก็กินไป ส่วนคนไม่ชอบ ก็เขี่ยทิ้งไป ไม่เสียหายอะไร เพราะผักชี แค่เศษผัก
แต่เท่าที่ดู ๘ เดือนของเศรษฐา การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ไม่ต่าง “คนบ้าน้ำลาย”
นอกจาก “เกาะบุญเก่า” จากด้านต่างๆ ที่รัฐบาลประยุทธ์ก่อร่างวางรากฐานไว้ให้แล้ว
ไม่ว่าระบบ รถ-เรือ-ราง-อากาศ-การท่องเที่ยว-พลังงานสีเขียว-ซอฟต์ เพาเวอร์
ไปจนถึง “อุตสาหกรรมนวัตกรรม” วิจัย-ค้นคว้า-พัฒนา-ต่อยอด อันเป็นฐานรากเศรษฐกิจยั่งยืนแท้จริงของประเทศแล้ว
มีด้านที่รัฐบาลประยุทธ์ ๘ ปี ยังไม่ได้ทำ….
จะเรียกว่าล้มเหลว เป็นที่ผิดหวังประชาชนก็ย่อมได้ มีอยู่ ๑ อย่างเท่านั้น คือ
การ “ปฎิรูประบบราชการ” โดยเฉพาะปฎิรูปตำรวจและการศึกษา!
นอกนั้น รัฐบาลประยุทธ์ทำไว้ให้เกือบหมด จนนำไปสู่ วันนี้ คือ
๘ เดือนเศรษฐา “ชุบมือเปิบ” แล้วตีฉาบ-ตีกลอง เคลม!
เหมือนตอน “ทักษิณ” เป็นรัฐบาลปี ๒๕๔๔ แล้ว “ชุบมือเปิบ” ผลงานรัฐบาลชวน
ที่ชวนแก้ปัญหา “ต้มยำกุ้ง” ที่รัฐบาลชวลิต (ทักษิณก็อยู่ด้วย) ทำไว้
จนฉิบหายทั้งประเทศ!
แต่ธุรกิจการค้าทักษิณนอกจากไม่ฉิบหายซักสลึงจากการลดค่าเงินบาทครั้งนั้นแล้ว กลับร่ำรวยฉิบหาย เพิ่มขึ้น ๔-๕ พันล้าน!!
IMF หน้ากากนักบุญในขบวนการ CFR ของไอ้กัน ที่โจมตีเราจนพัง มันบีบเราจนต้องเอา “ซากประเทศ” ไปจำนำกับมัน
ภายใต้เงื่อนไข ไทยต้องออก “กฎหมายขายชาติ” ๑๑ ฉบับให้กับมัน
ก็รัฐบาลชวนที่นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ เป็นรัฐมนตรีคลัง นั่นแหละ
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่ต้องเอากระดูกมาแขวนคอ รับช่วงเข้าไปเป็นรัฐบาลล้างเช็ด
ทั้งแก้ ทั้งใช้หนี้ ทั้งวางระบบ-ระเบียบ “การเงิน-การคลัง” ใหม่ เป็นฐานราก เพื่อประเทศไม่กลับไป “ซ้ำสอง” ในอนาคต!
สังคมโลก แบ่งเป็น ๙ ยุค ยุคละ ๒๐ ปี
ปี ๒๕๖๗ นี้ เป็นยุคไฟ ส่วนประเทศไทยเรา เป็นธาตุไม้
“ไม้” เจอ “ไฟ” เป็นยังไง สถานการณ์บ้านเมืองต่อจากนี้ ก็เป็นอย่างนั้น
ฉะนั้น ทุกอย่างจง “เย็นไว้…โยม”
สตางค์ ใครอยากรวยช่างมัน แต่ขออย่างเดียว ขอทุกคนจง “มีสติ”
สติ-ต่อการรับรู้และตอบสนองสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ซึ่งมันจะเป็นไปตาม “เหตุและปัจจัย” ที่สั่งสม
จงรู้ไว้ ทุกอย่างไม่มีอะไรบังเอิญ กรรม-คือการกระทำ จัดสรรลงตัวไว้ให้หมดกับทุกคน-ทุกสิ่งแล้ว
รอเพียงการทำงานของ “เข็มสั้น-เข็มยาว” เท่านั้น ว่ามันจะถึงเลขที่กำหนดตอนไหน
แล้วมันจะ “ตีบอก” เอง!
อยากกระซิบรักที่ซอกหูเศรษฐาว่า เก็บอาการน้ำลายหยด-น้ำลายสอ เหมือนปลากระป๋องปุ้มปุ้ย ไว้บ้างก็ได้
เรื่องกาสิโน นั้น อย่าโฆษณาเกินจริงให้มากไป แล้วน้ำลายมันจะเป็นพิษทีหลัง เช่นที่พูดว่า
“ที่ผ่านมา เราเสียเวลาและโอกาสมามากพอแล้ว
ดังนั้น รัฐบาลจะทวงคืนเวลาที่สูญเสียไปให้กลับมาเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศและพี่น้องประชาชน”
………………………
เรื่องของสังคมอีแอบ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีอยู่แล้ว เอามากำกับดูแลให้เหมาะสม เพื่อฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง จะได้ดูแลให้ถูกต้อง
โดยยึดหลักความเป็นจริง เอาเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมากำกับดูแล และเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง
…………………………
“แก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล นำรายได้จากการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่มาใช้ในการพัฒนาประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพ”
……………………………
ผมบอกแล้ว กาสิโน มันแค่ผักชี เหมือนเอ็นเตอร์เทนทางบันเทิง เช่นการนำดารานักร้องมาแสดง เป็นต้น
แค่อาหารเสริม เป็นผักโรยหน้าจานอาหารเท่านั้น เศรษฐาจะยึด “กาสิโน” เป็นกุญแจแก้โจทย์เศรษฐกิจประเทศ แทนพัฒนาทรัพยากรบุคคลทางการศึกษา ทางการวิจัย-พัฒนา ทางการอุตสาหกรรมนวัตกรรม อย่างที่ตีปีบให้สังคม “เห็นผิดเป็นชอบ” อย่างนั้นไม่ได้
-กาสิโน จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
-กาสิโน จะแก้ปัญาผู้มีอิทธิพล
-กาสิโน จะแก้อบายมุขใต้ดินให้หมดไป
-กาสิโน จะทำให้รัฐเก็บภาษีได้มากขึ้น
-กาสิโน จะดึงนักเที่ยวและเม็ดเงินเข้าประเทศมากขึ้น
-กาสิโน จะช่วยพัฒนาประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพ
เอ้า…แล้วเศรษฐาลองตอบซิ
เขมร พม่า ลาว เวียดนาม ศรีลังกา กระทั่งมาเลย์ สิงคโปร์
-มีประเทศไหนด”เศรษฐกิจ”ดดีขึ้นจากบ่อนบ้าง?
-สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้ชาวบ้านร่ำรวยได้บ้าง?
-หวยใต้ดิน บ่อน ซ่อง เจ้าพ่อ-มาเฟีย หมดไป บ้าง?
ผมเห็นแรงงาน ลาว, พม่า, เขมร เต็มเมืองไทย ประเทศเขามีกาสิโน แล้วทำไมยังต้องมาทำงานในเมืองไทยล่ะ?
ไทย ไม่มีกาสิโน แต่ “เงินบาท” กลับมาตรฐานโลก
ประเทศที่มีกาสิโน กลับต้องใช้เงินบาท แทนเงินจ๊าด เงินกีบ เงินเรียล
ถ้ากาสิโนทำให้ประเทศร่ำรวย ทำไมเงินของเขาจึงมีค่าเท่ากระดาษเปล่าล่ะ?
ไทยไม่มีกาสิโน แต่มีนักท่องเที่ยว ติด ๑-๑๐ ของโลก ติดอันดับ ๑ ในอาเซียน มีคนขนเงินมาซื้อบ้าน ซื้อคอนโด จนแสนสิริ กำไรเป็นหมื่นล้าน
เศรษฐาไม่ฉงนด้วยปลื้มตรงนี้บ้างหรือ?
ผมไม่ปฏิเสธเรื่องมีกาสิโนนะ
แต่บอกว่า มันแค่อาหารเสริม จะทึกทักเป็นเศรษฐกิจหลักที่สร้างร้ายรายได้เข้าประเทศ จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจสีเทาให้หมดไป มันไม่ใช่และไม่จริง
ที่พูดนั่น เพ้อเจ้อ กาสิโนมันไม่ทำให้โลกสวยขนาดนั้นหรอก
ใช่…จะเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นบ้าง
เพิ่มขนาดไหนล่ะ ก็ขนาด ๑ ล้านบาท ไทยได้แค่ ๕ พันบาท เหมือนอุตสาหกรรมรับจ้างประกอบรถยนต์ส่งออก ทุกวันนี้ นั่นแหละ!
เพราะในความเป็นกาสิโนทั้งหมด ต้อง “อิมพอร์ต” เข้ามา รวมทั้งระดับบุคลากรบริหารระดับเงินเดือนแสนบาท-ล้านบาท
ส่วนคนไทยจะมีแค่งาน เสิร์ฟ เก็บขยะ เฝ้ายาม งานครัว งานเบ๊ งานล้างส้วม งานขัดรองเท้า รายได้ระดับพันบาท-หมื่นบาท
เอาเข้าจริง “เงินลงทุน” คือเจ้าของกาสิโนตัวจริง ก็นักลงทุนต่างชาติ
นั่นคือ มีแค่ “เศษเงิน” ที่จะตกอยู่ในเมืองไทย นอกนั้นของกลุ่มทุน ที่จะขนกลับไปบ้านเขา
อีหรอบเดียวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ส่งออกนั่นแหละ ของญี่ปุ่น จีน เกาหลี ฝรั่ง ทั้งนั้น
เทคโนโลยีก็ของเขา อุปกรณ์ที่นำมาประกอบก็ของเขา คนบริหารก็คนของเขา “นำเข้ามา”
สรุป รถคันละล้าน ไทยได้แค่ ๕ พัน จากค่าแรงงานรับจ้างประกอบ!
“กาสิโน” นั่นน่ะ มี ก็มีได้ ที่บอกให้เฉพาะ “ทุนไทย” เท่านั้น นั่นมัน “ผีผ้าห่ม” หลอกเด็ก
ไทยระดับ บ่อนสังกะสี มีตำรวจคอยเก็บส่วย แบ่งแล้วกัดกัน ครั้นทำระดับกาสิโน ยังไงๆ ทุนไทยที่ว่า มันก็แค่ “ไทยบังหน้า”
ไทยยังไม่ใช่มืออาชีพระดับมาตรฐานกาสิโน ต้องไปแบ่งเอี่ยว “มาเฟียกาสิโน” ต่างชาติมาบริหาร ให้เขามาเป็นเสือนอนกิน
ส่วนไทย ก็แทะกระดูก ได้เงินเข้าระบบภาษีแค่กระสายยาส่วนหนึ่ง
แต่อีกหลายๆ ส่วนในความเป็นเศษเนื้อติดกระดูก
“มาเฟียธุรกิจไทย” ใต้บารมี “มาเฟียการเมือง”
ผสมพันธุ์ “ฟักไข่” สายเลือดชั่วสืบต่อมรดก “การเมือง-กินเมือง!
ประเทศไทยจะรวยขึ้น สร้างงาน-สร้างเงิน-สร้างอาชีพ ให้ชาวบ้านร่ำรวยขึ้น น่ะเรอะ
ขี้มาเฟียจากกากการเมืองนั่นไง ชาวบ้านก็ไปเก็บมากินซี
สรุป…….
ผมไม่เชื่อ “ความสัตย์สื่อ” ของคนวันนี้ ว่าในขั้นตอนวางกฎ-ระเบียบการออกใบอนุญาต
จะ “จริงใจ-โปร่งใส” ยึดประโยชน์ประเทศและชาวบ้านเป็นที่ตั้งจริงจัง?
พูดกันตรงๆ ตอนนี้ แจกจ่ายใบอนุญาตให้ “กลุ่มทุน” ในเครือข่ายไปล่วงหน้าหมดแล้วด้วยซ้ำมั้ง?
อีหรอบเดียวกับตอนแปรรูป “ปตท.” เข้าตลาดนั่นแหละ!
ไม่ถึงนาที….”เกลี้ยง”
เพราะหมามันคาบไปแดกล่วงหน้าก่อนแล้ว!
ฉะนั้น ผมจึงว่า “ไทยมีกาสิโน” น่ะ ในหลักการ รับฟังได้
แต่ในขั้นตอนปฎิบัติ ผมไม่ไว้ใจ
ว่ามันจะไม่ “ล็อกสเปก” แดกเนื้อใน แล้วทิ้งเปลือก คือปัญหาให้ประเทศ
ว่างๆ มาขึ้นขาหยั่ง ส่องกล้องกันดูว่า……
“กลุ่มทุน” หน้าไหนบ้าง ที่มีทรัพย์สินระดับ “แสนล้าน”
“๕ ใบอนุญาต”
ได้รับแบ่งกันไปเรียบร้อยแล้ว!?
เปลว สีเงิน
๑ เมษายน ๒๕๖๗