ยี่เก “กรรมาธิการตำรวจ” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

อ้าว…แล้วกัน
ผมเข้าใจว่าที่ “กรรมาธิการตำรวจ” สภาผู้แทนฯ ไปโรงพยาบาลตำรวจเมื่อวาน (๑๒ มค.๖๖)
ไปเพื่อทำความจริงให้ประจักษ์แทนประชาชน ด้วยการพิสูจน์ความจริง ๒ อย่าง
๑.พิสูจน์ความโปร่งใสการรักษา “นักโทษทักษิณ” ของแพทย์

๒.พิสูจน์นักโทษทักษิณป่วยจริงและนอนรักษาอยู่บนชั้น ๑๔ จริงหรือไม่?

กลับกลายเป็นว่า ……
สส. “ชัยชนะ เดชเดโช” ประธานกมธ.ตำรวจไปเป็น “โฆษก รพ.ตำรวจและนักโทษทักษิณ” ซะนี่!?

น่าจะเพราะ “อ่อน ๒ อ่อน” คือ “อ่อนการบ้าน” และ “อ่อนพรรษา” นั่นแหละ

เจอตำรวจ-ราชทัณฑ์ “จัดฉาก” เข้าหน่อย ก็หลงเคลิ้มแถลงแบบปลาเนื้ออ่อนฮุบเหยื่อแมลงสาบ!

ผมจะสรุปประเด็นเป็นแต่ละหัวข้อแถลงของประธานกมธ.ตำรวจให้ดู หลังจากแพทย์ผู้บริหารรพ.พาทัวร์ไปทั่วๆ รวมทั้งชั้น ๑๔ ด้วย

สส. “ชัยชนะ” แถลงว่า….
จากการแลกเปลี่ยนพูดคุยกับ “พล.ต.ต.นพ.สามารถ ม่วงศิริ” ผอ.โรงพยาบาลตำรวจ ได้รับทราบว่า

-ขณะนี้ มีผู้ต้องขังมารักษาตัวที่โรงพยาบาลแบบค้างคืน มี “นายทักษิณ ชินวัตร” เพียงคนเดียว นอกนั้น เป็นผู้ต้องขังป่วยแบบ “มาเช้า-เย็นกลับ”

-การคุมขังที่ชั้น ๑๔ มีเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์ ๒ นาย ตำรวจสน.ปทุมวัน ๓ นาย ตำรวจสันติบาล ๓ นาย รวม ๘ นาย

-ตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติกับผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยชั้น ๗ พบมีผู้ป่วย ๒ รายเข้ารับการรักษา ราชทัณฑ์ ๒ นายคอยควบคุม

-ทำให้เห็นว่าการปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์กับผู้ที่มารักษาตัว “มีความเท่าเทียมกัน” โดยผลัดเวรทุก ๒๔ ชั่วโมงและต้องถ่ายภาพรายงานผู้บังคับบัญชาทุกๆ ๒ ชั่วโมง ห้องที่มีผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วย “ไม่ล็อก” เพื่อให้ผู้คุมเดินเข้า-ออกได้ตลอดเวลา

-บนชั้น ๑๔ พบเจ้าหน้าที่จริง แต่ถ้าถามว่าได้เจอนักโทษหรือไม่ “ตรงนี้เป็นพ.ร.บ.ส่วนบุคคล ที่เขาอนุญาตเพียงเท่านี้”

-กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่า เป็น “พ.ร.บ.ส่วนบุคคลของผู้ต้องหา” ที่มีสิทธิ์ให้ใครเยี่ยม-หรือห้ามเยี่ยม

-หลังจากนี้ ต้องกลับไปถามอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับเอกสารที่เราขอไป คือ

๑.ผู้คุมคนใดที่มาเข้าเวรที่นี่ มีการลงชื่อผลัดเปลี่ยนเวร ซึ่งเราได้ขอเอกสารไปแล้ว

๒.ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลที่แจ้งว่าใช้สิทธิ์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถ้าเกินสิทธิ์ สามารถใช้เงินส่วนตัวได้ ใช้ระเบียบข้อไหน และ

๓.ใบสำเนาข้อมูลการส่งออกรักษาภายนอก (รท.101) หรือใบส่งตัว รวมถึงการกรอกประวัติก่อนเข้าเรือนจำ ได้ทำหรือไม่ “อย่างไรก็ตาม ในสัดส่วนของโรงพยาบาลตำรวจ เราได้ทำครบถ้วน”

-“เราไม่ทราบว่าอาการป่วยของทักษิณหนักขนาดไหน แต่ทางโรงพยาบาลตำรวจชี้แจงมาอย่างหนึ่งว่า มนุษย์เราเมื่อเข้าสู่วัย ๗๐ ปี มีอาการป่วยได้ตลอดเวลา

ส่วนจะถือว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ผมก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะเราไม่ทราบว่าอาการป่วยหนักแค่ไหน

-นายทักษิณยังอยู่บนชั้น ๑๔ หรือไม่นั้น…..

“ผมตอบไม่ได้ ต้องไปถามกรมราชทัณฑ์ ผมไม่ได้เห็น เห็นแต่เจ้าหน้าที่ จะตอบเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่ได้”

-“ภาพการรักษาทักษิณ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล”

-“ผมไม่มีข้อข้องใจกับโรงพยาบาลตำรวจแล้ว แต่ข้อข้องใจที่ผมส่งเอกสารไปยังกรมราชทัณฑ์ กมธ.ฯ ต้องได้รับคำตอบ”

-ผมขอเรียนว่า “นายทักษิณไม่ได้ผิดอะไร”

แต่ถ้ากรมราชทัณฑ์ต้องการเป็นจำเลยของสังคม กรมราชทัณฑ์ ก็ต้องชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจ

คุณจำผมไว้เลย จำเลยของสังคมก็คือกรมราชทัณฑ์ ส่วนโรงพยาบาลตำรวจ สิ่งที่ทำวันนี้ถูกต้องที่สุด”

ผมจะบอกว่าประธานกมธ.ตำรวจซื่อเฉยๆ ก็ไม่ครบความ เอาเป็นว่า แถลงน่าเอ็นดูก็แล้วกัน

สรุป ๑.กมธ.ตำรวจ หายข้องใจแพทย์โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ๒.กมธ.เชื่อทักษิณไม่ได้ผิดอะไร และ ๓.ที่ผิด “กรมราชทัณฑ์” ที่เดียว!

ทำให้ผมนึกตอนเป็นนักข่าวโรงพัก “ผู้บัญชาการ-ผู้บังคับการ” จะกวาดล้าง “จับบ่อน-จับซ่อง” วันไหน

ประชุมปุ๊บ…….
ข่าว “ถึงบ่อน-ถึงซ่อง” แต่ละพื้นที่ล่วงหน้าปั๊บ!

ถึงวันออกกวาดล้าง เรียบร้อย แต่ละพื้นที่ สงบ-เรียบร้อย ถือศีล ๕ กันครบถ้วนทุกโรงพัก

นี่เหมือนกัน กมธ.ตำรวจจะไปรพ.ตำรวจ เป็นข่าวครึกโครมล่วงหน้าร่วมครึ่งเดือนมั้ง?

ก็เลยเพียบพูนด้วยเสน่ห์และแสนงาม เจอทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ตำรวจท้องที่ ตำรวจสันติบาล เฝ้านักโทษกันครบ จนประธานกมธ.แถลงเต็มปาก-เต็มคำ….

“มีการปฎิบัติเท่าเทียมกัน โรงพยาบาลตำรวจ ทำถูกต้องที่สุด”

แต่โรงพยาบาลตำรวจตั้งอยู่ในป่าหิมพานต์หรืออย่างไร จึงไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่ยักถาม?

แถมคุย ได้ขึ้นไปชั้น ๑๔ ไปยืนหน้าเคาน์เตอร์พยาบาล แต่เขาไม่ให้ไปดู-ไปรู้-ไปเห็น ว่ามีทักษิณตัวเป็นๆ นอนป่วยอยู่จริงหรือไม่?

โถ…น่าสงสาร ช่างทำกะท่านประธานกมธ.ตำรวจยังกะว่าท่านเป็นนักเรียนมาเข้าแคมป์ฝึกลูกเสือ!

แค่ทักษิณตัวเป็นๆ มีอยู่จริงมั้ย เขายังไม่ยอมให้เดินเฉียด อ้าง “ข้อมูลส่วนบุคคล” ครั้นถามอาการป่วยและการรักษา เจาก็อ้าง “พรบ.ส่วนบุคคลของผู้ต้องหา”

“กมธ.ตำรวจ” จากสภานิติบัญญัติแท้ๆ เขาอ้างอะไรก็เชื่อเขาโหม้ดดด!

พรบ.ส่วนบุคคลที่ว่านั้น ชื่อต็มๆ คือ “พรบ.ส่วนบุคคลของผู้ต้องหา”

ทักษิณ “ไม่ใช่ผู้ต้องหา” แต่ทักษิณเป็น “นักโทษเด็ดขาด” มันละเรื่องกัน การเป็นนักโทษจะอ้างสิทธิเหมือนผู้บริสุทธิ์ทั่วไป มันมีที่ไหนในโลก…หือ?

ที่อ้างพรบ.ส่วนบุคคลว่าเปิดเผยข้อมูลอะไรไม่ได้ ให้พิสูจน์ป่วย-ไม่ป่วยตามอ้าง ก็ไม่ได้ นั้น

นั่นเขาหมายถึง “ผู้ต้องหา” ซึ่งตามนิยามกฎหมาย “ผู้ต้องหายังเป็นผู้บริสุทธิ์”
ส่วนทักษิณ ไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ หาแต่เป็น “นักโทษเด็ดขาด” แล้ว

ขนาดกมธ.ในสถานะสภานิติบัญญัติ จะตรวจสอบตามข้อสงสัยอันมีปมพิรุธ รพ.ตำรวจ-ราชทัณฑ์ กลับปกปิดด้วยอ้างพรบ.ส่วนบุคคลแบบครอบจักรวาล

ระดับกรรมาธิการสภานิติบัญญัติ กลับหงอยจ๋อย เชื่อตามเขาลากจูง แถมแถลง “แก้ต่าง” ให้เขาซะอีก
เสียยี่ห้อ “รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” หมดเลย!

เห็นไปตั้ง ๓ ข้อ ขึงขังให้กรมราชทัณฑ์ตอบ

โถ…รัฐบาลก็ของเขา รัฐมนตรีก็ของเขา อธิบดีก็ของเขา ผบ.คุกก็ของเขา ประเทศก็ใกล้จะเป็นของเขา

กะแค่ประธานกมธ.ตำรวจ ตั้งคำถามตื้นๆ ให้ตอบ กรมราชทัณฑ์คงกลัวจนหำหดซินะ?

อย่างน้อยก็ฟัง “หมอตุลย์” ที่เขาทนดูนักโทษทำตัวเหนือประเทศไม่ได้ ออกมาแถลงกับ “เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)” ดูบ้าง นั่นก็พอจะรู้อะไร-เป็นอะไร

“ไก่เห็นตีนงู-งูเห็นนมไก่” ฉันใด

แพทย์ด้วยกัน ก็ฉันนั้น เขาดูออก ย่อมรู้ไต๋ ว่ากรณีทักษิณ ป่วยจริงหรือ “หมอสมคบ” ให้ป่วยหนีคุก!

“คปท.-นายพิชิต ไชยมงคล” ปักหลักค้างคืนหน้าทำเนียบแต่เมื่อวาน เพื่อรอถาม “นายกฯเศรษฐา” ว่า…

เป็นหัวหน้ารัฐบาล ทำไมปล่อยปละให้กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจปฎิบัติ ๒ มาตรฐาน กรณีนักโทษทักษิณ?

การปฎิบัติและละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ประหนึ่งจงใจให้มีการกระทำเอื้อประโยชน์ต่อนักโทษผู้มีอำนาจเหนือพรรครัฐบาล

ระวังนะ….
ยิ่งลักษณ์ คุก ๕ ปี ตามมาตรา ๑๕๗ ก็เพราะละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ปล่อยปละให้มีการทุจริตจำนำข้าว แบบนี้แหละ!

ภาคประชาชน เห็นคนทำตัวเหนือกฎหมาย ออกมาทำหน้าที่ปวงชนชาวไทย ตามมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญ

ส่วนกมธ.ตำรวจ ถ้าจริงใจ ไม่ต้องไปตั้ง ๓ คำถามราชทัณฑ์หรอก

โน่น…ไปยื่นฟ้องกรมราชทัณฑ์ต่อ “ศาลปกครอง” เลย
ว่าราชทัณฑ์ปกปิด-ช่วยเหลือนักโทษ ให้ไม่ต้องถูกขังคุก

ให้ราชทัณฑ์นำหลักฐานการรักษาพร้อมความเห็นแพทย์มาแสดง
ว่าป่วยด้วยโรครุนแรง รักษา ๑๒๐ แล้ว ก็ยังอยู่ในขั้นอันตรายต่อชีวิตจริงหรือไม่?

ให้ราชทัณฑ์นำหลักฐานและภาพถ่ายนักโทษทักษิณนอนป่วยทุกๆ ๒ ชั่วโมงมายืนยัน
ให้ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล และผู้กำกับสน.ปทุมวัน นำหลักฐานการส่งเจ้าหน้าที่และรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่มาเข้าเวรเฝ่านักโทษชั้น ๑๔ มายืนยัน

ให้ราชทัณฑ์นำหลักฐานมายืนยันว่า ได้แจ้งรพ.ตำรวจให้มาตรวจซ่อมกล้องวงจรปิดที่เสียหรือไม่?
เพราะตามกฎในห้องผู้ป่วยนักโทษ ต้องมีกล้องวงจรปิดคอยตรวจจับความเคลือนไหวตลอด ๒๔ ชั่วโมง

เนี่ย….
แค่ไปฟ้องศาลปกครอง ให้ราชทัณฑ์เปิดเผยข้อมูลจะเข้าท่ากว่า เพราะทักษิณไม่เคยบอกว่าเขาป่วย

มีแต่ “ราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ” เท่านั้น ที่ออกมาบอกว่านักโทษทักษิณป่วยถึงขั้นอันตรายชีวิต

เมื่อว่าป่วย ราชทัณฑ์ก็เอาหลักฐานมาแสดง
แสดงไม่ได้ “อธิบดี-ผบ.คุก “จะได้ “เข้าคุก” แทนทักษิณ!

เปลว สีเงิน
๑๓ มกราคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
“น้อยกว่านี้” ก็ไม่ใช่ “บุ้ง” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน เมืองไทยนี้ดี…. ใน ๑ ปี มี “ปีใหม่” ๓ ครั้ง ๑ มกรา....
Read More
0 replies on “ยี่เก “กรรมาธิการตำรวจ” – เปลว สีเงิน”