อย่าเล่นกับความรำคาญ

เปลว สีเงิน

พอได้แล้วมั้ง …….
พวกรุ่นใหม่ “นรกแตก” ทั้งหลาย!
เห็นทางบ้าน-ทางเมืองตามใจเข้าหน่อย ไม่เอาเรื่อง-เอาความ ปล่อยให้สนุกตามประสาวัยแตกพาน
ก็ชักเลอะเทอะ เลยเถิด

อุดมกง-อุดมการณ์บ้าบออะไรที่ไหน ทุกอย่างมันไร้สาระ แค่ไอ้หมูตะกละรอชั่งกิโลพล่านระรานแลกรำไปวันๆ ชาวบ้านเขาทั้งเหม็น ทั้งรำคาญ รู้มั้ย?เรียนรัฐศาสตร์ การเมืองแนวคิดยุโรปเข้าหน่อย ถูกพวกจานเป่าตูดอีกนิด ทำเป็นตำราขึ้นสมอง

คงเข้าใจว่าการล้มล้างสถาบันบ้านเมือง มันใช่และสนุกเหมือนเด็กเล่นจ้ำจี้ตามหนังสือปกขาวกระมัง?
ช่างไม่ประสีประสาอะไรเล้ย ……..

ไอ้ปิ๊มันประดิษฐ์วาทกรรมอะไรมาให้ ก็พล่ามตามไปเรื่อย เดี๋ยวจะสานต่อเจตนารมณ์คณะราษฏร ๒๔๗๕ เดี๋ยวจะเจริญรอยตีน แซง-ฌุชต์ ปฏิวัติ “ล้มเจ้า” อย่างฝรั่งเศส
พอมุกแป้ก ก็เอาใหม่ …….
คราวนี้จะเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ ซอยประเทศแบ่งกันไปเป็นเจ้าเมือง มีประธานาธิบดีครอบ
เจอชาวบ้านชูส้นตีนให้ เปลี่ยนใหม่ คราวนี้ไปเป็นระบบมาร์กซิสต์ ระบบคอมมิวนิสต์… ไปโน่น

ไอ้เบื๊อก-อีบ้าเอ้ย…
แบบนี้น่ะเรอะ คือนิสิต-นักศึกษา ที่ธนาธร-ปิยบุตร ปลุกเสกให้เป็นแบรนด์ “ผู้นำรุ่นใหม่” จะมานำประเทศไปสู่อนาคตที่ดีกว่า?
เมื่อวาน (๑๐ ธค.) วันรัฐธรรมนูญ “ทอน-ปิยบุตร” คงไม่ได้เป็นพ่อของฟ้าซะแล้วมั้ง?

เห็นกิจกรรมที่จัดกัน ชู LGBT ปวิน ขึ้นทูนเทิดเป็นบิดาคนรุ่นใหม่แทนแล้ว!

อยากให้สังเกต ม็อบ ๓ นิ้วตอนนี้ “นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา” ทั่วไป ที่ออกมาชุมนุม แทบไม่มีแล้ว เหลือแต่กลุ่มนำขบวนการ ซึ่งยากถอนตัว ก็ตกกระไดพลอยโจนไปเรื่อยๆ

แล้วที่เป็นอยู่ พวกไหน?
ก็พวกแดงส้ม “ทักษิณ-ธนาธร” เนื้อแท้ ที่ร่วมกันมาแต่ปี ๕๒-๕๓ โน่นแหละ
อย่าง “สมยศ” ตัวตั้ง-ตัวตี ที่ดุนตูดเด็กออกหน้าไปร้องยูเอ็นประเด็นมาตรา ๑๑๒ นั่นแดงรุ่น “สนิมคุก” จับเขรอะ

รุ่นใหม่ อย่าง เพนกวิน รุ้ง และอีกหลายคนบนเวทีวันนี้ พูดจาไม่รู้อหังการแบบเดิมๆหายไปทางไหนหมด สู้ฝืนๆ ฝืดๆ เหมือนแหยงเงาลูกตุ้ม

หรือจุกดินเนอร์ ทั้งบีฟ ทั้งแลมบ์ ทั้งก้ามปูดองเกลือจากฝรั่งเศส เคล้าไวน์แกล้มชีส ที่โรงแรมเอราวัน “เจ้าประจำ” คืนวาน ทั้งคณะจึงอืดๆ ไม่ต่างหมูกระเอือกรำจนเต็มคราบ!

ยังไม่ใช่ Last Supper
แต่สไตล์หนังไทย “ผู้ร้าย” กว่าจะตาย ต้องทุรน-ทุรายหลายตลบ แก๊ง ๓ นิ้ว ตะโกนล้มเจ้า “แลกไวน์” นี่เหมือนกัน ลึกๆในใจ รู้อนาคตตัวเองแล้วหละ
สู้เป็นธนาธร ถอยเป็นนักโทษ!

สิ่งที่รกสังคมตอนนี้ เปลี่ยนจากปิดถนนชุมนุม ไปเป็น แม้ไม่ชุมนุม “การ์ด” ก็ยังยกแก๊งกวนเมือง
อ้าง เป็นกิจกรรมอาสาด้วยชาวบ้านเรียกร้อง!

ประเด็นที่รัฐบาลต้องคิดตอนนี้ คือ การอาศัยความรำคาญม็อบจากชาวบ้าน แล้วให้สังคมชาวบ้านไปจัดการกันเองนั้น
ก็ไม่ผิด!

แต่อยากบอกว่า มันได้ช่วงหนึ่ง-ระยะหนึ่งเท่านั้น การปล่อยให้ผู้ใหญ่ “ตีตั๋วเด็ก” ทุราจารเมืองไม่หยุด-ไม่หย่อนแบบนี้ ความเดือดร้อน-รำคาญของชาวบ้าน จากปิดถนนบ่อยๆ นี่แหละ

จากรำคาญม็อบ…….
กระแสมันจะตีกลับไป “รำคาญรัฐบาล” ว่าไม่คิดจะทำอะไรให้บ้านเมืองสงบสุข ชาวบ้าน-ชาวช่อง ได้อยู่สบายกันบ้างหรือ?

ม็อบมันได้คืบก็เอาศอก เห็นรัฐบาล “เอ็นดูเด็ก” เด็กมันเลยสนุก
แต่ก่อนเลียบๆ เคียงๆ เมื่อพูดถึงเจ้า แต่ตอนนี้ มัน “ด่าเจ้า” โจ่งแจ้ง เต็มปาก-เต็มคำ

รัฐบาลก็ยังเอ็นดู แถมจับแล้วก็ปล่อย-ปล่อยแล้วก็จับ เป็นแมวเล่นกับหนู มันยิ่งได้ใจ
ก็ระวังเถอะ…….
รัฐบาล “เอ็นจะขาด”!
เพราะชาวบ้าน “หมั่นไส้-รำคาญ” ที่คลุมเครือก็ไม่เอา ที่โจ่งแจ้งก็ไม่จับ ไม่เอาอะไรซักอย่าง ปล่อยให้เด็กขี่คอ เอาไอ้จ๋อทิ่มปากอยู่นั่นแหละ

ทีนี้แหละ เจอ “แนวร่วมหัวกลับ” ทั้งชาวบ้านหมั่นไส้ ทั้งพวกตีตั๋วเด็กทะลวงไส้ รัฐบาลหงายท้องหงายไส้ได้ง่ายๆ อย่านึกว่าเป็นไปไม่ได้นะ
เพราะทุกวันนี้ มันเละเทะ

ไม่มีเหตุผลอะไร ที่ม็อบ ๓ นิ้ว อยากปิดถนนกินหมูกระทะ เต้นระบำ อยากจับคู่อิสรภาพทางเพศตรงไหน ก็แห่กันไปปิดตรงนั้น เอากันข้ามเดือน-ข้ามปี

คนดี เพราะความเป็นพลเมืองดีที่ต้องเอื้อเฟื้อกฎหมายต้องเข้าคุก-เข้าตะรางทันที ไม่รู้เท่าไหร่

แต่กับคนจัญไร อันตรายบ้านเมืองแบบนี้ กลับเมตตา-อภัยซ้ำซากกันเหลือเกิน
แล้วแบบนี้ คิดซิ…

ดี-ลำบาก, จัญไร-สบาย แล้วใครมันจะอยากลำบาก จริงมั้ย ในสำนึกพื้นฐานของคน?

คุยเรื่อง “สินบน ๒๐ ล้าน” กันซักนิด เพราะยังไม่สิ้นกระแสความ มีอัยการไปออกโทรทัศน์ ให้ความเห็นกรณีที่ดินทรัพย์สินฯ ตามเป็นข่าว ว่า
นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ลูกแม่สมพร น้องนายธนาธร “ถูกหลอก” เอาเงิน ในส่วนคดีจบแล้ว ไม่อาจรื้อฟื้นได้!

ก็มีผู้รู้ออกมาท้วงขรม อย่างน้อยก็ เช่น
Chuchart Srisaeng

นักกฎหมายท่านหนึ่งไปพูดในรายการโทรทัศน์ว่า นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกหลอก คดีจบแล้ว ไม่อาจรื้อฟื้นได้
ข้อเท็จจริงที่ยุติในคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อท 76/2562 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 228/2563 ของศาลศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตอนหนึ่งว่า

…..ต่อมานายสกุลธรได้จ่ายเงินให้จำเลยทั้งสองรวม 3 งวด เป็นเงิน 20 ล้านบาท เพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จำเลยทั้งสองจะร่วมกันไปติดต่อประสานงานและให้นำเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน โดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมาย

…..เพื่อจูงใจรองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ให้กระทำในหน้าที่ด้วยการจัดสรรที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้สิทธิการเช่าระยะยาว


……โดยไม่ต้องผ่านการประมูลตามขั้นตอนตามปกติของการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อันเป็นคุณแก่บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และทำให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เสียหาย

…..ข้อเท็จจริงที่ว่า นายสกุลธรให้จำเลยทั้งสองนำเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน โดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมาย ฯลฯ

……ย่อมแสดงให้เห็นได้ชัดแจ้งว่า นายสกุลธรมีเจตนาต้องการกระทำด้วยความสมัครใจของตนเอง ไม่ใช่เรื่องถูกหลอกแต่อย่างใด

……ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

…..มาตรา ๓๙ สิทธินําคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปดั่งต่อไปนี้

(๑) โดยความตายของผู้กระทําผิด
(๒) ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อได้ถอนคําร้องทุกข์ ถอนฟ้อง หรือยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย
(๓) เมื่อคดีเลิกกันตามมาตรา ๓๗
(๔) เมื่อมีคําพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง
(๕) เมื่อมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทําผิดยกเลิกความผิดเช่นนั้น
(๖) เมื่อคดีขาดอายุความ
(๗) เมื่อมีกฎหมายยกเว้นโทษ

กรณีของนายสกุลธรไม่เข้าข่ายคดีระงับตามมาตรา ๓๙ คดีจึงยังไม่จบ
พนักงานสอบสวนจึงยังทำการสอบสวนได้และเมื่อทำการสอบสวนเสร็จ ถ้าเห็นว่า นายสกุลธรกระทำผิด ก็ส่งสำนวนการสอบสวนไปให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลได้


กรณีของนายสกุลธรไม่ใช่เรื่องการรื้อฟื้นคดี เพราะยังไม่ถูกฟ้องคดีและศาลยังไม่มีคำพิพากษา

ครับ….
ต้องอาศัยระดับ “อดีตผู้พากษาศาลฎีกา” ชี้แนวกฎหมาย จะได้ไม่สับสน-ลังเลว่า จะเชื่อทางไหนดี

สรุป นายสกุลธร จะถูกข้อหาติดสินบน ๑๐๐%
ในเอกสารแถลงข่าวสำนักงานอัยการสูงสุด ที่แจกเมื่อ ๙ ธค.๖๓ บอกชัดเจนถึงขั้นตอนไว้แล้ว ว่า

“เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่ได้สอบสวนความผิดของ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ รวมทั้งไม่ได้ตั้งเป็นผู้ต้องหาและไม่มีการสอบปากคําใดๆ ไว้ในสํานวน
โดยพนักงานสอบสวนได้สรุปไว้ในรายงานการสอบสวนเสนอพนักงานอัยการว่า

“ในส่วนของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ พนักงาน สอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”

โดยแยกสํานวนดําเนินคดีต่างหาก ออกจากคดีนี้”

และตอนนี้ “พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม” ผู้บังคับการกองปราบ ตั้งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการกับนายสกุลธรแล้ว ในฐานความผิด

“เป็นผู้ใช้และสนับสนุนให้เจ้าพนักงานกระทำการทุจริต” คือ การติดสินบน!
ข่าวดีมาช้า “แต่ชัวร์” ในระบบยุติธรรม.


Written By
More from plew
ดู สส.แล้วย้อนดูกีฬา – เปลว สีเงิน
เมื่อวาน (๒ มิย.๖๕) ว้าวุ่นไปหมด ไม่รู้จะดูอะไรถูก! ทั้งอภิปรายงบฯในสภา ทั้งถ่ายทอดสดวอลเลย์บอลหญิง “เนชั่นลีกส์ 2022” จากตุรกี ทั้งถ่ายสดฟุตบอลเอเชียนคัพ จากอุซเบกิสถาน...
Read More
0 replies on “อย่าเล่นกับความรำคาญ”