12 มกราคม 2567 เวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 3 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในปีที่ผ่านมา เป็นไปตามเป้าหมาย โดยสามารถนำส่งเงินเข้ารัฐเป็นรายได้แผ่นดินสูงถึง 48,550.83 ล้านบาท
สำหรับการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก ทั้งแบบใบ 80 ล้านฉบับ และแบบดิจิทัล 22 ล้านฉบับ รวม 102 ล้านฉบับ ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สลากแบบดิจิทัล ที่ขายผ่านแอป “เป๋าตัง”
สลากขายหมดก่อนวันออกรางวัลทุกงวด เนื่องจากผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อเลขที่ต้องการได้ในราคา 80 บาททุกใบ และสะดวกในการรับเงินรางวัล ที่ระบบตรวจผลรางวัลให้อัตโนมัติและโอนเงินรางวัลได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทุกรางวัลรวมทั้งรางวัลที่ 1
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเพิ่มปริมาณสลากแบบดิจิทัลจะยังคงเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาด และไม่ให้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับผู้จำหน่ายสลากแบบใบ โดยในงวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 จะเพิ่มสลากฯ แบบดิจิทัล เป็น 23 ล้านฉบับ
และคาดว่าในปี 2567 จะทยอยเพิ่มเป็น 25-30 ล้านใบ เพื่อให้ตรงกับความต้องการซื้อของพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งปรับปรุงช่องทางการจำหน่ายสลาก เป็นแผงจำหน่ายสลากดิจิทัล เพื่อให้ผู้ขายได้มีโอกาสปรับตัวในการขายสลากแบบดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น
“หลังสำนักงานสลากฯ ได้ปรับรูปแบบการขายสลากดิจิทัล โดยผู้ขายสามารถเดินขายสลากแบบแผงสลากบนไอแพด และโทรศัพท์มือถือได้
วิธีการดังกล่าว ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสลากดิจิทัลให้มากขึ้น เพราะมีลักษณะคล้ายกับการจำหน่ายสลากแบบมีแผงจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเลขให้กับลูกค้าประจำ หรือการลดราคาสลาก เป็นต้น โดยการปรับปรุงช่องทางการจำหน่ายจะแล้วเสร็จและเริ่มใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลกล่าว
ในส่วนของสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก หรือ N3 นั้น เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาหวยใต้ดิน สำนักงานสลากฯ จะทดลองดำเนินการในลักษณะของ Sandbox เพื่อทดสอบช่องทางการจำหน่าย การกำหนดราคาขาย รวมถึงเงินรางวัลที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อให้มากที่สุด คาดว่าจะพร้อมเริ่มดำเนินการ Sandbox ของสลากตัวแลข 3 หลัก หรือ N3 ได้ในช่วงกลางปี 2567
และโดยที่ปัจจุบันมีความท้าทายรูปแบบใหม่ คือหวยจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเว็บขายสลากออนไลน์ที่อ้างอิงผลรางวัลจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเว็บขายสลากออนไลน์อื่นๆ ที่ใช้ผลรางวัลของสำนักงานสลาก รวมถึงการนำสลากใบไปโหลดขาย ดังนั้น คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
จึงมอบหมายให้สำนักงานสลากฯ ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อรองรับความท้าทายรูปแบบใหม่ และตอบโจทย์ผู้ซื้อต่อไป
สำหรับการจำหน่ายสลากผ่านตู้จำหน่ายต่างๆ ในลักษณะแฟรนไชส์ โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีสลากจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือขายเกินราคา รวมทั้งการนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปจำหน่ายต่อตามแพลตฟอร์มต่างๆ พฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้
คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กำชับให้สำนักงานสลากฯ เร่งดำเนินการแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางในการดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนผู้ซื้อสลากด้วยความบริสุทธิ์ใจต้องได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ ในบางกรณีกำลังอยู่ระหว่างจัดทำหนังสือแจ้งเหตุพฤติการณ์ไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับเป็นคดีพิเศษต่อไป