แก้ปัญหาน้ำ ! “อนุทิน” สานต่อ “ฝายแกนดินซีเมนต์” กักเก็บน้ำ พื้นที่นอกเขตชลประทาน

20 พฤศจิกายน 2566 อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง วาระแห่งชาติ : นโยบายแก้จนของประเทศไทย ในงานสัมมนา “การแก้ปัญหาความยากจน วิถีสู่ความสำเร็จและความเป็นอยู่ที่ดี” ใจความตอนหนึ่งว่า

ประเทศไทยได้มีการพัฒนาระบบชลประทานมายาวนาน ที่ผ่านมา การพัฒนาแหล่งน้ำ มักเน้นการสร้างโครงการขนาดใหญ่ และขนาดกลาง ซึ่งไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้น้ำของเกษตรกรได้ครบ อีกทั้งยังใช้งบประมาณมากและใช้เวลาก่อสร้างนานเกินไป ไม่ทันกับความต้องการในการแก้ไขปัญหาจากภัยแล้งให้กับประชาชน

ปัญหาของประเทศไทย ไม่ได้อยู่ที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยเกินไป แต่อยู่ที่ความสามารถของเครื่องมือที่จะกักเก็บน้ำฝน มีประสิทธิภาพน้อยเกินไป เพราะฉะนั้น การสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็ก โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงเป็นทางออกที่สามารถตอบโจทย์เรื่องความต้องการใช้น้ำทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตรของประชาชนในทุกพื้นที่ได้

นวัตกรรมฝายแกนดินซีเมนต์ ที่ทาง รองศาสตราจารย์ สังศิต พิริยะรังสรรค์ (ประธานคณะกรรมาธิการ การแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ของวุฒิสภา) และคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ ได้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการหนุนนำ จนกลายมาเป็นหนึ่งในนโยบายแก้จนของประเทศไทย ในวันนี้

ฝายแกนดินซีเมนต์ เป็นเครื่องมือกักเก็บน้ำขนาดเล็กที่สามารถออกแบบการกักเก็บน้ำในแต่ละพื้นที่ ได้ตรงตามความต้องการของชุมชนเกษตรกร ได้มากกว่าเครื่องมือกักเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถสร้างเสร็จได้ในเวลาอันรวดเร็วโดยใช้ระยะเวลาเพียง 5 – 15 วัน แม้ฝายแกนดินซีเมนต์จะมีขนาดเล็ก แต่ถ้าสามารถสร้างเป็นจำนวนมากได้ เราจะสามารถออกแบบให้มีปริมาณน้ำที่เพียงพอ

ฝายแกนดินซีเมนต์นี้ เป็นทั้งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านสังคม สร้างจากการใช้ดินในพื้นที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการทำฝาย ทำให้ต้นทุนการสร้างฝายต่ำ สามารถสร้างเสร็จได้ไว สร้างเสร็จแล้วประชาชนได้ใช้น้ำทันทีตั้งแต่วันแรก และที่สำคัญ คนในชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในการก่อสร้าง และซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับท้องถิ่น ถือเป็นแนวทางที่สอดคล้องเป็นอย่างยิ่งครับ กับหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง

ทราบว่า ฝายแกนดินซีเมนต์ตัวแรกถูกสร้างเมื่อปี 2558 โดยองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ จนถึงวันนี้ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าฝายแกนดินซีเมนต์ จะเป็นคำตอบสำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง

ในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและภาคอีสาน ได้รับการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมฝายแกนดินซีเมนต์จากคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ซึ่งถือว่าเป็นความกรุณาและเป็นประโยชน์ยิ่ง และผมก็เห็นพ้องกับท่านว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรรับหน้าที่ในการจัดหาแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อสร้างฝายต่อไป

“และเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากสถานการณ์เอลนีโญ กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด สั่งการให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากสถานการณ์เอลนีโญ โดยมีแบบมาตรฐานฝายแกนดินซีเมนต์ ซึ่งออกแบบโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองแนบส่งทุกจังหวัดแล้วด้วย”

Written By
More from pp
มั่นใจยิ่งขึ้น! ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ชูนวัตกรรมกำจัดเชื้อโรค Airpurity เป็นศูนย์การค้าแรกในเมืองไทย!!  ตอกย้ำจุดยืน ‘กิน ช้อป เที่ยว ปลอดภัย’ ในทุกตารางเมตร  
ศูนย์​การค้า​โรบินสั​นไลฟ์​สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล​ยกระดับคุมเข้มมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้า ด้วยการนำนวัตกรรม “Airpurity” (แอร์เพียวริตี้) วัสดุเคลือบผิวสัมผัสด้วยสารฆ่าเชื้อโรค (Anti-Microbial) ที่ได้รับการรับรองจากหลากหลายองค์กรด้านสาธารณสุขของโลกและในประเทศ มาใช้เป็นศูนย์การค้าแรกในเมืองไทย! ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 แผนแม่บท “โรบินสัน สะอาด มั่นใจ ในทุกตารางเมตร” ให้นักช้อป กิน ช้อป เที่ยว...
Read More
0 replies on “แก้ปัญหาน้ำ ! “อนุทิน” สานต่อ “ฝายแกนดินซีเมนต์” กักเก็บน้ำ พื้นที่นอกเขตชลประทาน”