คลิกฟังบทความ..⬇️
เปลว สีเงิน
เป็นคนไทย…..
ต้องเข้าใจคำว่า “เรื่องกิน-เรื่องเที่ยวเป็นเรื่องเดียวกัน”
ไม่งั้น “ว้าวุ่น” ตายห่ะ!
การบินไปประชุม UN ที่นิวยอร์ก ของนายกฯเศรษฐาขณะนี้ ก็เช่นนั้น
ผมเห็นสื่อและนักตรวจสอบสังคม “ตรวจสอบ” การใช้เงิน ๓๐ ล้านบาทของเศรษฐา ในการเช่าเหมาลำเครื่องบิน “การบินไทย”
ว่ามันสมควรและคุ้มค่ากันมั้ยบ้าง?
ขนไปทำอะไรกันตั้ง ๕๐ กว่าคนบ้าง?
มีใครไปกับเครื่องบินลำนั้นบ้าง?
กินอะไรกันนักหนา ๕๐ คน ค่าอาหารตั้ง ๑.๕ ล้านบาทบ้าง?
ก็ต่างๆ นานา เรียกว่าตรวจสอบกันยิบ ยิ่งกว่าขึ้นขาหยั่งในห้องคลอดซะอีก!
ผมก็อยากร้องเฮ้อแทนเศรษฐา แล้วตอบว่า
“ก็ผมเป็นนายกฯ ประชาธิปไตย ของประเทศที่ “นายกฯเผด็จการ” เขาตุนทองคำไว้ให้ มากเป็นอันดับที่ ๒๗ ของโลก อันดับ ๒ ของเอเชีย รองจากจีน ประเทศเดียว
และสะสมเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไว้ให้ มากอันดับ ๑๔ ของโลก แถมมีเงินให้ IMF กู้ไปอีกตั้งร่วม ๕ หมื่นล้านบาท
แล้วแค่เหมาเครื่องบิน ๓๐ ล้านบาท ยกคณะประเทศเศรษฐีไปโชว์ตัวบนเวทีโลก จะวอแวหาเรื่องอะไรกันนักหนา ผม…เศรษฐา นายกฯ มาจากเลือกตั้งนะ รู้ไว้ซะด้วย”!
ฮ่า….แบบนี้ หน้าแหกเลย
อีกอย่างที่ควรรู้
ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปี ๒๕๖๖ พระโคเสี่ยงทายกินเลี้ยง
ปรากฏว่า พระโคกินหญ้าและเหล้า มีคำพยากรณ์ว่า
“พระโคกินหญ้า” น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์
“พระโคกินเหล้า” การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขาย กับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง”
เห็นมั้ย…
การที่พระโค “กินหญ้า-กินเหล้า” หมายความว่า ทั้งอาหารการกินจะสมบูรณ์ และทั้งการคมนาคมจะสะดวกสบาย
ก็ตามนั้นเปี๊ยบ
นายกฯ เหมาลำเรือบิน ๓๐ ล้าน ยกคณะไปยูเอ็น
รองประธานอ๋อง ยกคณะไปดูงานที่สิงคโปร์ ล้านสาม
ก็ “พระโค” นำนี่นา!
จะ “ตกอก-ตกใจ” ไปทำไมกัน ก็บอกแล้ว “เรื่องกิน-เรื่องเที่ยว” สำหรับคนไทย “มันเรื่องเดียวกัน”
นี่แค่ “แซมเปิ้ล” เท่านั้นนะ ยังอีกหลายทริป เชื่อ(กู)เหอะ!
ผมไม่ติดใจหรอก ที่จะมีคนนอก เช่น เพื่อนนายกฯ ลูกสาวนายกฯ กระทั่งสำนักข่าวประจำขานายกฯ จะไปกับคณะเหมาลำ “เงินหลวง”
ก็เรือบินเหมาลำ ต้อนควายขึ้นไปอีกฝูง แถมฟางอีกซักตัน มันก็เรื่องของกู!
ฉะนั้น จะไปหยุมหยิมทำไม กับที่นายกฯ จะเอาใครติดตูดไปด้วย จำได้มั้ย ตอนทักษิณไป UN ๑๙ กย.ปี ๔๙
เนี่ย…เนี่ย..๑๘-๑๙-๒๐ กันยา.ตอนนี้เด๊ะ ที่ไปแล้วถูก “บิ๊กบัง” ยึดอำนาจปีนั้น นั่นน่ะ
ขาไป…ทักษิณนำ
ขากลับ ทักษิณแปลงเป็นสัมภเวสี แต่มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง มีคนฝากนั่งเรือบินกลับมาด้วย
นัยว่าพ่อตาย จะมางานศพพ่อ!
เขาก็ให้นั่งเรือบินหลวงกลับมา แต่พอมาเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ไปออกโทรทัศน์ แทนที่จะสำนึกบุญคุณ กลับกะล่อนเอาเท่ ว่า
“กลับแล้วไปไม่ทันงานศพพ่อ เพราะถูกทหารกักตัวที่ บน.๖”
ไอ้กะล่อน “เนรคุณ” คนนั้น ใคร..จำไม่ได้ก็เอา ๓ นิ้วยัดตูดตายซะ!
ที่ยกมาพูด ไม่ได้มุ่งประเด็น “ผิดหรือถูก” ที่เครื่องบินทางราชการ “เหมาลำ” เป็นพาหนะนายกฯ ไปราชการ
แต่กลับให้ “คนนอกบัญชี” ผู้โดยสารของเครื่องบินลำนั้น ประหนึ่ง “ลักลอบ” กลับมากับเครื่องด้วย ซึ่งสุ่มเสี่ยงมาก
เพราะถ้าคนนั้น มีแผนทางวินาศกรรมหรือทางจารกรรม ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ!?
ขนาดเครื่องบินโดยสารธรรมดา นั่งไม่ตรงหมายเลขในบัตรโดยสาร เกิดอุบัติเหตุ พูดได้คำเดียว “ตายฟรี”
ที่พูดนี่ เพราะผมอ่านที่……..
“รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี” ฝ่ายบริหาร ไม่ต้องเอ่ยชื่อเธอหรอก ในฐานะผู้จัดหาพาหนะ เธอให้สัมภาษณ์ชี้แจง
“กรณีเช่าเหมาลำเครื่องบินสายการบินไทยในภารกิจของนายกรัฐมนตรีเดินทางไปสหรัฐอเมริกา”
ผมว่า เรื่องบางเรื่อง เอาหูทวนลม เกิดประโยชน์กับฝ่ายตน มากกว่าที่จะพูดจาชี้แจง
ดูอย่างกรณีนักโทษเทวดา “ทักษิณ ชินวัตร” ซิ
ไม่มีใครเห็นกับตา ไม่มีหลักฐานยืนยัน มีแต่คำพูดลอยๆ จากราชทัณฑ์กับแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจเท่านั้น บอกว่า
“ทักษิณความดันขึ้นสูง ต้องนั่งฮ.กลางดึกมานอนรอยัล สวีท ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่คืน ๒๓ สิงหา.
จนบัดป่านนี้ ความดันยังไม่ลด ต้องนอนโรงพยาบาลแทนห้องขังร่วมเดือนแล้ว”
แต่ไม่เคยมีพยานหลักฐานใดๆ ที่เชื่อถือได้มายืนยันเลยว่า “นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ” ตัวเป็นๆ นอนป่วยอยู่จริงที่โรงพยาบาลตำรวจ”
ทั้งสังคม ทั้งสื่อ ทั้งองค์กรตรวจสอบ ทวงถามอย่างไร ทั้งรัฐบาลในทักษิณอุปถัมภ์ ทั้งราชทัณฑ์ ทั้งโรงพยาบาลตำรวจ
เล่นบท “จ่าเฉย” ลูกเดียว!
ไปถามผบ.ตร.ท่านก็โบ้ย “ตำรวจไม่เกี่ยว” นักโทษเทวดาอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของราชทัณฑ์
สังคม-สื่อ ทวงถามจนเหนื่อย หงายท้องแอ้งแม้งไปเอง จนเมื่อวาน (๑๙ กย.๖๖) อุ๊งอิ๊งกับแพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ พูดไปทางเดียวกันว่า
“ทักษิณเพิ่งผ่าตัด อยู่ระหว่างพักฟื้นไม่มีกำหนดออก”!?
ป่วยโรคอะไรต้องผ่าตัด ผ่าตัดจริงมั้ย มีตัวตนมั้ย อาการยังต้องอยู่โรงพยาบาลไม่มีกำหนดจริงมั้ย?
ปกติ ราชทัณฑ์จะแถลงแจ้วๆ ดูอย่างพวกรุ้ง เพนกวิน ตอนป่วยซิ ราชทัณฑ์แถลงอาการ มีทนายเป็นพยานสังคม
แต่รายทักษิณ มีแต่ สายลม แสงแดด ส่วนจะมีถุงขนมด้วยหรือไม่นั้น ต้องจุดธูปถามสื่อประเภท “อึ่งไข่”!
กรณี เศรษฐา “เหมาลำ” ไปยูเอ็น
ถ้าชี้แจงแบบนี้ สู้รองเลขาฯนายกฯ ไม่ชี้แจงเสียเลย จะเป็นคุณมากกว่า
ในเมื่อ “เหมาลำ” จะต้องมาแจงทำไม่ เรื่อง นายกฯ จะนั่ง Business Class หรือ First Class หรือใครจะนั่งตรงไหน?
เหมาลำไปแล้ว อยากนั่งตรงไหนก็นั่งไปเถอะ พวกคุณกันเองทั้งนั้น
จะถอดสูท นุ่งผ้าขาวม้านอนพื้น ให้สื่อนอกทำเนียบที่หนีบไปด้วย ถ่ายคลิปโชว์ ว่าเป็นนายกฯ ที่เท่าเทียมกัน
ก็ตามสบาย ไม่มีใครว่า แม้ ๓๐ ล้านนั้น เงิน “ภาษีกู”
กูก็ไม่ว่า!
เมื่อเหมาลำตกลงราคากันแล้ว อยากชี้แจงก็ชี้ในกรอบคู่สัญญาการบินไทยก็พอ
การสร้างความชอบธรรมในด้านต่อรองได้ราคาถูก ๓๐ ล้านนั้น ก็ว่าไป
แต่ไม่ควรไปยกราคานั้นไปเหยียบคู่เจรจาอีกเจ้าให้เขาเสียหาย
อย่างที่ว่า “เครื่องบินกองทัพอากาศ” คิดแพงกว่าบ้าง
ไม่รับประกันเรื่องเวลาเดินทาง กองทัพอากาศถ้าเกิดติดภารกิจขึ้นมา ก็จะให้บริการไม่ได้ตามเวลาบ้าง
นี่มันการบิน ยุค พศ.๒๕๖๖ แล้วนะ คุณรองเลขาฯ จ๋า
ไทยทำดาวเทียมได้เอง และจะยิงขึ้นสู่อวกาศสอง-สามวันนี้แล้วนะคุณ
ไม่ใช่รถเมล์ ยุค พศ.๒๕๐๐ ที่เดี๋ยวออก..เดี๋ยวออก
แต่รอครึ่ง-ค่อนชั่วโมง คนไม่เต็ม ก็ไม่ออกซักที!
คุณรองเลขาฯ ชี้แจงแบบนี้ เขาเรียกว่า “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” ไม่ควรทำนะจ๊ะ..นะจ๊ะ
เรื่องอาหาร ๕๐ คน ล้านห้าแสนเหมือนกัน จะอ้างอะไรก็ อ้างไป แต่การอ้าง ไม่ใช่อาหารทั่วไป ต้องผ่านการตรวจสอบด้านความสะอาดนั่นน่ะ
คุณรองเลขาฯจ๋า “ไก่ไทยไปอวกาศ” แล้วนะจ๊ะ ไม่เชื่อไปถาม ซีพี.!
เรื่องลูกสาวนายกฯ เหมือนกัน ก็ใส่บัญชีคณะติดตามหรือทำงานนายกฯ ซะก็สิ้นเรื่อง ดูอย่างนพ.ชลน่านซิ “เมียมาคุม” นักเรอะ
ตั้งเป็น “คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีสาธารณสุข” ขลุกอยู่ด้วยกันเป็นสุริยันคู่จันทราไปเลย!
การที่รองเลขาฯ ชี้แจงว่า ลูกสาวนายกฯ จ่ายเงินเอง ทั้งค่าเครื่องบิน ค่าอาหาร ค่าที่พัก จิปาถะนั้น
นี่มันประจาน ไม่ใช่ชี้แจง!
ถ้ายืนยันว่าชี้แจง ระวังนะ จะเจอข้อหาไม่สุจริตต่อหน้าที่ เพราะเครื่องบินเหมาลำ เงินหลวงแทงบัญชีจ่าย ๓๐
แล้วบอก ในส่วนลูกสาวนายกฯ จ่ายเองทั้งหมด ถามว่า จ่ายให้ใคร ใครออกใบเสร็จ เงินก้อนนั้นอยู่ที่ไหน จะทำบัญชีส่งเงินส่วนนี้คืนหลวงด้วยข้ออ้างแบบไหน?
และถ้าในการเดินทางมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ลูกสาวนายกฯ ซึ่งถือเป็น “บุคคลนอกบัญชีคณะเดินทาง” ใครจะรับผิดชอบ?
ความจริง ผมไม่ได้ติดใจอะไร กับเรื่องเหมาลำ ๓๐ ล้านไปนิวยอร์ก เพราะเข้าใจ ว่านี่แหละ “ประชาธิปไตยกินได้”
ผมรู้ตัว ว่าผมโง่ จึงดักดานอยู่อย่างนี้ จนจะแก่ตาย
แต่ไม่อยากให้ถึงขั้นงั่ง
จนไม่รู้ว่า นั่งทำเนียบไม่ถึง ๗ วัน มันก็ฟันกันแล้ว!
เปลว สีเงิน
๒๐ กันยายน ๒๕๖๖