‘สารตั้งต้น’ ตั้งรัฐบาล – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เรียบร้อยครับ!

สารตั้งต้น ในการตั้งรัฐบาล เพื่อไทย จับมือ ภูมิใจไทย รวมแล้วได้ ๒๑๒ เสียง

ที่จริงต้องบวก ๙ เสียงจากพรรคประชาชาติเข้าไปด้วย เพราะเพื่อไทยฝากเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้ที่นั่น

ก็จะเป็น ๒๒๑ เสียง

แต่ยังขาดอีก ๒๙ เสียง

เป็นไงครับ…หน้าตาออกมาเริ่มเหมือนรัฐบาลไทยรักไทยเข้าไปทุกที

“ไล่หนู ตีงูเห่า” กลายเป็นอดีต

ถ้าพรรค ๒ ลุงมาด้วย ก็แทบจะเป็นแพะกับแกะ

หลายวันมานี้วุ่นวายเพราะ คนตั้งไม่ยอมพูด คนพูดไม่ได้ตั้ง ถ้าเอาเหตุผลตั้งรัฐบาลได้ หรือไม่ได้ มากองตอนนี้ คงพะเนินเทินทึกเป็นภูเขา

สูตรเยอะเหลือเกิน มาหลากหลายรูปแบบ มีแม้กระทั่ง พรรคเพื่อไทย ย้ายกลับขั้วเดิม ไปจับมือกับพรรคก้าวไกลอีกครั้ง

ปล่อยข่าวกันน่าเวียนหัว

บางสูตรเยอะจนน่ากลัว เพราะตั้งใจล็อกผลมากจนเกินไป ดูแล้วไม่งาม แทนที่จะจบ กลับกลายเป็นว่าจะสร้างปัญหาตามมาในภายหลังได้

เพื่อไทยจะกลับไปจับมือกับก้าวไกลอีกครั้งจริงหรือ?

สถานการณ์ตอนนี้เพื่อไทยทัวร์ลงอย่างหนัก เสียมวลชนไปให้ก้าวไกลพอควร แต่ไม่ได้มากมายจนเพื่อไทยจะสูญพันธุ์ในระยะเวลาอันใกล้ได้

แต่นั่นมัน คือสถานการณ์ในโซเชียล

นอกโซเชียลอาจจะเป็นอีกเรื่อง

การที่เพื่อไทยจะกลับไปจับมือกับก้าวไกล เป็นเรื่องยากมาก ขณะที่เพื่อไทยจับมือกับพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ดูจะมีความเป็นไปได้มากกว่า

เพราะเพื่อไทยประเมินตั้งแต่แรกแล้วว่าการร่วมรัฐบาลกับก้าวไกล เพื่อไทยจะเป็นฝ่ายถดถอยจากสถานะกินน้ำใต้ศอก

เนื่องจากจุดสนใจของรัฐบาลไปอยู่กับ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และรัฐมนตรีของก้าวไกล มากกว่ารัฐมนตรีจากเพื่อไทย

การเลือกประธานรัฐสภาจึงเป็นหมากเกมแรกที่เพื่อไทยช่วงชิงมาได้สำเร็จ

หมากต่อไปจึงเป็นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

แต่ก็มีความคาดหวังว่าเพื่อไทยจะกลับไปสนับสนุน “พิธา” เป็นนายกฯ อีกครั้ง

มาจากการเก็งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ!

หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมรัฐสภาที่ห้ามโหวตชื่อนายกฯ ซ้ำนั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แน่นอนว่าก้าวไกลจะเสนอชื่อ “พิธา” อีกรอบ

แต่นี่คือการประเมินการเมืองที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง

เสนออีกครั้งก็ร่วงเหมือนรอบแรกอยู่ดี แถมได้คะแนนน้อยกว่าเดิม เพราะเพื่อไทยก้าวไปอีกขั้นแล้ว

ขณะเดียวกันโดยข้อเท็จจริงในขณะนี้ ต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาเป็นคุณกับพรรคก้าวไกลก็ตาม แต่จุดตายของก้าวไกลคือ การแก้ ม.๑๑๒ ต่างหาก

และอีกกรณีที่จะตามมาหลังจากนี้ซึ่งสำคัญมาก คือคดีที่ “พิธา” กับพรรคก้าวไกลนำ ม.๑๑๒ ไปหาเสียงเลือกตั้ง ที่ถูกร้องว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง

ถึงขั้นยุบพรรค!

จึงมีความเสี่ยงสูงหากเพื่อไทยไปตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล

รัฐบาลอาจพังในเวลาไม่ถึงปี

ในการแถลงข่าววานนี้ (๗ สิงหาคม) จึงมีความชัดเจนทั้งจาก ภูมิใจไทย และ เพื่อไทย คือรัฐบาลใหม่ ไม่มีก้าวไกล ไม่มีการแก้ ม.๑๑๒

ฉะนั้นก้าวไกลไม่ต้องคิดมาก เอาเวลาที่เหลือเตรียมตัวเป็นฝ่ายค้านอีกครั้งจะเป็นประโยชน์กว่า

ก็มาถึงการแถลงข่าวยืนยันสารตั้งต้นในการตั้งรัฐบาล ดูเหมือนว่าดีลจบไปแล้ว เหลือแค่ทยอยเปิดตัวหลังจากนี้

ลองลุ้นกันซิครับว่ามีพรรคไหนบ้าง

ตอนหนึ่งของการแถลงข่าว “ชลน่าน ศรีแก้ว” บอกว่า…

“…พรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว

แต่เรายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว…”

ก็แสดงว่ารวมเสียงได้เกิน ๒๕๐ เสียงแล้ว

มีพรรคอะไรบ้าง

๘ พรรคเดิมที่ติดสอยห้อยตามมาแน่ๆ นอกจากพรรคประชาชาติแล้ว ยังมีอีกหลายพรรค

พรรคเสรีรวมไทย ๑ เสียง

พรรคเพื่อไทรวมพลัง ๒ เสียง

พรรคพลังสังคมใหม่ ๑ เสียง

ส่วนอีก ๒ พรรคคือ พรรคไทยสร้างไทย ๖ เสียง พรรคเป็นธรรม ๑ เสียง ยังเหนียมอยู่

รวม เพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาชาติ เสรีรวมไทย เพื่อไทรวมพลัง และพลังสังคมใหม่ ได้ ๒๒๕ เสียง ยังไม่ถึงครึ่ง

ฉะนั้นการที่ “หมอชลน่าน” บอกว่ารวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งแล้ว จะต้องมีฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลเดิมนอกเหนือจากภูมิใจไทย ได้ปิดดีลไปแล้ว มากกว่า ๒ พรรค

พรรคแรกคือชาติไทยพัฒนา ๑๐ เสียง

รวมเป็น ๒๓๕ เสียง

หากต้องเติมให้เกินกึ่งหนึ่ง ก็ยังขาดอีก ๑๕ เสียง

พรรคประชาธิปัตย์ยังมีความไม่แน่นอนสูงมาก เพราะยังหาหัวหน้าพรรคไม่ได้ การปิดดีลจึงแทบเป็นไปไม่ได้

ไม่นับพรรคเล็กพรรคน้อยอีก ๔-๕ เสียง ก็เหลือพรรค ๒ ลุง

พลังประชารัฐ ๔๐ เสียง

รวมไทยสร้างชาติ ๓๖ เสียง

๒ พรรคนี้ปาเข้าไป ๗๖ เสียง

สรุปเบื้องต้นหากไม่มีพรรคลุง เพื่อไทยยังตั้งรัฐบาลไม่ได้

ฉะนั้นที่บอกว่าดีลได้เกินครึ่งแล้ว ก็น่าจะปิดดีลกับพรรคลุงพรรคใดพรรคหนึ่งไปแล้วนั่นเอง

แต่สุดท้ายแล้ว เพื่อไทยต้องดึงไปทั้ง ๒ ลุง เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล

ไม่เกินจริงครับ เพราะการแถลงข่าวในครั้งนี้ได้เกิดมิติใหม่ทางการเมืองขึ้นมา นั่นคือคำพูดของ “ภูมิธรรม-ชลน่าน” ที่บอกตรงกันว่า “ทุกพรรคมาจากประชาชน”

เผด็จการสืบทอดอำนาจหายไปซะงั้น!

Written By
More from pp
“กรมการแพทย์” เผยประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ชี้มาเร็ว-รักษาเร็ว-หายเร็ว
กรมการแพทย์ เผยประสบการณ์ การดูแลผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน กว่า 200 ราย ชี้เข้ารับการรักษาเร็ว โอกาสหายเร็ว เตรียมถ่ายทอดองค์ความรู้บริหารทรัพยากรร่วมกันให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ พร้อมขยายเตียงและหอผู้ป่วยวิกฤตหากพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
Read More
0 replies on “‘สารตั้งต้น’ ตั้งรัฐบาล – ผักกาดหอม”