คลิกฟังบทความ…⬇️
เปลว สีเงิน
“บ้านเรา”
เลือกตั้งแล้ว ยังไม่ได้ตัวนายกฯ
เพื่อไทย “พ่อม่าย ๘ เมีย”
เพิ่งใช้ฤกษ์ “วันเสียงปืนแตก” ประกาศแต่งงานรอบ ๒ กับภูมิใจไทย “กิ๊กเก่า” ไปเย็นวาน(๗ สค.๖๖)นี้เอง
โดย ๒ พรรค ลงขันเป็น “กองทุนครอบครัวใหม่” รวม ๒๑๒ เสียง!
๒๑๒ จันทร์กับอาทิตย์อยู่ระนาบเดียวกัน อะไรจะเกิดขึ้น “สุริยคราส” ไงล่ะ ที่เกิดขึ้น!
ไปดูทาง “บ้านเขา” บ้าง
ที่เขมร….
“พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี” โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “พลเอกฮุน มาเนต” ผู้บัญชาการทหารบก วัย ๔๕ ปี เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว
จะขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ “แทนพ่อ” ในวันที่ ๒๒ สิงหา.นี้!
ก็เพียง “บอกให้รู้” ไม่มีนัยเป็นอย่างอื่น เพราะบ้านเรา ถึงจะยัง “ไม่มีนายกฯ-ไม่มีรัฐบาลใหม่” ก็ไม่มีเป็นปัญหา
ตราบใดที่ยังมี “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯของคณะรัฐบาลรักษาการ
เข้าตามตำราที่ว่า “ช้าเป็นกาล-นานเป็นคุณ” ด้วยซ้ำ!
แต่ถ้านานถึง ๑๐ เดือน เป็น “ลูกกรอก” แน่
แค่ซักกันยา.-ตุลา.ละพอได้ จะเข้าตามตำราที่ว่า “ช้าเป็นกาล-นานเป็นคุณ”
คงได้ดูข่าว “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ประกาศหมั้นต่อสาธารณชน พร้อมทั้ง ๕ แนวทาง ในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลไปแล้วนะ
จะไม่เอามาลงให้ดูทั้งหมด แต่จะตั้ง “ข้อสังเกต” บางประเด็นเพื่อการพูดคุยวันนี้
ประเด็นแรก คือ……..
ภาพรวมของคำ “แถลงร่วม” เป็นการให้ภาพกว้างเท่านั้น ยังไม่ลงรายละเอียด ว่าจะมีพรรคใดมาร่วมบ้าง
ประเด็นที่สอง ที่ต่างจากครั้งร่วม ๘ พรรค เห็นชัดคือ ครั้งนั้น ระบุตัวคนที่จะเสนอเป็นนายกฯ ต่อรัฐสภาลงไปเลยว่า คือ “นายพิธา-ก้าวไกล”
แต่ครั้งนี้ เพื่อไทยไม่ระบุว่าจะเอาใครเป็นนายกฯ บอกเพียงว่า เพื่อไทย+ภูมิใจไทย= ๒๑๒ เสียง เป็นเพียง “สารตั้งต้น” เท่านั้น
จากนี้ ก็จะไปเชิญพรรคที่เห็นสมควรมาร่วมอีก ยืนยันว่า รวบรวมเสียงได้ “เกินครึ่ง” แน่นอน
ประเด็นที่ ๓ จากข้อที่ ๕ ของแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล บอกว่า….
“การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ เปิดกว้างให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี…”
นับเป็นประเด็นน่า “สะดุดคิด” มาก
ในความที่ไม่ระบุมีพรรคใดร่วมด้วย แต่กลับบอกว่า “เปิดกว้างให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี”
นั่นเท่ากับบอกเป็นนัยว่า….
นอกจากสว.ที่ไปหว่านล้อมมายกมือให้แล้ว
ยังจะมี สส.จากพรรคอื่นๆ เป็นก๊วน-เป็นแก๊ง “แปลงร่างเป็น งูเห่า” มายกมือให้อีกตะหาก!?
ปูเลี่ยนๆ ชอบพิกล?
เห็นชลน่านบอก “ไม่เอาพรรค ๒ ลุงมาร่วม” นั่นก็ยังมีพรรคอื่นให้นำมาร่วมจนมีเสียง “เกินครึ่ง” ได้อยู่
เช่น ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า และพรรคเล็กๆ อีก ๒-๓ พรรค ซึ่ง “พรรคประชาชาติ” ๙ เสียง ของประธานวันนอร์ ยืนโรงอยู่แล้ว
แต่แค่เสียงสส. “เกินครึ่ง” มันยังไม่พอที่จะโหวตเลือกคนที่เพื่อไทย-ภูมิใจไทยเสนอเป็นนายกฯได้
เพราะคนเป็นนายกฯ…
จะต้องได้เสียงสนับสนุน “มากกว่ากึ่งหนึ่ง” ของสภาทั้ง ๒ นั่นคือ ต้องได้เสียง ๓๗๖ เสียงขึ้นไป
พรรคไหนล่ะ ที่มีสส.มากพอให้เพาะ “รังงูเห่า?
ถ้าจะมี ก็คงไม่หนี พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์ เท่าที่สดับตรับฟัง จะกระเดียดไปทางนั้น
ส่วนจะมีจาก “พรรคก้าวไกล” ด้วยหรือไม่นั้น ต่อให้บริษัทประกันภัย ก็ไม่กล้ารับประกัน!!!
ทั้งหมดนี้ เป็น “ภาพรวม” ในข้อสังเกต
ทีนี้ อยากโฟกัสซักนิด
เพื่อไทยแน่ใจหรือ ที่จะไม่เอา “พลังประชารัฐ” ของลุงป้อมร่วมด้วย?
ส่วน “รวมไทยสร้างชาติ” ผมยัง “กึ่งเชื่อ” ในความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้ ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วม
การแถลงร่วม “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” เมื่อวาน ถึงออกตัวว่า “แค่สารตั้งต้น” แต่คนดูส่วนหนึ่งบอกว่า
น่าจะเป็น “ก๊าซระเหย” ซะละมากกว่า?
เคยเห็น “หนัง-ละคร” เรื่องไหนบ้าง ที่ประกาศเปิดกล้อง-เปิดการแสดง โดยไม่ประกาศว่า ใครคือ “พระเอก-นางเอก”?
ฉันใด ก็ฉันนั้น….
ครั้ง “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ประกาศร่วมตั้งรัฐบาล ๘ พรรค ประกาศเปรี้ยง ดาราแสดงนำคือ “พิธา”
แต่ครั้งนี้ “เพื่อไทย” จับมือ “ภูมิใจไทย” กลับเลี่ยงเอ่ยถึง “เอาใครเป็นนายกฯ”!?
มันผิดธรรมชาติไปนิดนะ ชวนให้แฟนๆ สงสัย อุบไต๋ไว้เพื่ออะไร?
เพราะทุกคนอ่านออก ว่าก่อนที่เพื่อไทย-ภูมิใจไทยจะแถลงร่วม ต้องผ่านการเจรจาและลงตัวกันแล้ว จะให้ใครเป็นนายกฯ
กระทั่ง “เศรษฐา” ที่เพื่อไทยเคยประกาศ จะเสนอชื่อเป็นนายกฯต่อรัฐสภา เมื่อ ๔ สิงหา.
เมื่อวาน “หลุดหาย” ไปกับโพสต์ของแอร์สายการบินไทย ชนิด ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี
เฮ้อ…เมืองไทย “นายกฯทิพย์” เยอะจัง !
นี่…ตรงนี้ แสดงว่าในความเป็น “สารตั้งต้น” ของ ๒ พรรคยังมีอะไรๆ ต้องไป “ทำการบ้าน” ร่วมกันที่ยังไม่สะเด็ดน้ำแม้ว
เอาเป็นว่า หลัง ๑๖ สิงหา.
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้ตีความ ในประเด็นว่า “นำชื่อพิธาที่ตกไปแล้วกลับมาเสนอซ้ำอีกได้ไหม” ออกมาแล้ว
นายกฯใหม่ที่ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” เสนอ จะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาถึง ๓๗๖ เสียงขึ้นไปมั้ย?
ในความเห็นผมนะ….
อย่าเพิ่ง “ฝันหวาน” ล่วงหน้ากันไปถึงขนาดนั้นเลย
แต่แรก ผมก็ว่า “ศาลไม่รับเรื่องไว้พิจารณา” ชัวร์
แต่พลิกล็อd ศาลฯกลับขอข้อมูลเพิ่มเติม และเมื่อไปอ่าน “ข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ” ที่แจ้งผลประชุมคณะตุลาการศาลฯ เมื่อ ๓ สิงหา.ท่อนที่ว่า
“ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม และเอกสารประกอบแล้วเห็นว่า
“……คำร้องนี้ มีประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมีประเด็นเชิงหลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม
จึงให้เลื่อนการพิจารณาสั่งคำร้อง และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป”
อืมมม….ไม่แค่ตีความเรื่องญัตติเสนอชื่อพิธาซ้ำ หากแต่ศาลฯ ท่านให้น้ำหนักไปถึงประเด็น
“หลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
ถ้าแบบนี้ ที่พูดกันว่า ๑๖ สิงหา.ศาลจะมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาสูง นั้น
ต้องคิดใหม่แล้วหละว่า กว่า ๗๐-๘๐% ที่ศาลฯจะรับคำร้องนี้ไว้พิจารณา!
ฉะนั้น ที่กะการณ์กัน พฤหัสที่ ๑๗ สิงหา.บ้าง ๒๔ สิงหา.บ้าง จะได้เปิดประชุมรัฐสภา โหวตเลือกนายกฯนั้น
“คิดผิด-คิดใหม่” ยังไม่สายซะทีเดียว!
ถ้าศาลฯรับไว้พิจารณา ก็โน่นแหละ อย่างเร็ว “กลางกันยา.” ถึงจะมีคำวินิจฉัยออกมาทางใด-ทางหนึ่ง
นี่ผมพิเคราะห์จากเนื้อหาดังกล่าวนั้นนะครับ ผิดก็ได้-ถูกก็ได้ ใครก็อย่าทึกทัก
สรุปแล้ว “ราหูอมเมือง” จริงๆ ทุกอย่างอึมครึม ที่ใช่-กลับไม่ใช่,ที่ไม่ใช่-กลับใช่ แถมเผลอๆ ที่ไม่นึก-ไม่ฝัน ดันปรากฏเปรี้ยงออกมา!
ผมเคยพูดเรื่อยเปื่อยว่า นายกฯคนต่อไป ไม่ป.ก็อ.
นี่ “อ.-อนุทิน” แพลมมาแล้ว
ส่วนจะมี ป.แซงทางโค้งตีคู่ อ.ด้วยหรือไม่?
โปรดรอซักครู่!
แล้ว “เศรษฐา” ผมล่ะ จะเป็นว่าวไร้ลมส่ง “ชักไม่ขึ้น” อย่างนั้นหรือ?
ก็ไม่รู้ซีนะ เห็นมีคนแนะว่า น่าจะไปหาพระตั้งชื่อใหม่
นัยว่า อักษร ศ.ไม่ถูกโฉลก
ให้เปลี่ยนเป็นอักษร อ.นำหน้า จะมีทั้งเดช ทั้งศรี ทั้งมนตรี และมณโฑ
เช่น “เอดอ๋า”
ได้เป็น “อาอ๊กฯ” อนอี้ อ๋ามอิบ อัว!