นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการนโยบาย พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยยึดยุทธศาสตร์ ทวงคืนประชาธิปไตย ตั้งรัฐบาลประชาชน
นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคเพื่อไทยยึดหลักการสำคัญคือทวงคืนประชาธิปไตย เพื่อตั้งรัฐบาลประชาชน โดยไม่ว่าพรรคใดก็ตามในฝ่ายประชาธิปไตยได้คะแนนเป็นลำดับ 1 ต้องเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล และวันนี้ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกล เป็นพรรคได้คะแนนลำดับ 1 จึงต้องเป็นผู้รวบรวมเสียงเพื่อตั้งรัฐบาลแต่ก็จะมีก้าวสำคัญ ทำอย่างไรที่จะให้สามารถตั้งนายกรัฐมนตรี ที่ต้องใช้เสียงสมาชิกรัฐสภาถึง 376 เสียง ซึ่งไม่ง่าย แต่มีสิ่งสำคัญรออยู่ 2 ด่านคือ
1. ต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ว่าแต่ละพรรคได้เสียงส.ส.จริงคือเท่าไร และอยู่ฝ่ายใดเท่าใด และ
2. การโหวตเลือกประธานรัฐสภาก่อน ก่อนที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องใช้เสียงมากกว่า 375 เสียงซึ่งไม่ง่าย เราก็ต้องทำทุกทางเพื่อให้เสียงไปถึง
ในด้านของนโยบาย พรรคเพื่อไทยคิดว่าการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรื่องการเปลี่ยนแปลงต้องสนใจเรื่องปากท้อง เราก็สามารถทำเรื่องโครงสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการขอให้ทำประชามติ จัดตั้ง ส.ส.ร. เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และระหว่างร่างรัฐธรรมนูญ เราก็สามารถทำเรื่องเศรษฐกิจได้อย่างเช่นเรื่องนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท
แต่เท่าที่ทราบทางพรรคก้าวไกลเขาก็ไม่ได้เชื่อว่าเงิน 560,000 ล้านบาทในห้วง 6 เดือนจะเกิดประโยชน์แท้จริงเขาก็คิดจะโยกเงินไปใช้ด้านอื่น เราก็คิดว่าถ้าคนที่เขาดูแลกระทรวงการคลังเขาเชื่อแบบนั้น พรรคเพื่อไทยมองว่าเราทำได้อีกหลายวิธี เช่นพรรคเพื่อไทยก็คือจะจัดการให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเข้าสู่การคลังของประเทศสักระดับหนึ่ง ก่อนแล้วค่อยย้อนกลับไปทำเรื่องคูปองดิจิตอล แต่ถ้าต่อมาเขายังไม่เห็นด้วยอันนี้ก็จะลำบากเพราะเราไม่ได้คุมเงินเราก็จะทำต่อไม่ได้
เรื่อง MOU ทางคณะกรรมการบริหารพรรคก็จะได้ประชุมและสรุปกันในเร็วๆ นี้ ส่วนเรื่องประธานรัฐสภาก็ยังไม่ได้เจรจากันไปถึงขั้นนั้น ก็ขอให้ติดตามความคืบหน้าต่อไป
