“ศ.ดร.นฤมล” ช่วย “ชญาภา” หาเสียงเขตยานนาวา ประกาศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ก็พร้อมผลักดันนโยบาย “บ้านประชารัฐ 360 องศา” ทันที ลั่น ยานนาวาต้องเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม เพิ่มรายได้ให้คนในชุมชน
เมื่อเวลา 12.30 น.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคและหัวหน้าทีมผู้ดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ชุมชนร่วมพัฒนาเชื้อเพลิง 2 เขตยานนาวา ช่วย น.ส.ชญาภา ปรีดาพากย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 7 เบอร์ 15 รณรงค์หาเสียง
โดยได้ร่วมกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในชุมชน พร้อมเยี่ยมชมโครงการบ้านมั่นคงที่พรรค ได้เข้ามาช่วยประสานความช่วยเหลือกับหน่วยงานต่างๆเพื่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในด้านการจัดหาน้ำประปา และน้ำเสียในชุมชน พร้อมนำเสนอนโยบายชุมชนเข้มแข็ง เพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อมที่ดี
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐต้องการผลักดันชุมชนร่วมพัฒนาเชื้อเพลิง 2 จากชุมชนแออัดสู่โครงการบ้านประชารัฐ 360 องศา เราอยากจะเข้ามาเป็นผู้ประสานงาน เพื่อให้โครงการดี ๆ เช่นนี้เกิดขึ้นได้ให้กับประชาชน เพื่อที่พวกเขาจะสามารถวางแผนชีวิตได้
ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสำหรับลูกหลานว่าจะเรียนที่ไหน ทำมาหากินตรงไหน ซึ่งโครงการบ้านประชารัฐนี้ไม่ว่าเราจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็น เราก็จะทำให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนเพื่อให้ชาว กทม.มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะบ้านที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดเพื่อให้มีชีวิตมีความมั่นคง ปลอดภัย และมีความสุข
“บ้านประชารัฐ 360 องศา ต้องมีการออกแบบและสร้างให้ถูกใจผู้อยู่มากขึ้น บริเวณภายในบ้านต้องตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่อง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือเด็กๆ ในครอบครัว นอกจากนี้ยังเห็นศักยภาพของเขตยานนาวาที่จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 4 วัด คือวัดทองบน วัดปริวาส วัดด่าน และวัดคลองภูมิ ที่เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐเห็นโอกาสส่งเสริมที่จะพื้นที่เขตยานนาวาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม เพราะพื้นที่ตรงนี้มีภูมิทัศน์วัดวาอาราม และแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถส่งเสริมให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมาเดินชมความงามของวัดในยามเย็น และส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้านำสินค้าในชุมชนมาขายเสริมสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้ด้วย
ด้าน น.ส.ชญาภา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ ๆ ผ่านมา ตนได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งตนมองว่า สวนทางกับผลสำรวจที่ออกมาว่ากระแสของพรรคพลังประชารัฐไม่ดี เพราะถ้าได้ลงพื้นที่จริงๆจะเห็นว่า ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นผู้สูงอายุ ให้การตอบรับนโยบายดูแลผู้สูงอายุของพรรคพลังประชารัฐอย่างดีมาก ทุกคนอยากให้นโยบายนี้เกิดขึ้นได้จริง และชื่นชมพรรคพลังประชารัฐที่ยังเล็งเห็นคุณค่าของพวกเขา
โดยสวัสดิการที่จะเพิ่มเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุแบบขั้นบันได โดยผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพ เพิ่มเป็น 3,000 บาทต่อเดือน, ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพ เพิ่มเป็น 4,000 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพเพิ่มเป็น 5,000 บาทต่อเดือน จะสามารถมาดูแลชีวิตของพวกเขาและลูกหลานของเขาได้
น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในชุมชนร่วมพัฒนาเชื้อเพลิง 2 มีการทำโครงการบ้านมั่นคงอยู่แล้ว แต่พรรคพลังประชารัฐจะเข้ามาต่อยอดให้เป็นบ้านประชารัฐ 360 องศา โดยพื้นที่ๆ ชาวบ้านอยู่ในตอนนี้เป็นที่ของการรถไฟ และที่ราชพัสดุ ซึ่งชาวบ้านก็มีความกังวลว่า ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะโดนไล่ที่ และเนื่องจากพื้นที่เขตยานนาวา ถือว่าอยู่ใจการเมือง และชาวบ้านแต่ละคนใช้พื้นที่ตรงนี้มานาน จึงต้องการอยู่ในพื้นที่ต่อไป
“โครงการบ้านประชารัฐ 360 องศาที่จะเกิดขึ้น จะทำให้พี่น้องประชาชนได้มีบ้านที่สวยงาม มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง และสามารถสร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมให้ได้ และเพื่อให้ชาวยานนาวาทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นภายในพื้นที่ตรงนี้ โดยที่ไม่ต้องมีใครต้องย้ายออกจากพื้นที่ไป ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพราะเราทำได้และทำทันที”น.ส.ชญาภา กล่าว