‘กัญจนา’ ลมใต้ปีก ประคองน้อง “อยากให้คนไทยได้ใช้งานวราวุธ”

4 ปี ในเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ ‘ท็อป’ วราวุธ ศิลปอาชา คือ สิ่งที่ทำให้ ‘หนูนา’ กัญจนา ศิลปอาชา ผู้เป็นพี่สาว คิดว่า น้องชายพร้อมแล้วสำหรับการรับไม้ต่อในตำแหน่ง ‘หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา’ จากตัวเอง
‘กัญจนา’ ย้อนความให้ฟังว่า ตั้งแต่ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ผู้เป็นพ่อจากไป ตัวเองคิดจะวางมือ เพราะบุคลิกส่วนตัวไม่ค่อยจะเหมาะกับการเป็นนักการเมือง เป็นคนที่คิดอย่างไร พูดอย่างนั้น ไม่ค่อยชอบออกสังคม ชอบอยู่อย่างสงบ

แต่ด้วยที่พ่ออยู่ในเส้นทางการเมือง ทำให้ต้องมาอยู่ตรงนี้ กระทั่งพ่อจากไป คิดว่าคงไม่เล่นแล้ว แต่พอดีน้องชายรักการเมือง อยากทำตรงนี้ จึงมาช่วยน้อง เพราะเรามีกันสองคนพี่น้อง

แต่การเลือกตั้งปี 62 นายวราวุธยังไม่มีโอกาสจะฉายแสงเท่าไหร่ แม้เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมมาก่อน แต่เป็นเพียงช่วงสั้นๆ ยังไม่ได้แสดงความสามารถเป็นที่ประจักษ์

ประกอบกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว มีผู้ใหญ่เข้ามาอยู่ในพรรคหลายคน อย่างเช่นตระกูลสะสมทรัพย์ จาก จ.นครปฐม คนในพรรคจึงอยากให้เป็นตนเองที่อยู่กลางเก่า กลางใหม่ อยู่ตรงนี้ก่อน จึงทำหน้าที่หัวหน้าพรรคมา 4 ปี

“แต่ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ท็อปในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงความสามารถ ผลงาน สะสมวุฒิภาวะในระดับที่สามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้ด้วยตัวเอง แล้วอายุท็อปจะ 50 ปีแล้ว หัวหน้าพรรคบางคนยังอายุน้อยกว่า จึงคิดว่าเป็นเวลาของท็อปแล้ว เราจึงเหมือนเป็นตัวเชื่อมในช่วงรอยต่อจากพ่อ”

อย่างไรก็ดี ‘อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา’ ที่ปัจจุบันขยับมาเป็น ‘ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค’ ระบุว่า แม้นายวราวุธจะพร้อมแล้ว แต่ยังต้องการลมใต้ปีก ฉะนั้น จึงจะยังเป็นลมใต้ปีกให้กับน้องอยู่

เช่นเดียวกับในพรรคที่มีผู้มีความรู้ความสามารถเลือกมาอยู่กับพรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนายกนก วงษ์ตระหง่าน นายชาติชาย พยุหนาวีชัย นายสันติ กีระนันทน์ รวมถึงคนที่ยังอยู่เดิม ทั้งนายนิกร จำนง และสมาชิกพรรค ล้วนแล้วแต่เป็นกำลังสนับสนุนที่มีคุณภาพของนายวราวุธทั้งนั้น

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีน้องๆ คนรุ่นใหม่ ที่แม้ยังลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้ เพราะอายุไม่ถึง แต่คือ อนาคตของประเทศ นายวราวุธอยู่ในวัยที่ไปได้ทั้งคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ ความสามารถพร้อมหมด และไม่ใช่เฉพาะที่ไปได้กับคนทุกรุ่น แต่ไปได้ในทุกระดับ ตั้งแต่หมู่บ้าน ท้องถิ่น ไปจนถึงระดับชาติ จึงเป็นเวลาของนายวราวุธแล้วที่จะเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยังกล่าวอีกว่า หากประชาชนได้นายวราวุธไปทำงานจะเหมือนได้ ‘คนสองคน’ ไปทำงานในคราวเดียวกัน เพราะตนเองจะอยู่เบื้องหลังนายวราวุธเสมอ ไม่ทิ้งไปไหน นอกจากนี้ นิสัยของตนเองคือ ไม่ชอบการโกหก ฉะนั้น สิ่งนี้จะถูกถ่ายทอดไปยังน้องชายเช่นกัน

“นิสัยของเราคือ ไม่พูดโกหกเลย เรารู้จักคำว่าพอ ไม่ได้ต้องการอะไร สิ่งนี้จะเป็นอะไรที่ค้ำจุนการทำงานของท็อปที่จะมีคุณสมบัติเรื่องนี้ ไม่ละโมบโลภมาก พูดจริง รับปากแล้วทำจริง ท็อปจะต้องมีคุณธรรมอันนี้ จะยัดคุณธรรมอันนี้อยู่ข้างหลังท็อปตลอดเวลา”

พี่สาวคนโตของบ้านศิลปอาชา ยังชี้ถึงจุดเด่นของน้องชายด้วยว่า เป็นคนไม่ขายฝัน นโยบายไหนที่พูดออกมาหรือกลั่นออกมาจะวิเคราะห์แล้วว่าเป็นเรื่องที่ทำได้จริง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ เป็นสิ่งที่แก้ปัญหาในวันนี้โดยไม่ก่อให้เกิดภาระในวันหน้า

ไม่ใช่ได้เงินเยอะแยะในวันนี้ แต่เสร็จแล้วชาติล่มจม หรือลูกหลานต้องเป็นหนี้ในวันหน้า สิ่งที่นายวราวุธและพรรคชาติไทยพัฒนาจะทำ จะไม่ลด แลก แจก แถม แต่ละนโยบายประชาชนต้องมีส่วนร่วม ต่อยอดพลังให้ประชาชนยืนได้ด้วยขาตัวเอง ซึ่งเป็นความเจริญที่ยั่งยืน เป็นการส่งต่อประเทศที่มีอนาคตที่งดงาม และแผ่นดินไทยที่ทรัพยากรธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์ไปให้ลูกหลาน

เมื่อถูกถามว่า คาดหวังกับน้องชายคนนี้ว่าจะพาพรรคชาติไทยพัฒนากลับไปอยู่ในจุดที่พรรคชาติไทยเคยยืนได้หรือไม่ ‘กัญจนา’ ยอมรับว่า ไม่อยากคาดหวัง แต่เอาเป็นว่าถ้าได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ทำให้ดีที่สุดในทุกวัน

“แต่เสียดายความสามารถในตัวท็อปถ้าไม่ได้ใช้ ทุกวันนี้ที่เรายังอยู่ในทางการเมือง เพราะต้องการจะส่งเสริมน้อง ทำประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างมีคุณธรรม จึงอยากให้เขาถึงจุดนั้น”

ทั้งนี้ พี่สาวของ ‘วราวุธ’ ได้พูดถึงกรณีที่มีคนชมนายวราวุธกับการทำงานในฐานะรัฐมนตรีว่าสามารถต่อยอดเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในอนาคต ด้วยว่า ได้ยินมาเช่นกัน แต่ต้องอาศัยสายตาของประชาชนและการสนับสนุนของประชาชนเป็นหลัก แต่นายวราวุธจะมีตนเองคอยประคับประคองให้เดินให้ตรงทาง เราจะช่วยกัน และที่รู้สึกดีใจ ทุกคนที่อยู่ในพรรคตอนนี้ เคมีตรงกัน ศีลเสมอกัน ไปทางเดียวกัน แม้แต่เรื่องนโยบายพรรคที่จะไม่ลด แลก แจก แถม ที่เห็นตรงกันหมด

อย่างไรก็ตาม ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมรับว่า สนามเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่งานง่ายของพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะยังเป็นพรรคที่ไม่ได้มีกระแสอะไรมากมาย แล้วยังมาเจอนโยบายประชานิยมอีก แต่อยากฝากประชาชนว่า แม้เราจะเป็นพรรคเล็ก แต่เป็นพรรคเล็กที่มีคุณภาพ ไม่ได้เป็นพรรคเล็กที่เกะกะไปหมด เป็นพรรคเล็กที่กระชับ มีคุณภาพ เหมือนพริกขี้หนู เม็ดเล็กแต่พริกเยอะ สามารถทำประโยชน์ได้มากมาย

“หากเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา ประชาชนจะได้พรรคที่มีผู้นำและสมาชิกพรรคที่มุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน มองอะไรด้วยสายตาที่เป็นจริง ไม่ขายฝัน ได้พรรคที่ทำงานให้ประชาชนแข็งแกร่งด้วยตัวเอง ประเทศชาติไม่เป็นหนี้เป็นสินในอนาคต จะได้พรรคที่สร้างโอกาสในอาชีพใหม่ๆ ขณะเดียวกัน จะได้พรรคที่เน้นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”

เมื่อถามว่า อีกนานหรือไม่ ‘ตระกูลศิลปอาชา’ จะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ‘กัญจนา’ พูดตามว่า ตอบไม่ได้ แต่ยอมรับว่า อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่นายวราวุธยังแข็งแรง

“อยากให้มันเกิดขึ้นในวัยที่ท็อปยังกระฉับกระเฉง ทำงานได้เต็มที่ เพราะเชื่อมั่นว่าท็อปจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนได้มาก ไม่ขอคาดหวัง แต่ขอตั้งจิตอธิษฐานช่วยให้น้องชายได้ถึงวันนั้น ไม่ได้เพื่อตัวเอง แต่อยากให้ประเทศชาติได้ใช้ความสามารถของน้องเพื่อประโยชน์อย่างประชาชนอย่างทั่วถึง”

เธอยังฝากด้วยว่า พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้ทำเฉพาะแค่ จ.สุพรรณบุรี และที่ผ่านมาพยายามสลัดภาพพรรคท้องถิ่นมาตลอด และจะต้องทำต่อไป ไม่เติบโตเร็วไม่เป็นไร แต่ค่อยๆ โตอย่างมั่นคง อนาคตอยากจะปักธงในทั่วทุกภาค อยากขอโอกาสประชาชนให้พรรคชาติไทยพัฒนามีตัวแทนของพรรคไปรับฟังปัญหาและแก้ปัญหาให้

Written By
More from pp
ปศุสัตว์ ฟ้องกลับ ‘อัจฉริยะ’ หมิ่นประมาททุจริต ‘หมูเถื่อน’
24 ตุลาคม 2566 อธิบดีกรมปศุสัตว์พร้อมนายด่านจังหวัดชลบุรี ยื่นฟ้องคดีอาญา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหาหมิ่นประมาทที่ศาลอาญา
Read More
0 replies on “‘กัญจนา’ ลมใต้ปีก ประคองน้อง “อยากให้คนไทยได้ใช้งานวราวุธ””