ผักกาดหอม
มีคนบอกว่าอาจไม่มีเลือกตั้ง
“ลุงตู่” ยังอยู่เป็นนายกรัฐมนตรีไปอีกระยะ
ก็ยังคิดไม่ออกครับว่า จะอยู่ต่อด้วยวิธีไหน
ถึงไม่ยุบสภาฯ “ลุงตู่” ก็ต้องลุกจากเก้าอี้ เพราะสภาฯจะหมดวาระลงปลายเดือนหน้า
ต้องมีเลือกตั้ง
ถ้าไม่มีจะขัดรัฐธรรมนูญ
ไทม์ไลน์การเลือกตั้งถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
ยุบสภาฯปุ๊บ ต้องเลือกตั้งภายใน ๔๕ ถึง ๖๐ วัน
สภาฯ อยู่ครบวาระก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้่งภายใน ๔๕ วัน
ออกได้หน้าเดียวครับ ไม่มีทางเป็นอื่น
ต้องเลือกตั้งเท่านั้น
แต่ถ้าจะต่ออายุ “ลุงตู่” จริงๆ ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ
แล้วใครจะทำหละครับ โดนด่าเละ
ไม่ควรทำเพราะกติกามันจะผิดเพี้ยนไปหมด ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ
อีกวิธีคือ รัฐประหาร!
วิธีนี้ก็ไม่ควรทำอีกแล้ว เพราะมันแก้ปัญหาไม่ได้จริง
สรุปคือ เลิกคิดเถอะครับว่าจะมีรัฐประหารก่อนเลือกตั้ง นอกจากอธิบายไม่ได้แล้ว ความขัดแย้งทางการเมืองจะรุนแรงมากกว่าเดิม
ฉะนั้นไม่น่าจะมีใครคิดทำแล้ว
ช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา ส่งสัญญาณกันชัดเจน ไปเลือกตั้งกันทั้งนั้น ทุกพรรคหาเสียงกันมันหยด ทั้งนักการเมืองหน้าเก่า หน้าใหม่ถอดด้าม ขึ้นเวทีปราศรัย เป้าหมายชัดเจน
ต้องการเข้าไปนั่งในทำเนียบรัฐบาลกันทั้งนั้น
สุดท้ายก็อยู่ที่ประชาชน จะอนุญาตให้ใครเข้าไป
ช่วงหาเสียงเลือกตั้งนับจากวันนี้ก็ ๒ เดือนนิดหน่อย เริ่มมีปรากฎการณ์ที่น่าสนใจ คนไม่ได้ลงเลือกตั้งมาหาเสียงแข่งกับคนที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง
บทบาทของ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” กำลังได้รับความสนใจจากสังคม
หาก “ชูวิทย์” ตั้งพรรควันนี้ คะแนนเสียงน่าจะถล่มทลาย
“เสี่ยอ่าง” ในคราบ “มือปราบโกง” เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ที่คนไทยน่าจะอยากลองอีกครั้ง
ทำไมคนถึงสนใจ “ชูวิทย์”?
การเปิดโปงทุนจีนสีเทา ส่วยในวงการตำรวจ แฉคอร์รัปชั่นในวงการเมือง นี่คือสิ่งที่ประชาชนโหยหามาแทบทุกรัฐบาล
เพราะปัญหาคอร์รัปชั่นมันกัดกินประเทศจนพรุนไปหมดแล้ว
“ชูวิทย์” ไม่ได้ตีเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้านก็โดน
นี่จึงเป็นปรากฎการณ์พิเศษบะหมี่สองก้อนเพิ่มหมูแดงก่อนการเลือกตั้งที่น่าสนใจจริงๆ
“ชูวิทย์” พูดถึงพรรคเพื่อไทย เหมือนที่กูรูหลายๆสำนักวิเคราะห์กันว่า ดีลดูไบ เป็นเรื่องจริง “อุ๊งอิ๊ง” เป็นเพียงตัวหลอก เพราะหลังเลือกตั้ง เพื่อไทยจะจับมื่อกับพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล
“ลุงป้อม” จะได้เป็นนายกฯ!
มองในมุมเพื่อไทยก็สมควรโกรธ
หยามกันชัดๆ หาเสียงแทบตาย ลุงคว้าพุงปลาไปกิน
มองในมุมพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เหมือนเสี้ยมให้แตกขั้วกัน
ฉะนั้นเสียงตอบโต้ “ชูวิทย์” จึงมาจากทุกทิศทาง
“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่มีตำแหน่งประหลาดๆ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย คือหนึ่งในนั้น
“…ตอนนี้กลายเป็นว่าคุณชูวิทย์เป็นคนกำหนดทิศทางประเทศ การทำหน้าที่ของคุณชูวิทย์ เราเคารพ แต่เห็นว่าที่คุณชูวิทย์เปิดมาหลายประเด็นเป็นประโยชน์ แต่วิถีทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยเราไม่มีอะไรปิดบังประชาชน
เป้าหมายชัดต้องการส.ส.แลนด์สไลด์ และถ้าเรายกมือให้คนอื่นเป็นนายกฯ เราจะตอบประชาชนอย่างไร ที่คุณชูวิทย์พูด แม้จะเป็นเรื่องตื่นเต้นแต่ถ้าฟังพรรคเพื่อไทยจะเห็นความจริงที่ชัดเจน…”
เห็นภาพเลยครับ
ตอนนี้คล้ายกับว่า “ชูวิทย์” พูดอะไรคนต้องเชื่อ
มีคนพร้อมเชื่อ “ชูวิทย์” ทุกคำพูดเยอะแยะไปหมด
เรื่องดีลลับดูไบก็เช่นกัน
เพราะสิ่งที่ตอกย้ำให้เชื่อเช่นนั้น มันมาจากพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยเอง
ฉะนั้นที่ “ณัฐวุฒิ” แดกดันว่า “ชูวิทย์” กลายเป็นผู้ชี้นำทิศทางประเทศถือว่าถูกเผงเลย
ขณะเดียวกับ “ณัฐวุฒิ” เองก็ตอกย้ำให้คำพูดของ “ชูวิทย์” ทีน้ำหนัก น่าเชื่อถือกว่าเดิมอีก
ชัดๆ ช้าๆ นะครับ
“เป้าหมายชัดต้องการส.ส.แลนด์สไลด์ และถ้าเรายกมือให้คนอื่นเป็นนายกฯ เราจะตอบประชาชนอย่างไร”
“ณัฐวุฒิ” ไม่ได้บอกว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ยกมือให้คนอื่นเป็นนายกฯ
เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยคือแลนด์สไลด์ และคนในพรรคเป็นนายกฯ
แล้วถ้าไม่แลนด์สไลด์หล่ะ
โอกาสพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวแทบเป็นศูนย์ ฉะนั้นหากพรรคเพื่อไทยจะยกเก้าอี้นายกฯ ให้คนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ “ณัฐวุฒิ” ผิดคำพูด
ไม่ยากที่จะอธิบายกับประชาชน
เพราะที่ผิดคือประชาชนไม่ยอมให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปล่อยให้คนนอกบงการพรรคมากเกินไป จนประชาชนหวาดหวั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะทำแผ่นเสียงตกร่อง
ย่ำอยู่กับที่
ให้ความสำคัญกับการเอา “ทักษิณ” กลับบ้านมากเกินไป
และประเด็นนี้ก็เคยจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรงถึงขั้นเผาบ้านเผาเมืองกันมาแล้ว คนที่ไม่อยากให้เกิดซ้ำย่อมมีแน่นอน
ครับ…สนามเลือกตั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งนี้น่าจะดูเดือดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมีตัวเลือกเยอะกว่าเดิม
“นิด้าโพล” ไปสำรวจความเห็นประชาชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากให้ใครเป็นนายกฯ
ผลคือ อันดับ ๑ ร้อยละ ๑๙.๘๒ ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ ๒ ร้อยละ ๑๗.๕๕ ระบุว่าเป็น วันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคประชาชาติ
อันดับ ๓ ร้อยละ ๑๖.๗๓ ระบุว่าเป็น แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย
ความนิยม “ลุงตู่” เหนือ “วันนอร์” ถือว่าใช้ได้ทีเดียว
โอกาสของพรรครวมไทยสร้างชาติมาแล้ว