ผักกาดหอม
มันก็เป็นซะแบบนี้…ไงเล่า
ศาลถึงไม่ให้ประกันตัว
สรุปแล้วซ้ำซากเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือ ลากเอาคนในครอบครัวมาจ่อคุกเพิ่ม
เฟซบุ๊ก รุ้ง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โพสต์ว่า
……เป็นเวลากว่า ๑๐ วันแล้ว ที่รุ้ง ปนัสยา ต้องถูกจองจำอยู่ในกรงขังแม้คดีจะยังไม่ถูกตัดสิน และรุ้งยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่กลับต้องถูกปฏิบัติเยี่ยงนักโทษที่กระทำความผิด
แม้นในคุกจะเงียบเหงาเพียงใด แต่รุ้งก็ยังใจสู้และมีกำลังใจเสมอ โดยรุ้งฝากข้อความออกมาผ่านทางทนายความที่เข้าไปเยี่ยมเพื่อดูแลคดีความเพื่อบอกเล่าชีวิตของรุ้ง ใจความว่า
“สิทธิในการประกันตัวมันควรจะพิจารณาให้ทุกคนได้อย่างเท่าเทียม ตัวเรายังไม่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิด การที่เรามาอยู่ในนี้ เราถูกพรากเสรีภาพและความเป็นมนุษย์ของเราไป การที่จะมีอิสระในการมีชีวิตแบบมนุษย์ที่จะได้เห็น ได้สัมผัส ได้รับรส กลิ่น เสียงและแสงแดดในโลกนี้ของเราถูกจำกัดไว้ในห้องขัง ณ ตอนนี้ ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ตามควรต้องมาประสบเลย ไม่ว่าใครก็ตาม
เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายของการสอบกลางภาคที่รุ้งควรจะได้สอบ แต่เราก็ถูกขังไว้ในนี้ ถึงเราจะได้ให้เหตุผลกับศาลไปหมดแล้ว แต่เราก็ไม่ได้รับความเห็นใจจากศาลแต่อย่างใด สิ่งที่อยากจะขอมีแค่อย่างเดียวคือ ปล่อยพวกเราออกไป โปรดช่วยชีวิตพวกเราด้วย
อีกเรื่อง อยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนพี่สาวรุ้งด้วย ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สนใจการเมืองเท่าไหร่ พอเห็นน้องสาวออกมา เขาก็มาทำความเข้าใจ และตอนนี้กลายมาเป็นแรงหลักของครอบครัวในการสนับสนุนเรา พี่เมเข้มแข็งมาก คนที่ไม่เคยอยู่ในแวดวง ไม่รู้จักใครเลย ต้องมาทำอะไรแบบนี้ เป็นกำลังใจให้พี่เม และอยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนพี่ รวมถึงครอบครัวของผู้ต้องขังทางการเมืองที่ออกมาต่อสู้ทุกคน”
ถึงตอนนี้มันจะหนัก แต่เชื่อเถอะว่า “ฟ้าหลังฝนย่อมมีรุ้งเสมอ”
รุ้ง ปนัสยา
(โพสต์โดยพี่สาวน้องรุ้ง)……..
นี่คือข้อความปลุกปั่นให้คนนอกชุมนุมกันต่อ
ให้พี่สาวเป็นตัวตายตัวแทน
พฤติกรรมสะสมแบบนี้ ยากที่ศาลจะให้ประกันตัว
ถ้าบรรดา “จานๆ” ที่บอกว่ารักเด็ก ห่วงว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อน บอกกับรุ้ง เพนกวิน ไผ่ ไมค์ ตรงๆ ว่า การส่งข้อความปลุกม็อบมาจากในคุกนั้น จะเป็นเหตุผลสำคัญที่ศาลไม่มีทางจะให้ประกันตัว
แม้จะรับปากว่าถ้าได้ออกไป จะไม่ปลุกปั่นชุมนุม ใครจะเชื่อ เพราะขนาดอยู่ในเรือนจำ ยังสลับกันยุให้คนนอกเรือนจำกลับมาชุมนุม
“อานนท์ นำภา” หนักกว่า “รุ้ง” มาก!
รายหลังดุเดือดถึงขนาดให้ตั้งศพประจาน
“….วันนี้ผมยังไม่ตาย แต่การอยู่หรือตายก็ไม่สำคัญเท่ากับการอยู่อย่างมีประโยชน์หรือตายอย่างมีคุณค่า
ถ้าการอยู่ในเรือนจำแล้วทำให้เห็นถึงความอัปลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรมไทย ผมก็ยินดี หรือถ้าต้องตายภายในเรือนจำ แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงก็ถือว่าคุ้มค่า
ถ้าผมตายไป ศพของผมให้นำใส่โลงศพ ไม่ต้องห่อด้วยถุงพลาสติก ไปวางไว้หน้าศาลอาญาบนถนนรัชดาภิเษก
เมื่อเลือดและน้ำหนองของผมไหลออกมาก็ปล่อยให้มันเจิ่งนองบนถนนรัชดา รอให้รถของคนที่มีส่วนทำให้ผมตายวิ่งมาเหยียบมันและกลับไปที่บ้าน เมื่อนั้นเลือดและน้ำหนองของผมจะไหลปนออกมากับน้ำที่เขาอาบและเมื่อเขากินข้าวหรือกาแฟ
เลือดและน้ำหนองของผมก็จะอยู่ในนั้น
วิญญาณของผมจะติดตามเขาไปทุกที่ กลิ่นสาบของผมจะติดตามชุดเครื่องแบบของพวกเขา
และวิญญาณของผมจะทอดร่างอยู่ใต้โต๊ะทำงานของพวกเขาเหล่านั้นไปจนกว่าจะถึงเวลาที่ผมจะได้เกิดใหม่
และถ้าผมเกิดใหม่แล้วเมืองไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ผมขอเกิดมาบนแผ่นดินไทยและขอเกิดเป็นลูกชาวนาอีกครั้ง เรียนกฎหมาย และกลับมาต่อสู้ร่วมกับพี่น้องจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
“ขอให้เจอมิตรสหายที่ดีอย่างเช่นทุกวันนี้”
จนกว่าเราจะพบกันอีก
อานนท์ นำภา
ห้อง ๗ แดน ๒ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
๑๘ มีนาคม ๒๕๖๔…”
ครับ…รู้สึกแปลกใจ “อานนท์” พูดแต่เรื่องตายในคุก
เอาจริงๆ นะ ถ้าอยากจะสร้างสถานการณ์ การตายในคุกไม่ใช่เรื่องยากนัก แค่อาศัยจังหวะและเวลาเท่านั้น
“อานนท์” ก็รู้ว่า เสื้อตัวเดียวก็ทำให้ตายได้
ตายแล้วจะมีประโยชน์หรือไม่ ก็ตอบไม่ได้ จนกว่าจะตายจริง
ไม่สนับสนุน และไม่เห็นด้วย ให้เจ้าหน้าที่ หรือนักฆ่า เข้าไปฆ่า “อานนท์” ในคุก….มันเป็นเรื่องปัญญาอ่อน
และไม่สนับสนุนให้ “อานนท์” ฆ่าตัวตาย เพราะยังต้องมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยยังปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไปอีกยาวนาน จนกว่าชีวิตจะหาไม่
“อานนท์” ตายไปแล้วระบอบการปกครองนี้ยังคงอยู่
แต่ขณะนี้ “อานนท์” ยังมีชีวิตอยู่
และปลุกความเกลียดชังจากในคุก
การบอกให้นำศพไปวางไว้บนถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา ให้รถของผู้มีส่วนทำให้ตัวเองอยู่ในคุก เหยียบเลือด เหยียบหนอง เพื่อตามไปหลอกหลอน อย่างแรกเลย รบกวนเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่งจิตแพทย์เข้าไปคุยกับ “อานนท์” ด่วน
เพราะน่าจะมีปัญหา!
ถ้าตรวจสอบแล้ว…สติสตางค์ของ “อานนท์” ยังเต็มร้อย ก็แสดงว่านี่คือการแสดงความอาฆาตแค้นบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม
ตั้งแต่ตำรวจ อัยการ ยันผู้พิพากษา
ขณะที่ภาพรวมในโพสต์ของ “อานนท์” นี่คือการปลุกให้เกิดความเกลียดชัง อีกไม่ช้าจะมีการรับลูกเป็นทอดๆ จากคณะสามนิ้วและสามสัส
ตามล่าผู้พิพากษาในโซเชียล!
สรุปจากพฤติกรรมของรุ้ง และอานนท์ รวมทั้งเพนกวิน ยื่นประกันตัวอีกร้อยครั้ง
ยังริบหรี่.