ผักกาดหอม
ว่าด้วยเรื่องบรรทัดฐานทางการเมือง
วันนี้มีเสียงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แน่นอนครับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาตั้งแต่ปี ๒๕๕๗
และเป็นมา ๘ ปีแล้ว
ประเด็นตอนนี้ว่าด้วยเรื่องข้อกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มาครบ ๘ ปี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๕๘ วรรค ๓ แล้วหรือยัง
คนที่ตัดสินข้อสงสัยนี้คือศาลรัฐธรรมนูญ
และอีกไม่กี่วันน่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา
ถ้าปล่อยไปตามนี้ ผลออกมาอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น
ครบก็จบ ยังไม่ครบก็อยู่ต่อ
หากทุกฝ่ายยอมรับอย่างน้อยๆมันคือการสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง
แต่ตอนนี้มีความพยายามให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกเป็นการแสดงสปิริตทางการเมือง เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง
ที่จริงแนวคิดแบบนี้ เป็นบวกกับระบอบประชาธิปไตย
นักการเมืองแสเดงสปิริตทางการเมือง ส่วนมากจะพบเห็นเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว
แต่สำหรับประเทศโลกที่สาม ยันประเทศกำลังพัฒนา หรือกึ่งพัฒนา เรื่องแบบนี้ไม่ค่อยจะมีให้เห็นสักเท่าไหร่
มีความเข้าใจผิดคิดว่าการเมืองที่พัฒนาแล้ว คือการเมืองที่นักการเมืองคุณภาพเท่านั้น
ไม่ใช่ครับ
ต้องพัฒนายันพลเมือง
เป็นไปไม่ได้ครับที่นักการเมืองมีสปิริตทางการเมืองสูง แต่พลเมืองคุณภาพต่ำ
ฉะนั้นเมื่อพูดถึงการเมืองที่พัฒนาแล้ว ต้องเข้าใจให้ตรงกันว่า ต้องหมายถึงพลเมืองที่มีคุณภาพ มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมสูงด้วย
เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารประเทศ ๘ ปี พาประเทศล่มจม เศรษฐกิจฝืดเคือง ประชาชนแร้นแค้น อดอยากอย่างแสนสาหัส ไม่มีจะกิน
หากยังอยู่ต่อ ทุกชีวิตกำลังเข้าสู่หายนะ
และหากพล.อ.ประยุทธ์ลาออก จะมีเสียงไชโยโห่ร้องของคนทั้งประเทศ
เพราะ ๑.เป็นการสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง
หากรัฐบาลต่อไปในภายภาคหน้า มีปัญหาพาประเทศล่มจม ตัวผู้นำประเทศต้องลาออกตามบรรทัดฐานที่พล.อ.ประยุทธ์สร้างไว้
๒.ทันทีที่รัฐบาลใหม่มาภายใน ๓ เดือน ๖ เดือน เศรษฐกิจของประเทศจะเจริญรุ่งเรือง ผู้คนมีเงินเต็มกระเป๋า ไปทางไหนมีแต่คนรวย รวยแล้วรวยอีก ไม่รู้จะรวยยังไงให้เข็ด
ใช่ครับ…ประชด
เห็นด้วยครับว่า เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ลาออกแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ “ประชาชน” บอกว่า ไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองขึ้นมา เพื่อให้นักการเมืองที่ก้าวเข้าสู่อำนาจรุ่นถัดๆได้ยึดถือ เอาไปฏิบัติเป็นเยี่ยงอย่าง
แต่เสียดายนิดเดียว ระบอบประชาธิปไตยไทยผ่านมา ๙๐ ปีแล้ว ไม่เคยมีผู้นำประเทศคนไหนสร้างบรรทัดฐานเช่นที่ว่านี้เลย
วันนี้นักการเมืองที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก พรรคการเมืองที่เคลื่อนไหวให้เปลี่ยนอำนาจ เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ เคยสร้างบรรดทัดฐานนี้หรือไม่
แค่คิดจะทำ เคยคิดหรือเปล่า
นี่แหละครับปัญหาการเมืองไทยที่ไปไม่ถึงไหน เพราะนักการเมืองเอาแต่เรียกร้องหาจากคนอื่น ถึงเวลาที่ตัวเองต้องปฏิบัติ กลับทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
สะกดคำว่าสปิริตทางการเมืองไม่ออก
ก่อนรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ มีเสียงเรียกร้องให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ลาออกแสดงความรับผิดชอบต่อความพยายามในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้คนโกงคือ “ทักษิณ ชินวัตร”
และรับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ปล่อยให้มีการทุจริต โดยเฉพาะในโครงการรับจำนำข้าว และระบายข้าวแบบจีทูจี
ลากยาวรวมครึ่งปีสุดท้ายถูกรัฐประหาร
ถ้าวันนั้น “ยิ่งลักษณ์” มีสปิริตพอ จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อาจปฏิเสธได้เลย
วันนี้ต้องลาออกสถานเดียว เป็นอย่างอื่นไม่ได้แม้กระผีกเดียว
และหากวันนั้นพรรคเพื่อไทยมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมพอ โหวตไม่ไว้วางใจ “ยิ่งลักษณ์” จากการถูกซักฟอกเรื่อง จำนำข้าว และระบายข้าวแบบจีทูจี
วันนี้คนโกงในรัฐบาลประยุทธ์ถูกถอนรากถอนโคนสิ้นซากไปแล้ว
แต่…มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย
ที่จริงประชาชนต้องตั้งคำถามกับนักการเมืองว่า ทำไมถึงไม่ทำเรื่องเหล่านี้ในยุคสมัยที่ตัวเองมีอำนาจ
หรือคิดว่านักการเมืองที่ตัวเองชื่นชอบไม่โกง
ขนาดมีคำพิพากษาของศาลออกมาว่าโกง มีการลงโทษ ติดคุกติดตารางกันไป ก็ยังมีคนเชื่อว่าไม่โกง
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา คดีจีทูจีเก๊
“บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์ จำคุก ๔๘ ปี
“ภูมิ สาระผล” อดีต รมช.พาณิชย์ ๓๖ ปี
ทั้งคู่เป็นรัฐมนตรีสังกัดพรรคเพื่อไทย
ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ เราไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากพรรคเพื่อไทยเลยแม้คำเดียว
มีแต่การตอบโต้ โจมตีศาล
สร้างวาทกรรม “ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง” และมีคนเชื่อจำนวนมาก
แล้วการเมืองแบบนี้จะพัฒนาได้อย่างไร
ครับ…วานนี้ (๒๘ สิงหาคม) พรรคสร้างอนาคตไทยจัดแถลงข่าวเปิดยุทธศาสตร์ เปลี่ยนอนาคตประเทศไทย
พันธกิจรีเซ็ตประเทศไทย ๕ แก้ไข
๑.แก้ปัญหาที่สั่งสมเป็นปัญหารุนแรง คือ ฉ้อราษฎร์บงหลวงต้องหยุดทุกระดับ
๒.ปราบปรามยาเสพติด
๓.สร้างความเท่าเทียมลดการผูกขาด เพิ่มการแข่งขัน
๔.ลดขนาดราชการ
๕.ยกระดับให้เกษตรกรทันสมัย
กับ ๕ สร้าง
๑.สร้างเศรษฐกิจฐานราก
๒.สร้างเศรษฐกิจใหม่
๓.สร้างสังคมเกื้อกูล
๔.สร้างคนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อมก้าวสู่สังคมยุคใหม่
๕.สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์
ถามว่ามีอะไรใหม่หรือเปล่า ไม่มีครับ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
เป็นเรื่องน่าชื่นชมครับที่พรรคสร้างอนาคตไทยนำประเด็นเหล่านี้มาตอกย้ำว่า ถึงเวลาต้องแก้ไขกันแล้ว
เรื่องเก่าๆทั้ง ๑๐ ข้อนี้ พรรคการเมืองเคยนำมาขายฝันให้ประชาชนมานานมากโขแล้ว แต่เมื่อมีอำนาจบริหารประเทศ กลับละเลยสัญญาประชาคมที่ตัวเองให้เอาไว้
โดยเฉพาะการปราบคอร์รัปชั่น มักจมหายไปกับผลประโยชน์กันมากมายมหาศาล ที่นักการเมืองได้จากการมีอำนาจ
โกงยังอยู่ต่อมีเยอะแยะ
มีพรรคการเมืองไหนเคยคิดสร้างบรรทัดฐานกันจริงๆบ้างครับ