รัฐมนตรี ดีอีเอส ลุยปราบเว็บพนัน เว็บลามกอนาจาร และเว็บการซื้อขายบริการทางสื่อออนไลน์ หลังระดมปิดกั้นอย่างต่อเนื่อง ขี้เหตุเว็บเข้าถึงง่าย เพราะประเทศเพื่อนบ้านถูกกฎหมาย
11 มกราคม 2565-นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ประชุม คณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ครั้งที่ 1 /2566 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมได้แก่ ผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงาน กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย และได้เพิ่มผู้แทนจาก กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาอาชญาออนไลน์
โดยที่ประชุมวันนี้ ได้มีการติดตามแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยได้สรุปผลของการปฎิบัติงานและสถิติการดำเนินคดีทางอาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญ ในปี 2565 (เดือนมกราคม ถึงธันวาคม 2565) ประกอบด้วย
1. ดำเนินคดีแก๊ง Call Center ในต่างประเทศ 8 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา 166 คน
2. ปิดกั้นการโทรหลอกลวง/ข้อความ SMS จำนวน 118,530 หมายเลข
3. การอายัดบัญชีม้าจำนวน 58,463 บัญชี และปิดกลุ่มโซเชี่ยลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 8 กลุ่ม
4. การดำเนินคดีหลอกลวงลงทุน – ระดมทุน ออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน จำนวน 657 คดี จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 673 ราย
5. การปราบพนันออนไลน์ โดยดำเนินคดี 318 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 461 ราย และปิดกั้นเว็บพนันจำนวน 1,830 เว็บ
6. การดำเนินคดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ จำนวน 263 คดี และจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 270 ราย
และที่ประชุมได้มีการติดตามการปิดกั้นเว็บผิดกฎหมาย 6 ด้าน ดังนี้
1. หมิ่นสถาบันฯ และความมั่นคง ปิดกั้นจำนวน 4,035 URLs
2. พนันออนไลน์ ปิดกั้นจำนวน 1,830 URLs
3. ลามกอนาจาร ปิดกั้นจำนวน 35 URLs
4. บุหรี่ไฟฟ้า ปิดกั้นจำนวน 76 URLs
5. สลากกินแบ่งฯ ปิดกั้นจำนวน 24 URLs
6. อาหารและยา ปิดกั้นจำนวน 24 URLs
ที่ประชุมเห็นว่า สำหรับเว็บพนัน ประเทศเพื่อนบ้านมีการเปิดเว็บพนันได้อย่างถูกกฎหมาย ทำให้มีคนไทยใช้เว็บพนันในประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก เกิดความเสียหายมูลค่ามหาศาลต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย สำหรับการปิดกั้นเว็บลามกอนาจารยังมีจำนวนน้อยอยู่ในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเรื่องลามกอนาจารและการค้ามนุษย์ หากมีการนำเข้าข้อมูลภาพลามกอนาจารออนไลน์ เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษตามกฎหมายอาญาด้วย
“ได้สั่งการให้เร่งรัดแก้ปัญหาลามกออนไลน์รวมทั้งการค้ามนุษย์ ให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และได้เพิ่มผู้แทนจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ด้านลามกอนาจารและการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ได้กำชับเรื่องปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ ถึงแม้ว่าจะมีการปิดกั้นเว็บพนันไปมากแล้ว แต่ก็มีเว็บพนันออนไลน์แพร่หลายเข้าถึงได้ง่าย ส่วนนึงเกิดจาก ประเทศเพื่อนบ้านมีการเปิดเว็บพนันได้อย่างถูกกฎหมาย แต่เราก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” นายชัยวุฒิ กล่าว