จากบูดู..สู่มาเลเซีย-สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

ในฐานะเป็นคนที่โตมากับน้ำบูดู-ข้าวยำน้ำมือแม่!

เมื่อทราบ..พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ชอบทานน้ำบูดู ก็ให้รู้สึกยินดีและดีใจยิ่งนัก ยิ่งท่านผู้นำบอกเชื่อมั่นว่า..

น้ำบูดู จะเป็นอีกหนึ่งสินค้า soft power ที่จะสร้างชื่อเสียง สร้างรายได้แก่คนในพื้นที่ และรัฐบาลจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดฮาลาล

ก็..ยิ่งให้รู้สึกปลื้มปริ่มไปกับพ่อแม่พี่น้องปลายด้ามขวาน ที่ต่อไป “น้ำบูดู” ซึ่งถือเป็น “มรดกทางวัฒนธรรม” ของชาวมลายูมุสลิมทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้และมาเลเซีย..

จะกระฉ่อน เป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวต่างชาติมากขึ้น!

จึงขอให้โครงการเรือธง “สายบุรี บูดู สู่ตลาดโลก” ที่ศอ.บต.ได้ร่วมมือกับ “เชฟชุมพล แจ้งไพร” ในการที่จะยกระดับ-พัฒนารสชาติน้ำบูดูให้ตรงกับรสนิยมผู้บริโภค..

มีความสำเร็จสมมุ่งมั่นตั้งใจ..ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยได้ลิ้มรส “บูดู” ก็ลองหาชิมกันดู ผมไม่อยากคุย-ไม่อยากโม้..ทานแล้วจะติดใจ!

ครับ..พูดถึงบูดู-พูดถึงมาเลเซีย ก็พอดีเมื่อสัปดาห์ก่อน มีโอกาสได้ติดสอยห้อยตามไปกับคณะพี่น้องสื่อมวลชนตามคำชวน-เชิญของการท่องเที่ยวมาเลเซีย ร่วมกับสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์

ในโอกาส “เปิดประเทศ-เปิดแหล่งท่องเที่ยว” อีกครั้ง หลังจากโควิด-19 เริ่มจะซา ซึ่งก็ต้องบอกว่า มาเลเซียวันนี้ดูแปลกตาไปมาก โดยเฉพาะด้านความสะอาด

นัยว่า อานิจสงฆ์จากโควิดนี้แหละ ที่ทำให้เมืองใหญ่อย่างกัวลาลัมเปอร์ดูเจริญหู-เจริญตา และร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ที่เขียวขจี จนทำให้เกิดคำถามในใจ..

ทำไมกรุงเทพฯ ไม่มีหน่วยงาน-แผนกตัด-แต่งกิ่งไม้ (มืออาชีพ) ที่ไม่ใช่แค่พนักงานโค่น-ตัดต้นไม้อย่างที่เห็นให้ทิ่มตา-แทงใจอยู่ทุกวันนี้บ้างนะ!

เช่นกัน..ที่เมื่อได้เดินทางไปเยือนเมืองปุตราจายา ได้ยลนครหลวงแห่งใหม่ของมาเลเซีย อันเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ รวมถึงทำเนียบนายกรัฐมนตรีแล้ว..

ให้แอบคิดในใจ..เมื่อไหร่หนอเราจะมี “นครหลวงแห่งใหม่” ที่รถไม่ติด หายใจโล่งปอดการคมนาคมสะดวกสบายเสียที?

และยังจะคิดต่อไป เมื่อได้นั่งกระเช้าลอยฟ้าฝ่าสายหมอกขึ้นไปสู่ “เก็นติ้งไฮแลนด์” บ่อนคาสิโนระดับชาติบนยอดเขา Gunung Ulu Kali ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 6,000 ฟิต

ทำไม ประเทศมุสลิมแท้ๆ เขายังมี “บ่อนคาสิโน” ได้ แล้วประเทศไทยเมื่อไหร่ถึงจะมี คาสิโน-เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ครบวงจร เอาเงินเข้าประเทศกับเขาบ้าง..หือ?

ครับ..ไปมาเลเซียคราวนี้ (หลังจากเมื่อ 10 ปีก่อน) แม้จะไม่ใช่ “สายมู” แต่เมื่อไปถึง “วัดถ้ำบาตู” ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู ที่มีรูปปั้นของ “พระขันธ์กุมาร” ยืนตระห่านสูงถึง 42.7 เมตร..

ทำให้ใจนึกอยากเดินขึ้นบันไดชัน 272 ขั้น ไปยังถ้ำ เพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยศรัทธา ก่อนจะลงมาซด “บะกุ๊ดเต๋” ที่ร้านอะไรจำไม่ได้ แต่บอกให้..อร่อยจนอยากชวน “แม่ช้อย” ไปชิม!

นี่..ทั้งโลกเริ่มเปิดประเทศกันแล้ว หลังจากโควิดสั่งปิดตายมาจะร่วม 3 ปี เมืองไทยเราตอนนี้ ถือเป็น “นัมเบอร์วัน” ประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางหลั่งไหลกันเข้ามา

ส่วนประเทศมาเลเซีย-เพื่อนบ้าน ประตูเพิ่งจะได้เปิดอ้า และจากที่ได้สัมผัสกับใจ-ได้เห็นกับตามา อยากแนะนำ หรือจะพูดว่า “เชิญชวน” ก็ไม่ผิดนัก

ห้วงนี้อากาศกำลังดี นักท่องเที่ยวยังไม่แออัด ผู้ที่ไม่เคยได้ไปสัมผัส น่าจะลองหาโอกาสเดินทางไปเที่ยว-ไปยลโฉมนครหลวงแห่งใหม่ รวมทั้งมัสยิดอาเหม็ด พระราชวังอิสตันน่า

หรือจะเป็น เมอร์เดก้าสแควร์ ตึกปิโตรนัส (ตึกแฝด) และอีกหลายสถานที่ประวัติศาสตร์-ธรรมชาติที่สวยงาม

โชคดี..อาจหอบเงินจาก “เก็นติ้งฯ” ลงมาก็ได้นะ!

Written By
More from pp
“ประเสริฐ” โต้ “วิษณุ” ยกปมบ้านพัก พล.อ.เปรม เทียบบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ ชี้รัฐธรรมนูญคนละฉบับ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในบ้านพักทหารนั้นเหมือนกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี...
Read More
0 replies on “จากบูดู..สู่มาเลเซีย-สันต์ สะตอแมน”