การจัดการกับข่าวเท็จ-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

บังเอิญหรือเปล่ามิทราบได้

๒ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล แถลงไม่เห็นด้วยกับประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เรื่องขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๖๕

ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ที่จะถึงนี้

“ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์” ใช้ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ในการแถลงข่าว

เนื้อหาอ้างว่า ประชาชนสงสัยต่อประกาศฉบับนี้ที่มีเนื้อหาควบคุมข้อมูลในโลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะกรณีที่ถ้าหากกระทรวงดีอีเอสเห็นว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง รัฐมนตรีดีอีเอสมีอำนาจสั่งให้ลบข้อมูลได้ภายใน ๒๔ ชั่วโมง

“ณัฐชา” บอกว่า ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงสิทธิเสรีภาพในการใช้พื้นที่ของประชาชน เพื่อใช้ตามล่าหาความจริง และบางครั้งพื้นที่เหล่านี้ก็ทำให้ปัญหาสังคมคลี่คลายลงได้

ครับ…มองโลกแบนไปหรือเปล่า?

วานนี้ (๑๕ ธันวาคม) มีแต่คนสอบถามเรื่องข่าวลือที่ปล่อยโดย ฝรั่งล้มเจ้า

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ข่าวอะไร

แต่อยู่ที่ความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล

ฝรั่งล้มเจ้าเมียไทย คนนี้ปล่อยข่าวให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยอยู่บ่อยครั้ง ทุกครั้งบรรดาแก๊งล้มเจ้าลี้ภัยในต่างประเทศ รับลูกเอาไปขยายความต่อ โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น

แทบทุกครั้งเป็นข้อมูลเท็จ

ก็ต้องถาม ส.ส.พรรคก้าวไกลว่า ปัญหาแบบนี้จะแก้ไขอย่างไร

เคยคิดเสนอแนวทางแก้ไขหรือไม่

รู้หรือเปล่าว่า ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลส่วนใหญ่ ตกเป็นเหยื่อของฝรั่งล้มเจ้าคนนี้มานานแล้ว

โซเชียลในเครือข่ายพรรคก้าวไกลสนับสนุนข้อมูลเท็จกันมานานแล้ว หากไม่มีกฎหมายมาควบคุมเลย อะไรจะเกิดขึ้น

เป็นที่รู้กันอยู่ว่าด้านมืดของโซเชียลนั้นมากมายมหาศาล ทำลายความสงบสุขของสังคมมาเยอะแล้ว และยากที่จะหามาตรการมาป้องกัน

แน่นอนครับ สิทธิเสรีภาพในการใช้พื้นที่ของประชาชนนั้นเป็นเรื่องสำคัญ

แต่การใช้สิทธิโดยสุจริตก็ไม่มีเหตุผลต้องกลัวว่าจะถูกควบคุม

มิติของพรรคก้าวไกลมองโซเชียลในแง่สิทธิเสรีภาพทางการเมืองเสียส่วนใหญ่ แต่อย่าลืมว่าโซเชียลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่อง และกฎหมายต้องมีเพื่อแก้ปัญหาโซเชียลในด้านมืดทุกเรื่อง

ไม่ใช่เอะอะ ปิดปากคนเห็นต่างทางการเมือง

ปิดอะไรครับ ด่ากันอยู่ทุกวัน

ลองไปดูเนื้อหาในประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฯ ฉบับนี้ซิครับ ว่าครอบคลุมเรื่องอะไรบ้าง

เช่น…ในกรณีการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๔ (๔) เป็นภาพลามกอนาจารเด็ก อันเป็นความผิดตามมาตรา ๒๘๗/๑ และ ๒๘๗/๒ ของประมวลกฎหมายอาญา ให้ระงับการทำให้แพร่หลาย นำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอื่นอันมิอาจก้าวล่วงได้ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ทันที และเมื่อเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอื่นอันมิอาจก้าวล่วงได้สิ้นสุดลง ผู้ให้บริการหรือสื่อสังคมออนไลน์ต้องดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลาย นำข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวออกจากระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินระยะเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง

เห็นมั้ยครับว่า เหตุจำเป็นที่ต้องมีประกาศฉบับนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อปิดปากประชาชน

เป็นการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้รองรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในปัจจุบัน

เป็นประกาศที่ปรับปรุงขั้นตอน การแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการให้ทันสมัย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมายผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ถ้าไม่ปรับมันก็ตามโซเชียลไม่ทัน

ก็อย่างที่เห็นอยู่ ปล่อยข่าวกันโครมๆ ส.ส.บางพวกแทนที่จะช่วยหาวิธีป้องกัน กลับเอาไปกระแนะกระแหนต่อในโซเชียล

ฝาก “ณัฐชา” ไปตรวจสอบดู เพราะเป็น ส.ส.จากพรรคท่านนั่นแหละ

ใช้ทวิตเตอร์ แซะสถาบันพระมหากษัตริย์เสียจนเคยตัว

ไม่เข้าใจตรรกะของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. ที่ร่วมแถลงข่าวด้วยจริงๆ

“…ที่ผ่านมาชัดเจนว่า รมว.ดีอีเอสส่วนใหญ่ใช้อำนาจรัฐควบคุมประชาชน และเมื่อมีประกาศฉบับนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่ามีการลักไก่และปิดปากประชาชนมากขึ้น เพราะสามารถลบข้อมูลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ข้อมูลเท็จ และข้อมูลลามกอนาจาร ตามแฟลตฟอร์มต่างๆ ภายใน ๒๔ ชั่วโมง อีกทั้งยังไม่เปิดช่องให้เจ้าของข้อมูลชี้แจงโต้แย้งใดๆ ดังนั้น ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล และต้องการวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา รมว.ดีอีเอสก็สามารถใช้อำนาจตามประกาศฉบับนี้ได้เลย ซึ่งเห็นว่าประกาศดังกล่าวอาจขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ…”

ถ้ารัฐมนตรีมีปัญหา ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว

แต่การมาบอกว่ารัฐมนตรีมีปัญหา ฉะนั้นห้ามออกประกาศ แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ

ในทางการเมืองมันไม่มีใครไว้ใจใครหรอกครับ ลองพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลก็โดนฝ่ายค้านโจมตีเหมือนกัน แต่…กฎหมายมันต้องมีเพื่อแก้ปัญหา

ข้อมูลลามกอนาจาร ไม่ต้องลบกันเลยหรือไร

ที่ยิ่งไปกว่านั้น ถามว่า ข่าวเท็จจากฝรั่งล้มเจ้า แค่ยืนดูอย่างเดียวไม่ต้องทำอะไรอย่างนั้นหรือ

ครับ…

สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร ความว่า

เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๘.๒๐ น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงทำการฝึกสุนัขทรงเลี้ยงที่จะเข้าแข่งขันสุนัขใช้งานตามมาตรฐานสากลในรายการ Thailand Working Dog Championship by Royal Thai Army 2022 ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ณ สนามฝึก กองพันสุนัขทหาร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ในระหว่างที่ทรงทำการฝึก ทรงมีพระอาการประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย คณะแพทย์ประจำพระองค์จึงได้เชิญเสด็จพระราชดำเนินไปปฐมพยาบาล ณ โรงพยาบาลปากช่องนานา พระอาการประชวรคงที่ในระดับหนึ่ง

จากนั้น ได้เชิญเสด็จประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อถวายการตรวจพระวรกายอย่างละเอียด และประทับรักษาพระองค์ต่อไป

จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน.

Written By
More from pp
พาณิชย์ผนึกกำลังปั๊มน้ำมัน ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ห้างท้องถิ่นรับซื้อมังคุดจากเกษตรกร ช่วยดึงราคามังคุดให้สูงขึ้น 
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงผลผลิตผลไม้มังคุดในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID – 19) ทำให้มีข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายแรงงานของผู้ประกอบการ
Read More
0 replies on “การจัดการกับข่าวเท็จ-ผักกาดหอม”